ดูเหมือนเป้าหมายที่เป็นวาระสำคัญของชาติก็คือความปรองดองของคนในชาติที่แบ่งฝักฝ่ายออกเป็นสองขั้ว ซึ่งถ้าจะพูดอย่างตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อมเป็นรูปธรรมก็คือ ฝ่ายที่เอาทักษิณและไม่เอาทักษิณ
โดยฝ่ายที่ไม่เอาทักษิณยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต และการใช้อำนาจอย่างเป็นธรรม ในขณะที่ฝ่ายสนับสนุนทักษิณอ้างความชอบธรรมของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง โดยวาทกรรมที่ใช้ก็คือชนชั้นสูงอิจฉาทักษิณเพราะทักษิณทำให้คนชั้นล่างอยู่ดีกินดีขึ้น ซึ่งยังไม่เห็นเหตุผลเลยว่า ถ้าทักษิณทำให้คนชั้นล่างกินดีอยู่ดีขึ้นแล้วคนชั้นสูงจะต้องอิจฉาทักษิณทำไม
ฝ่ายสนับสนุนทักษิณโจมตีว่าฝ่ายต่อต้านทักษิณไม่เคารพหลักการของระบอบประชาธิปไตย เพราะออกมาขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง พวกเขาบอกว่า ถ้ารัฐบาลทักษิณทำไม่ถูกก็ต้องให้การเลือกตั้งครั้งต่อไปเป็นการตัดสินไม่ใช่ออกมาชุมนุมขับไล่ พวกต่อต้านทักษิณยังถูกกล่าวหาว่า ออกมาชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้เกิดการรัฐประหาร
ขณะที่คณะรัฐประหารก็อ้างความจำเป็นในการเข้ายึดอำนาจไว้ในรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ว่า
เกิดสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองขึ้นในกรุงเทพมหานคร และพื้นที่ใกล้เคียงต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน จนลุกลามไปสู่แทบทุกภูมิภาคของประเทศ ประชาชนแตกแยกเป็นฝ่ายต่างๆ ขาดความสามัคคีและมีทัศนคติไม่เป็นมิตรต่อกัน บางครั้งเกิดความรุนแรง ใช้กําลังและอาวุธสงครามเข้าทําร้ายประหัตประหารกัน สวัสดิภาพและการดํารงชีวิตของประชาชนไม่เป็นปกติสุข การพัฒนาเศรษฐกิจและการเมืองการปกครองชะงักงัน กระทบต่อการใช้อํานาจในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร และในทางตุลาการ การบังคับใช้กฎหมายไม่ได้ผล นับเป็นวิกฤตการณ์ร้ายแรงที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ต้องยอมรับกันว่าความขัดแย้งในอุดมการณ์ทางการเมืองไม่ใช่ปัญหาของระบอบประชาธิปไตย ถ้าความขัดแย้งนั้นไม่นำไปสู่ความรุนแรงและความรุนแรงจะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าไม่มีคนใช้อาวุธสงครามมาขว้างหรือยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุม ข้ออ้างเรื่องรัฐประหารเพราะใช้อาวุธสงครามเข้าประหัตประหารก็จะไม่มี ดังนั้นย่อมต้องพูดว่า ฝ่ายที่เชื้อเชิญให้เกิดรัฐประหารก็คือ ฝ่ายที่เริ่มใช้ความรุนแรงนั่นเอง
คำถามว่าหลังการรัฐประหารสามารถยุติความขัดแย้งในชาติลงไปได้จริงๆ หรือ หรือแท้จริงแล้วความขัดแย้งยังคงดำรงอยู่แต่แค่ถูกทำให้ยุติลงชั่วคราว
