xs
xsm
sm
md
lg

เนปาลระทึกแผ่นดินไหวซ้ำ รุนแรง7.3 ตาย37เจ็บเกินพัน-แพทย์ไทยปลอดภัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการรายวัน- แผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงระดับ 7.3 ถล่มเนปาลซ้ำสองในวันอังคาร (12 พ.ค.) ติดตามด้วยอาฟเตอร์ช็อกรุนแรงอีกหลายระลอก รวมทั้งเกิดดินถล่มในบางพื้นที่ และอาคารหลายหลังได้พังครืนลงมาในคราวนี้ ประชาชนต่างพากันแตกตื่นหนีภัยอลหม่าน สำหรับตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 37 ราย และได้รับบาดเจ็บพันกว่าคน ด้านสธ.เผยได้รับข้อมูลจากเนปาล เบื้องต้นพบ แผ่นดินไหวระลอกใหม่ เผยต้องรอดูข้อมูลที่ชัดเจนและท่าทีรัฐบาลเนป่าลต้องการให้ทีมแพทย์ไทยช่วยเหลือต่ออย่างไร ขณะที่ทีมแพทย์ไทยอีก 44 ชีวิตที่ไปช่วยเหลือ ปลอดภัยดี ขณะที่ทหารไทยชุดกู้ภัยในเนปาลเสร็จสิ้นภารกิจเดินทางกลับถึงไทยวันนี้ ส่วนทีมแพทย์ ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อ

แผ่นดินไหวขนาด 7.3 ครั้งใหม่นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.35 น. วันอังคาร ตามเวลาท้องถิ่นของเนปาล (ตรงกับ 13.50 น.เวลาเมืองไทย) โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองนัมเช บาซาร์ ใกล้กับเทือกเขาเอเวอเรสต์และพรมแดนทิเบต และอยู่ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุประมาณ 76 ก.ม. ทั้งนี้ จากรายงานของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐฯ

จากนั้นก็เกิดการสั่นสะเทือนครั้งที่สองวัดความรุนแรงได้ 6.3 โดยเกิดขึ้นหลังจากครั้งแรกราวครึ่งชั่วโมง และยังตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อกอีกหลายระลอก

ท้องที่ต่างๆ ซึ่งอยู่ทางด้ตะวันออกเฉียงเหนือของนครหลวงกาฐมาณฑุ น่าจะประสบกับฤทธิ์เดชของแผ่นดินไหวครั้งใหม่นี้รุนแรงที่สุด อีกทั้งสร้างความหวาดผวาให้แก่ประเทศที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาหิมาลัยแห่งนี้ ที่ยังไม่ทันฟื้นตัวจากแผ่นดินไหวใหญ่คราวก่อนซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ 25 เมษายนโดยมีความร้ายแรงระดับ 7.8 และสังหารผู้คนไปมากกว่า 8,150 คน ทำให้หมู่บ้านหลายแห่งพังราบทั้งหมู่บ้าน ผู้คนเรือนแสนกลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัย

ข่าวสารข้อมูลไหลเข้ามสู่กาฐมาณฑุด้วยความล่าช้าภายหลังธรณีพิโรธในช่วงเที่ยงวันอังคาร แต่เจ้าหน้าที่ทางการและหน่วยงานบรรเทาทุกข์ต่างๆ บอกว่า พวกเขาคาดหมายว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้น จากนั้นอีกราว 4 ชั่วโมงต่อมา กระทรวงแถลงข่าวระบุว่ามีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 42 คน ก่อนที่จะแก้ไขตัวเลขให้ต่ำลงมาเหลือ 37 คน และมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 1,139 คน

ขณะเดียวกัน ลักษมี ปราสาท ดากาล โฆษกกระทรวงมหาดไทยแถลงว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถดึงเอาผู้คนจำนวน 3 คนที่ติดอยู่ในซากปรักหักพังในเมืองหลวงออกมาได้สำเร็จ และกำลังช่วยเหลือผู้ที่ยังติดอยู่อีก 9 คนในอำเภอโดลข่า

