จับตาเก้าอี้ปลัดก.พลังงานร้อนหลังโยก”อารีพงศ์”กลับไปนั่งก.พ.ร.ที่คลัง ราชการหนุน”คุรุจิต”หนึ่งในบอร์ดปตท.อาวุโสกว่าแต่อายุงานในกระทรวงเหลือน้อย วัดใจ”ณรงค์ชัย” ขณะที่คุรุจิต เคยหนุนเร่งเปิดสัมปทานรอบ 21 วงในให้จับตางานนี้ วิ่งกันฝุ่นตลบมีลุ้นทั้งคนในและคนนอก "รสนา" จี้ เดินหน้าปฏิรูปตำรวจ หลังถูกคุกคามแจ้งหมายจับถึงบ้าน ชี้ต้องเอากระบวนการสอบสวนออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติโยกย้ายนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน กลับไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) นอกจากนี้ครม.มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพลังงานเสนอแต่งตั้ง นายสุชาลี สุมามาลย์ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกะทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงพลังงาน ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างลง
อย่างไรก็ตาม มีรายงานด้วยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)ได้แต่งตั้งนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) อีก 1 ตำแหน่ง โดยจะมีการเสนอ ครม.สัปดาห์หน้าเช่นกัน
***เบื้องหลังโยก‘อารีพงศ์’
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสข่าวของการถูกโยกตำแหน่งของนายอารีพงศ์มีมาเป็นระยะๆ และเกิดการรับรู้กันชัดเจนตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาและในช่วงเช้าวันที่ 12 พ.ค. นายอารีพงศ์ได้เข้าประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงและได้กล่าวกับบรรดาข้าราชการด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มว่าตนคงไม่ได้อยู่ที่นี่อีกแต่ก็ไม่ทราบว่าจะได้ไปไหน จนกระทั่งช่วงบ่ายมีข่าวจากครม.ว่าถูกโยกไปอยู่ก.พ.ร.
อย่างไรก็ตามสาเหตุหลัก มาจากการเสนอของฝ่ายการเมืองให้สลับตำแหน่ง เพราะการทำงานของนายอารีพงศ์และทีมงานของนายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงานไม่ไปในทิศทางเดียวกันนัก ทำให้ข้าราชการมีการทำงานลำบาก เพราะเกิดการสั่งงานที่ซ้ำซ้อนกัน จนทำให้ฝ่ายการเมืองเสนอตรงนายกฯให้สลับเพื่อความคล่องตัว
อย่างไรก็ตามกระแสข่าวการวางตัวนายอารีพงศ์กลับไปครั้งนี้มีข้อแลกเปลี่ยนที่อาจให้นายอารีพงศ์ขึ้นเป็นปลัดคลังโดยรอให้คนปัจจุบันเกษียณก่อน แต่กระนั้นก็มีข่าวอีกกระแสที่จะต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดเพราะมีการระบุว่าจากนี้ไป นายอารีพงศ์ อาจจะไปสมัครเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ด้วยคุณสมบัติที่นายอารีพงศ์
ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ประธานคระกรรมการธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) คณะกรรมการบริษัทปตท.จำกัด(มหาชน) รวมทั้งเคยผ่านงานที่กระทรวงการคลังมาก่อนหน้านี้