ต้องยอมรับว่าขบวนการของคนเสื้อแดงที่ก่อรูปขึ้นมาเพื่อจัดตั้งมวลชนออกมาสนับสนุนระบอบทักษิณนั้น มิได้มีเป้าหมายเพียงเพื่อปกป้องทักษิณเท่านั้น แต่ได้ขยายไปสู่เป้าหมายที่ต้องการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองด้วย แน่นอนว่าเราไม่สามารถพูดได้ว่าคนเสื้อแดงทั้งหมดมีแนวคิดแบบนี้ แต่พูดได้ว่าคนที่มีแนวคิดเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองทั้งหมดเป็นคนเสื้อแดง
ปัจจุบันคนเสื้อแดงที่มีแนวคิดเปลี่ยนแปลงระบอบมีการเคลื่อนไหวอย่างเปิดเผยมากขึ้น แม้ว่าส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวอยู่ในต่างประเทศ แต่ก็สามารถเห็นถึงสายสัมพันธ์กับคนเสื้อแดงที่เคลื่อนไหวอยู่ในประเทศ และความเชื่อมโยงกับระบอบทักษิณและพรรคของทักษิณอย่างยากที่จะปฏิเสธความสัมพันธ์ได้ แม้ว่าการเคลื่อนไหวของพวกเขาจะผิดกฎหมายไทย และกระทบต่อความมั่นคงในประเทศ แต่เราต้องยอมรับว่า พวกเขาได้รับการยอมรับในระดับสากล
ดังนั้นความขัดแย้งแตกแยกในบ้านเราได้พัฒนากลายเป็นการปกป้องการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขกับความต้องการระบอบสาธารณรัฐไปแล้ว
ผมเห็นความพยายามที่จะลดความขัดแย้งภายในประเทศที่ฝังลึกมาเป็น 10 ปี โดยมีจุดมุ่งหมายไปที่การลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในด้านต่างๆ เพราะเชื่อว่า สิ่งที่ทำให้มวลชนกลุ่มหนึ่งหันมาสนับสนุนทักษิณเพราะพวกเขาไม่ได้รับความเป็นธรรมจากอำนาจรัฐ การลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมเป็นสิ่งที่ดีแน่ แต่มันจะทำให้ความขัดแย้งหายไปจริงๆหรือ
หรือนี่เป็นการยอมรับวาทกรรมของฝ่ายระบอบทักษิณว่า สังคมไทยยังคงมีความเหลื่อมล้ำทางชนชั้นระหว่างไพร่กับอำมาตย์ ยอมรับว่าทักษิณเป็นผู้ปลดปล่อยไพร่ให้รอดพ้นจากการกดขี่ข่มเหง ทั้งๆ ที่จริงแล้ว ฝ่ายที่ขับไล่ทักษิณและฝ่ายที่สนับสนุนทักษิณต่างก็มีคนในทุกระดับชนชั้นเหมือนกัน ไม่สามารถแยกแยะได้ชัดเจนว่า คนชั้นล่างทั้งหมดสนับสนุนทักษิณและคนชั้นสูงต่อต้านทักษิณ เพราะเอาเข้าจริงๆ แล้วไม่ใช่ปัญหาของชนชั้นเลย แต่เรื่องชนชั้นเป็นเรื่องที่แกนนำเสื้อแดงกุขึ้นมาเพื่อปลุกปั่นให้สังคมแตกแยกและหลอกคนชั้นล่างมาตายแทน
เราจะเห็นว่าหลังยิ่งลักษณ์ น้องสาวของทักษิณชนะเลือกตั้ง ประชาชนก็ยังยอมอยู่ใต้การปกครองของยิ่งลักษณ์ไม่ได้ออกมาขับไล่เพราะแพ้เลือกตั้งทุกคนยอมรับกติกาในระบอบประชาธิปไตย ยิ่งลักษณ์อยู่ในอำนาจถึง 2 ปีกว่า จนกระทั่งรัฐบาลยิ่งลักษณ์ใช้เสียงข้างมากเพื่อแก้ไขกฎหมายลบล้างความผิดให้ทักษิณนั่นต่างหากที่สร้างความชอบธรรมให้มวลมหาประชาชนออกมาชุมนุมขับไล่
ดังนั้นปัญหาของประเทศนี้ไม่ใช่ความเหลื่อมล้ำที่แกนนำเสื้อแดงนำมาปั่นหัวมวลชนให้ออกมาต่อสู้เพื่อทักษิณ แต่เป็นเรื่องของการใช้อำนาจที่ไม่ชอบธรรมของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเท่านั้นเอง และเป็นเรื่องของฝ่ายที่ต้องการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองที่อิงแอบอยู่กับระบอบทักษิณปลุกปั่นเรื่องชนชั้นขึ้นมาเพื่อลบล้างสถาบันที่พวกเขาชิงชัง