รัฐบาลระบุว่า ได้รีบเร่งจัดส่งเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยไปยังท้องที่เขตเขา ซึ่งดินที่ถล่มลงมาตลอดจนอาคารที่พังครืนอาจจะฝังผู้คนอยู่ข้างใต้ ดากาล บอกว่า อำเภอสินธุปัลโชค และโดลข่า เป็นบริเวณที่ประสบภัยหนักหน่วงที่สุด

โฆษกกระทรวงมหาดไทยผู้นี้แถลงว่า รัฐบาลยังไม่สามารถติดต่อกับประชาชนในบริเวณดังกล่าวได้ แต่รายงานเบื้องต้นบ่งชี้ว่า มีความเสียหายใน 2 อำเภอดังกล่าว โดยเฉพาะในเมืองโชทารา ในสินธุปัลโชคที่เกิดเหตุดินถล่มตามมาและมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย

อย่างไรก็ตาม แผ่นดินไหวครั้งใหม่นี้มีศูนย์กลางที่อยู่ลึกกว่าคราวก่อน นั่นคืออยู่ในระดับความลึก 18.5 ก.ม. เปรียบเทียบกับครั้งเมื่อวันที่ 25 เม.ย. ซึ่งอยู่ในระดับ 15 ก.ม. ทั้งนี้ศูนย์กลางของธรณีพิโรธซึ่งอยู่ตื้นกว่า มักก่อความเสียหายให้หนักหน่วงกว่า

กระนั้นก็ตาม แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดยังส่งแรงสั่นสะเทือนให้รับรู้ได้ถึงกรุงนิวเดลีของอินเดียที่อยู่ห่างออกไป 1,000 กิโลเมตร โดยมีรายงานว่า พบผู้เสียชีวิต 17 คนในภาคเหนือของอินเดีย ส่วนใหญ่ในท้องที่ของรัฐพิหาร นอกจากนั้นยังทำให้อาคารในทิเบตหลายหลังถล่ม และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย

ในกรุงกาฐมาณทุ ท่าอากาศยานนานาชาติตรีภูวัณ ซึ่งเป็นจุดเข้า-ออกหลักจุดเดียวสำหรับเครื่องบินที่นำความช่วยเหลือจากนานาชาติไปมอบให้แก่เนปาลนับจากปลายเดือนที่แล้ว ต้องปิดชั่วคราวเพื่อระวังไว้ก่อน

ส่วนที่โรงพยาบาลหลักในเมืองหลวงของเนปาล ผู้ได้รับบาดเจ็บจากแผ่นดินไหวครั้งที่แล้วถูกนำขึ้นรถเข็นเข็นออกนอกอาคาร แพทย์พยาบาลเร่งรีบตั้งเต็นท์ในลานจอดรถ ทั่วทั้งเมืองหลวงมีแต่เสียงแตรรถยนต์ดังระงม เนื่องจากประชาชนรีบกลับไปหาครอบครัว

ตำรวจเนปาลเรียกร้องให้ประชาชนอยู่นอกอาคาร รวมทั้งอย่ากีดขวางเส้นทางสัญจร และพยายามใช้โทรศัพท์มือถือเฉพาะกรณีที่จำเป็นเท่านั้น หรือใช้วิธีส่งข้อความสั้นแทนเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเครือข่ายสัญญาณติดขัด

ขณะที่ทีมกู้ภัยนานาชาติหลายทีมที่เพิ่งเดินทางกลับถึงบ้านเกิดกำลังพิจารณาเดินทางกลับไปช่วยเนปาลอีกรอบ

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูแห่งอิสราเอล กล่าวระหว่างพิธีต้อนรับตัวแทนทีมกู้ภัยทางทหารที่เพิ่งเดินทางถึงกรุงเทลอาวีฟว่า บุคลากรเหล่านี้เตรียมพร้อมเดินทางกลับไปช่วยเนปาล หากจำเป็น