ส่วนทางฝ่ายปลัดกระทรวงพลังงานนั้น หากมองความอาวุโสคงหนีไม่พ้น นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน แต่ก็จะต้องวัดใจกันเนื่องจากนายคุรุจิตจะเกษียณราชการอีกเพียง 4 เดือนกว่านี้ ซึ่งหากถามบรรดาราชการกระทรวงพลังงานซึ่งเป็นราชการรุ่นเก่าต่างก็เห็นว่าสมควรแม้เวลาจะเหลือน้อยก็ตาม แต่กระแสหนึ่งที่บรรดาราชการต่างก็จับตามองคือนายทวารัฐ สูตะบุตร ที่ถูกฝ่ายการเมืองหนุนหลังดันขึ้นตำแหน่งมาเป็นรองปลัด เพื่อวางตัวเป็นปลัด ซึ่งมีอายุราชการเหลืออีกนับสิบปี ทำให้บรรดาราชการอาวุโสทั้งอดีตและปัจจุบันส่วนใหญ่เองไม่เห็นด้วยนักเพราะมีความอาวุโสน้อยเกินไปควรจะสรรหาบุคคลที่มีความอาวุโสทั้งคุณวุฒิและวัยวุฒิมากกว่านี้ ดังนั้น จึงต้องติดตามว่าที่สุดจะเป็นคนในหรือคนนอก
อนึ่ง นายคุรุจิต นาครทรรพ มีประสบการณ์ทางด้านพลังงาน รวมถึงดำรงตำแหน่งในบริษัทน้ำมันเอกชน และนั่งเป็นบอร์ดในปตท. และเป็นผู้หนึ่งที่ออกมาหนุนให้กระทรวงพลังงาน หนุนเปิดสัมปทานรอบ 21
***‘รสนา’ฟ้องเจอตร.คุกคามยัดคดีหมิ่นปตท.ถึง4รอบ
น.ส.รสนา โตสิตระกูล สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านพลังงาน กล่าวหารือในที่ประชุมว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา ตำรวจจาก สภ.อ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม ได้เอาหมายผู้ต้องหา มาหาที่บ้าน เพื่อให้เซ็นรับการเป็นผู้ต้องหาตามหมายเรียกของ สน.ชนะสงคราม สาเหตุของเรื่องหมายเรียกผู้ต้องหาของ สน.ชนะสงคราม มาจากบริษัท ปตท. แจ้งความว่า ตนหมิ่นประมาทบริษัท ปตท. จากการพูดให้ข้อมูลในงานเสวนาเรื่อง ปฏิรูปพลังงาน ครั้งที่ 2 หัวข้อ “น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติของประชาชน ใครปล้นไป เมื่อ 2 มีนาคม 2557 ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ ในตอนท้ายรายการพิธีกรได้เชิญให้ตนแสดงความเห็น ซึ่งตนเพิ่งกลับจากดูงานบริษัท ปิโตรนาส ที่มาเลเซีย เลยเล่าข้อมูลให้ที่ประชุมฟังเรื่องที่ได้ฟังจากอดีตประธานปิโตรนัสว่า บริษัท ปิโตรนาส ของมาเลเซีย เป็นบริษัทพลังงานแห่งชาติที่มีรัฐเป็นเจ้าของ 100 % ทำให้การส่งรายได้ให้รัฐเท่ากับ 40% ของงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งเป็นข้อความที่ ปตท. หาว่าหมิ่นประมาทเขา ให้ถูกเกลียดชัง
น.ส.รสนา กล่าวต่อว่า เมื่อได้หมายเรียก ตนได้ทำหนังสือแจ้งไปที่พนักงานสอบสวนว่า ข้อมูลที่ได้พูดไปนั้น มาจากข้อมูลเงินนำส่งรายได้แผ่นดินของรัฐวิสาหกิจ ประจำปี 2551 - 2555 มาจาก เว็บไซต์ ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นเอกสารที่เผยแพร่ และบุคคลทั่วไปก็สามารถดูได้ และขอให้พนักงานสอบสวน ยกเลิกข้อกล่าวหาเสีย เพราะประเด็นที่ บมจ.ปตท. กล่าวหาว่าตนหมิ่นประมาทนั้น ตนได้พูดให้ข้อมูลจากแหล่งที่มาที่แน่นอน และไม่เป็นกระทำความผิดต่อบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) แต่อย่างใด
แต่พนักงานสอบสวนท่านนั้น ยังคงส่งหมายเรียกครั้งที่ 4 เพื่อให้ไปพบ ในวันศุกร์ที่ 8 พ.ค. ตนให้ทนายโทรไปหาพนักงานสอบสวนท่านนั้น และแจ้งว่า ได้ส่งเรื่องร้องเรียนไปที่ บชน.แล้ว และจะรอผลการพิจารณาของบช.น. ก่อน โดยจะไม่ไปพบในวันศุกร์ที่ 8 พ.ค. เพราะวันนั้นตนมีนัดหมายไปพบผู้ว่าการ สตง. เพื่อส่งหลักฐานเพิ่มเติมคือคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่องการคืนท่อก๊าซไม่ครบถ้วน แต่ ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้น วันที่ 7 พ.ค. พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ก็ส่งตำรวจจาก สภ.อ.โพธิ์แก้ว บุกไปหาตนที่บ้าน เพื่อให้ตน หรือคนในบ้าน เซ็นรับหมายเรียกผู้ต้องหา ทำให้คนที่บ้านตกใจกันมาก