ผมเห็นร่างรัฐธรรมนูญที่กรรมาธิการกำลังยกร่างอยู่นี้ ก็ได้บัญญัติเรื่องการแก้ปัญหาความขัดแย้งไว้ในรัฐธรรมนูญด้วยโดยมีสาระสำคัญคือ ให้มีคณะกรรมการอิสระเสริมสร้างความปรองดองแห่งชาติ โดยกำหนดไว้ว่า กรรมการจำนวนไม่เกินสิบห้าคนซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งไม่เป็นฝักฝ่ายทางการเมืองหรือความขัดแย้ง และผู้ซึ่งเป็นผู้นำในความขัดแย้ง
ความพยายามแก้ปัญหาความแตกแยกในชาติเป็นสิ่งที่ดี แต่ปัญหาก็คือ เราสามารถหาคนที่เป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายไหนในสังคมไทยได้จริงหรือ แล้วแก้ปัญหาถูกทางไหม
ยังมีคำถามที่ตามมาว่า แล้วเราจะปรองดองกับอะไร เราจะปรองดองกับคนที่อิงแอบอยู่เพื่อล้มล้างสถาบันหรือ เราจะยอมรับการใช้อำนาจที่ไม่ชอบธรรมของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเช่นนั้นหรือ หรือเราจะลบล้างความผิดให้กับทักษิณเพื่อให้ความขัดแย้งในสังคมไทยจบไป
ผมยืนยันนะครับว่า ปัญหาความแตกแยกของสังคมไทยไม่ใช่ความเหลื่อมล้ำ ปัญหาคนรวยคนจนเป็นปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมที่เกิดขึ้นกับทุกชาติในโลกนี้ แน่นอนว่ารัฐต้องหาทางแก้ไขและเยียวยาเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของคนในประเทศให้ดีขึ้น
ส่วนเรื่องไพร่-อำมาตย์เป็นเพียงนิยายลวงโลกที่พวกเสื้อแดงแต่งขึ้นมาเพื่อหลอกคนชั้นล่างให้มาตายแทน ดังนั้นน่าจะพูดได้ว่าปัญหาที่แท้จริงเกิดจากประชาชน 2 กลุ่มที่เอาทักษิณและไม่เอาทักษิณเท่านั้นเอง
โดยฝ่ายที่ไม่เอาทักษิณยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต และการใช้อำนาจอย่างเป็นธรรม ในขณะที่ฝ่ายสนับสนุนทักษิณอ้างความชอบธรรมของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง โดยวาทกรรมที่ใช้ก็คือชนชั้นสูงอิจฉาทักษิณเพราะทักษิณทำให้คนชั้นล่างอยู่ดีกินดีขึ้น ซึ่งยังไม่เห็นเหตุผลเลยว่า ถ้าทักษิณทำให้คนชั้นล่างกินดีอยู่ดีขึ้นแล้วคนชั้นสูงจะต้องอิจฉาทักษิณทำไม
ฝ่ายสนับสนุนทักษิณโจมตีว่าฝ่ายต่อต้านทักษิณไม่เคารพหลักการของระบอบประชาธิปไตย เพราะออกมาขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง พวกเขาบอกว่า ถ้ารัฐบาลทักษิณทำไม่ถูกก็ต้องให้การเลือกตั้งครั้งต่อไปเป็นการตัดสินไม่ใช่ออกมาชุมนุมขับไล่ พวกต่อต้านทักษิณยังถูกกล่าวหาว่า ออกมาชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้เกิดการรัฐประหาร
ขณะที่คณะรัฐประหารก็อ้างความจำเป็นในการเข้ายึดอำนาจไว้ในรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ว่า
เกิดสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองขึ้นในกรุงเทพมหานคร และพื้นที่ใกล้เคียงต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน จนลุกลามไปสู่แทบทุกภูมิภาคของประเทศ ประชาชนแตกแยกเป็นฝ่ายต่างๆ ขาดความสามัคคีและมีทัศนคติไม่เป็นมิตรต่อกัน บางครั้งเกิดความรุนแรง ใช้กําลังและอาวุธสงครามเข้าทําร้ายประหัตประหารกัน สวัสดิภาพและการดํารงชีวิตของประชาชนไม่เป็นปกติสุข การพัฒนาเศรษฐกิจและการเมืองการปกครองชะงักงัน กระทบต่อการใช้อํานาจในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร และในทางตุลาการ การบังคับใช้กฎหมายไม่ได้ผล นับเป็นวิกฤตการณ์ร้ายแรงที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ต้องยอมรับกันว่าความขัดแย้งในอุดมการณ์ทางการเมืองไม่ใช่ปัญหาของระบอบประชาธิปไตย ถ้าความขัดแย้งนั้นไม่นำไปสู่ความรุนแรงและความรุนแรงจะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าไม่มีคนใช้อาวุธสงครามมาขว้างหรือยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุม ข้ออ้างเรื่องรัฐประหารเพราะใช้อาวุธสงครามเข้าประหัตประหารก็จะไม่มี ดังนั้นย่อมต้องพูดว่า ฝ่ายที่เชื้อเชิญให้เกิดรัฐประหารก็คือ ฝ่ายที่เริ่มใช้ความรุนแรงนั่นเอง
คำถามว่าหลังการรัฐประหารสามารถยุติความขัดแย้งในชาติลงไปได้จริงๆ หรือ หรือแท้จริงแล้วความขัดแย้งยังคงดำรงอยู่แต่แค่ถูกทำให้ยุติลงชั่วคราว
ต้องยอมรับว่าขบวนการของคนเสื้อแดงที่ก่อรูปขึ้นมาเพื่อจัดตั้งมวลชนออกมาสนับสนุนระบอบทักษิณนั้น มิได้มีเป้าหมายเพียงเพื่อปกป้องทักษิณเท่านั้น แต่ได้ขยายไปสู่เป้าหมายที่ต้องการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองด้วย แน่นอนว่าเราไม่สามารถพูดได้ว่าคนเสื้อแดงทั้งหมดมีแนวคิดแบบนี้ แต่พูดได้ว่าคนที่มีแนวคิดเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองทั้งหมดเป็นคนเสื้อแดง
ปัจจุบันคนเสื้อแดงที่มีแนวคิดเปลี่ยนแปลงระบอบมีการเคลื่อนไหวอย่างเปิดเผยมากขึ้น แม้ว่าส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวอยู่ในต่างประเทศ แต่ก็สามารถเห็นถึงสายสัมพันธ์กับคนเสื้อแดงที่เคลื่อนไหวอยู่ในประเทศ และความเชื่อมโยงกับระบอบทักษิณและพรรคของทักษิณอย่างยากที่จะปฏิเสธความสัมพันธ์ได้ แม้ว่าการเคลื่อนไหวของพวกเขาจะผิดกฎหมายไทย และกระทบต่อความมั่นคงในประเทศ แต่เราต้องยอมรับว่า พวกเขาได้รับการยอมรับในระดับสากล
ดังนั้นความขัดแย้งแตกแยกในบ้านเราได้พัฒนากลายเป็นการปกป้องการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขกับความต้องการระบอบสาธารณรัฐไปแล้ว
ผมเห็นความพยายามที่จะลดความขัดแย้งภายในประเทศที่ฝังลึกมาเป็น 10 ปี โดยมีจุดมุ่งหมายไปที่การลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในด้านต่างๆ เพราะเชื่อว่า สิ่งที่ทำให้มวลชนกลุ่มหนึ่งหันมาสนับสนุนทักษิณเพราะพวกเขาไม่ได้รับความเป็นธรรมจากอำนาจรัฐ การลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมเป็นสิ่งที่ดีแน่ แต่มันจะทำให้ความขัดแย้งหายไปจริงๆหรือ