***รอข้อมูลจะให้แพทย์ไทยช่วยเหลืออย่างไร

นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ได้รับรายงานว่าได้เกิดแผ่นดินไหวในประเทศเนปาลอีกครั้ง พบว่าขณะนี้มีผู้เสียชีวิต สำหรับทีมแพทย์ไทยที่ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ประเทศเนปาล ซึ่งขณะนี้มีอยู่ 2 ทีมรวม 44 คน ไม่มีใครได้รับอันตรายหรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะไม่ใช่พื้นที่ที่เกิดเหตุ เพียงแต่รับรู้ได้ถึงความสั่นไหวของพื้นดิน โดยทีมแพทย์ทีมที่ 3 ซึ่งไปประจำอยู่ที่โรงเรียนชานดานี อ.เคบีพาลันโชค นั้นได้รับรายงานว่า มีหลังคาพังเล็กน้อยจากเหตุดังกล่าว ซึ่ง นพ.เกรียงศักดิ์ ธนอัศวนันท์ หัวหน้าทีมแพทย์ไทยชุดที่ 3 ได้ให้ทุกคนออกมาตั้งเต็นท์นอกอาคาร

นพ.วชิระ กล่าวว่า สำหรับผลกระทบอื่นๆ ขณะนี้ยังไม่ทราบ ต้องรอข่าวสารจากทางรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขเนปาลว่า มีผู้บาดเจ็บเพิ่มหรือไม่อย่างไร และต้องการความช่วยเหลืออย่างใดบ้างจากทีมแพทย์ต่างชาติรวมถึงทีมแพทย์ไทย ซึ่งทั้งหมดยังต้องรอการประสานข้อมูลและความชัดเจนจากเนปาล แต่นโยบายของรัฐบาลเนปาลในช่วงนี้คือต้องการให้ทีมแพทย์นานาชาติถอนทีมและส่งมอบภารกิจให้แก่เจ้าหน้าที่ในพื้นที่

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 12 พ.ค.58 เวลา 1400 น. ตามเวลาท้องถิ่น พล.ต.ปริญญา ขุนนาศรี รองเจ้ากรมยุทธการทหาร หัวหน้าชุดปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในประเทศเนปาล และกำลังพลจำนวน 36 นาย ได้เสร็จสิ้นภารกิจบรรเทาสาธารณภัยในประเทศเนปาลเรียบร้อยแล้ว และได้พร้อมเดินทางกลับประเทศไทย ด้วยเครื่องบิน กองทัพอากาศ C 130 ซึ่งจะลงจอด พร้อมมีพิธีต้อนรับกำลังพลที่เดินทางกลับ ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง โดยมี พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานในพิธีฯ

สำหรับการปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในประเทศเนปาล ของกองทัพไทย ได้เริ่มภารกิจตั้งแต่ วันที่ 28 เม.ย. ถึง 12 พ.ค.58 รวมกว่า 15 วัน โดยภารกิจหลักคือ การให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์ ด้านค้นหาและกู้ภัย ด้านการมอบสิ่งของบริจาค และด้านการผลิตน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค โดยผลการปฏิบัติภารกิจ เป็นไปตามวัตถุประสงค์ทุกประการ โดยสามารถให้การรักษาผู้ป่วย 2,351 ราย ผลิตน้ำดื่มได้ 65,000 ลิตร สามารถค้นหาผู้เสียชีวิตได้จำนวนหนึ่งบริจาคสิ่งของให้กับชุมชนขนาดใหญ่ 2 ชุมชน ซึ่งได้รับความชื่นชมจากทั้งรัฐบาล และกองทัพเนปาลเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ ท่านนายกรัฐมนตรี ยังส่งกำลังใจไปยังทีมแพทย์ไทย ที่ยังปฏิบัติภารกิจอยู่ในเนปาล โดยให้ทั้งการบริการทางการแพทย์ และจัดกิจกรรมสันทนาการให้แก่เด็ก และผู้ใหญ่ ในพื้นที่เพื่อช่วยผ่อนคลายความเครียด รวมทั้งจัดกิจกรรมให้ความรู้ด้านสุขศึกษาแก่เด็กเยาวชนในชุมชน และให้บริการตัดผมแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมระหว่างการจัดตั้งหน่วยตรวจโรคอีกด้วย "ท่านนายกรัฐมนตรี ฝากให้กำลังใจทีมแพทย์ และบุคลาการทางการแพทย์ทุกท่านที่ปฏิบัติหน้าที่ในเนปาล โดยถือว่าทุกท่านทำหน้าที่เป็นตัวแทนประเทศไทยในการแสดงน้ำใจและมนุษยธรรมให้เป็นที่ประจักษ์ และขอให้ทีมบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านรักษาสุขภาพด้วย" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น