หรือนี่เป็นการยอมรับวาทกรรมของฝ่ายระบอบทักษิณว่า สังคมไทยยังคงมีความเหลื่อมล้ำทางชนชั้นระหว่างไพร่กับอำมาตย์ ยอมรับว่าทักษิณเป็นผู้ปลดปล่อยไพร่ให้รอดพ้นจากการกดขี่ข่มเหง ทั้งๆ ที่จริงแล้ว ฝ่ายที่ขับไล่ทักษิณและฝ่ายที่สนับสนุนทักษิณต่างก็มีคนในทุกระดับชนชั้นเหมือนกัน ไม่สามารถแยกแยะได้ชัดเจนว่า คนชั้นล่างทั้งหมดสนับสนุนทักษิณและคนชั้นสูงต่อต้านทักษิณ เพราะเอาเข้าจริงๆ แล้วไม่ใช่ปัญหาของชนชั้นเลย แต่เรื่องชนชั้นเป็นเรื่องที่แกนนำเสื้อแดงกุขึ้นมาเพื่อปลุกปั่นให้สังคมแตกแยกและหลอกคนชั้นล่างมาตายแทน
เราจะเห็นว่าหลังยิ่งลักษณ์ น้องสาวของทักษิณชนะเลือกตั้ง ประชาชนก็ยังยอมอยู่ใต้การปกครองของยิ่งลักษณ์ไม่ได้ออกมาขับไล่เพราะแพ้เลือกตั้งทุกคนยอมรับกติกาในระบอบประชาธิปไตย ยิ่งลักษณ์อยู่ในอำนาจถึง 2 ปีกว่า จนกระทั่งรัฐบาลยิ่งลักษณ์ใช้เสียงข้างมากเพื่อแก้ไขกฎหมายลบล้างความผิดให้ทักษิณนั่นต่างหากที่สร้างความชอบธรรมให้มวลมหาประชาชนออกมาชุมนุมขับไล่
ดังนั้นปัญหาของประเทศนี้ไม่ใช่ความเหลื่อมล้ำที่แกนนำเสื้อแดงนำมาปั่นหัวมวลชนให้ออกมาต่อสู้เพื่อทักษิณ แต่เป็นเรื่องของการใช้อำนาจที่ไม่ชอบธรรมของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเท่านั้นเอง และเป็นเรื่องของฝ่ายที่ต้องการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองที่อิงแอบอยู่กับระบอบทักษิณปลุกปั่นเรื่องชนชั้นขึ้นมาเพื่อลบล้างสถาบันที่พวกเขาชิงชัง
ผมเห็นร่างรัฐธรรมนูญที่กรรมาธิการกำลังยกร่างอยู่นี้ ก็ได้บัญญัติเรื่องการแก้ปัญหาความขัดแย้งไว้ในรัฐธรรมนูญด้วยโดยมีสาระสำคัญคือ ให้มีคณะกรรมการอิสระเสริมสร้างความปรองดองแห่งชาติ โดยกำหนดไว้ว่า กรรมการจำนวนไม่เกินสิบห้าคนซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งไม่เป็นฝักฝ่ายทางการเมืองหรือความขัดแย้ง และผู้ซึ่งเป็นผู้นำในความขัดแย้ง
ความพยายามแก้ปัญหาความแตกแยกในชาติเป็นสิ่งที่ดี แต่ปัญหาก็คือ เราสามารถหาคนที่เป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายไหนในสังคมไทยได้จริงหรือ แล้วแก้ปัญหาถูกทางไหม
ยังมีคำถามที่ตามมาว่า แล้วเราจะปรองดองกับอะไร เราจะปรองดองกับคนที่อิงแอบอยู่เพื่อล้มล้างสถาบันหรือ เราจะยอมรับการใช้อำนาจที่ไม่ชอบธรรมของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเช่นนั้นหรือ หรือเราจะลบล้างความผิดให้กับทักษิณเพื่อให้ความขัดแย้งในสังคมไทยจบไป
ผมยืนยันนะครับว่า ปัญหาความแตกแยกของสังคมไทยไม่ใช่ความเหลื่อมล้ำ ปัญหาคนรวยคนจนเป็นปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมที่เกิดขึ้นกับทุกชาติในโลกนี้ แน่นอนว่ารัฐต้องหาทางแก้ไขและเยียวยาเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของคนในประเทศให้ดีขึ้น
ส่วนเรื่องไพร่-อำมาตย์เป็นเพียงนิยายลวงโลกที่พวกเสื้อแดงแต่งขึ้นมาเพื่อหลอกคนชั้นล่างให้มาตายแทน ดังนั้นน่าจะพูดได้ว่าปัญหาที่แท้จริงเกิดจากประชาชน 2 กลุ่มที่เอาทักษิณและไม่เอาทักษิณเท่านั้นเอง