" การกระทำเหล่านี้ ถือเป็นการคุกคามดิฉันโดยไม่เป็นธรรมหรือไม่ เพราะการที่เราให้ความเห็นโดยปกติ และเป็นข้อมูลจากทางการ ดิฉันถูกหมายเรียกที่จะให้รับทราบการเป็นผู้ต้องหาให้ได้ และการที่ส่งตำรวจมาถึงบ้าน ดิฉันคิดว่า เป็นสิ่งที่ข่มขู่ คุกคาม และในฐานะ สปช. ยังโดนขนาดนี้ และถ้าเป็นประชาชน จะถูกกระทำอย่างไร ดิฉันคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะมีการปฏิรูปกระบวนการสอบสวนของตำรวจ ให้ออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปลอดพ้นจากการครอบงำของผู้มีอำนาจรัฐ และอำนาจทุน เพื่อให้กระบวนการสอบสวนของตำรวจเป็นต้นทางของระบบยุติธรรมอย่างแท้จริง" น.ส.รสนา กล่าว และว่า ตนอยากฝากเรียนเรื่องนี้ไปถูกนายกรัฐมนตรีด้วย เพราะในขณะนี้ หน่วยงานรัฐอย่าง ปตท.ได้ฟ้องร้องประชาชนมากกว่า 20 ดคี ซึ่งตนคิดว่าการกระทำเหล่านี้ คือการปิดปากประชาชน
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติโยกย้ายนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน กลับไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) นอกจากนี้ครม.มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพลังงานเสนอแต่งตั้ง นายสุชาลี สุมามาลย์ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกะทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงพลังงาน ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างลง
อย่างไรก็ตาม มีรายงานด้วยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)ได้แต่งตั้งนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) อีก 1 ตำแหน่ง โดยจะมีการเสนอ ครม.สัปดาห์หน้าเช่นกัน
***เบื้องหลังโยก‘อารีพงศ์’
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสข่าวของการถูกโยกตำแหน่งของนายอารีพงศ์มีมาเป็นระยะๆ และเกิดการรับรู้กันชัดเจนตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาและในช่วงเช้าวันที่ 12 พ.ค. นายอารีพงศ์ได้เข้าประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงและได้กล่าวกับบรรดาข้าราชการด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มว่าตนคงไม่ได้อยู่ที่นี่อีกแต่ก็ไม่ทราบว่าจะได้ไปไหน จนกระทั่งช่วงบ่ายมีข่าวจากครม.ว่าถูกโยกไปอยู่ก.พ.ร.
อย่างไรก็ตามสาเหตุหลัก มาจากการเสนอของฝ่ายการเมืองให้สลับตำแหน่ง เพราะการทำงานของนายอารีพงศ์และทีมงานของนายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงานไม่ไปในทิศทางเดียวกันนัก ทำให้ข้าราชการมีการทำงานลำบาก เพราะเกิดการสั่งงานที่ซ้ำซ้อนกัน จนทำให้ฝ่ายการเมืองเสนอตรงนายกฯให้สลับเพื่อความคล่องตัว
อย่างไรก็ตามกระแสข่าวการวางตัวนายอารีพงศ์กลับไปครั้งนี้มีข้อแลกเปลี่ยนที่อาจให้นายอารีพงศ์ขึ้นเป็นปลัดคลังโดยรอให้คนปัจจุบันเกษียณก่อน แต่กระนั้นก็มีข่าวอีกกระแสที่จะต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดเพราะมีการระบุว่าจากนี้ไป นายอารีพงศ์ อาจจะไปสมัครเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ด้วยคุณสมบัติที่นายอารีพงศ์
ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ประธานคระกรรมการธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) คณะกรรมการบริษัทปตท.จำกัด(มหาชน) รวมทั้งเคยผ่านงานที่กระทรวงการคลังมาก่อนหน้านี้
ส่วนทางฝ่ายปลัดกระทรวงพลังงานนั้น หากมองความอาวุโสคงหนีไม่พ้น นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน แต่ก็จะต้องวัดใจกันเนื่องจากนายคุรุจิตจะเกษียณราชการอีกเพียง 4 เดือนกว่านี้ ซึ่งหากถามบรรดาราชการกระทรวงพลังงานซึ่งเป็นราชการรุ่นเก่าต่างก็เห็นว่าสมควรแม้เวลาจะเหลือน้อยก็ตาม แต่กระแสหนึ่งที่บรรดาราชการต่างก็จับตามองคือนายทวารัฐ สูตะบุตร ที่ถูกฝ่ายการเมืองหนุนหลังดันขึ้นตำแหน่งมาเป็นรองปลัด เพื่อวางตัวเป็นปลัด ซึ่งมีอายุราชการเหลืออีกนับสิบปี ทำให้บรรดาราชการอาวุโสทั้งอดีตและปัจจุบันส่วนใหญ่เองไม่เห็นด้วยนักเพราะมีความอาวุโสน้อยเกินไปควรจะสรรหาบุคคลที่มีความอาวุโสทั้งคุณวุฒิและวัยวุฒิมากกว่านี้ ดังนั้น จึงต้องติดตามว่าที่สุดจะเป็นคนในหรือคนนอก
อนึ่ง นายคุรุจิต นาครทรรพ มีประสบการณ์ทางด้านพลังงาน รวมถึงดำรงตำแหน่งในบริษัทน้ำมันเอกชน และนั่งเป็นบอร์ดในปตท. และเป็นผู้หนึ่งที่ออกมาหนุนให้กระทรวงพลังงาน หนุนเปิดสัมปทานรอบ 21
***‘รสนา’ฟ้องเจอตร.คุกคามยัดคดีหมิ่นปตท.ถึง4รอบ
น.ส.รสนา โตสิตระกูล สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านพลังงาน กล่าวหารือในที่ประชุมว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา ตำรวจจาก สภ.อ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม ได้เอาหมายผู้ต้องหา มาหาที่บ้าน เพื่อให้เซ็นรับการเป็นผู้ต้องหาตามหมายเรียกของ สน.ชนะสงคราม สาเหตุของเรื่องหมายเรียกผู้ต้องหาของ สน.ชนะสงคราม มาจากบริษัท ปตท. แจ้งความว่า ตนหมิ่นประมาทบริษัท ปตท. จากการพูดให้ข้อมูลในงานเสวนาเรื่อง ปฏิรูปพลังงาน ครั้งที่ 2 หัวข้อ “น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติของประชาชน ใครปล้นไป เมื่อ 2 มีนาคม 2557 ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ ในตอนท้ายรายการพิธีกรได้เชิญให้ตนแสดงความเห็น ซึ่งตนเพิ่งกลับจากดูงานบริษัท ปิโตรนาส ที่มาเลเซีย เลยเล่าข้อมูลให้ที่ประชุมฟังเรื่องที่ได้ฟังจากอดีตประธานปิโตรนัสว่า บริษัท ปิโตรนาส ของมาเลเซีย เป็นบริษัทพลังงานแห่งชาติที่มีรัฐเป็นเจ้าของ 100 % ทำให้การส่งรายได้ให้รัฐเท่ากับ 40% ของงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งเป็นข้อความที่ ปตท. หาว่าหมิ่นประมาทเขา ให้ถูกเกลียดชัง
น.ส.รสนา กล่าวต่อว่า เมื่อได้หมายเรียก ตนได้ทำหนังสือแจ้งไปที่พนักงานสอบสวนว่า ข้อมูลที่ได้พูดไปนั้น มาจากข้อมูลเงินนำส่งรายได้แผ่นดินของรัฐวิสาหกิจ ประจำปี 2551 - 2555 มาจาก เว็บไซต์ ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นเอกสารที่เผยแพร่ และบุคคลทั่วไปก็สามารถดูได้ และขอให้พนักงานสอบสวน ยกเลิกข้อกล่าวหาเสีย เพราะประเด็นที่ บมจ.ปตท. กล่าวหาว่าตนหมิ่นประมาทนั้น ตนได้พูดให้ข้อมูลจากแหล่งที่มาที่แน่นอน และไม่เป็นกระทำความผิดต่อบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) แต่อย่างใด
แต่พนักงานสอบสวนท่านนั้น ยังคงส่งหมายเรียกครั้งที่ 4 เพื่อให้ไปพบ ในวันศุกร์ที่ 8 พ.ค. ตนให้ทนายโทรไปหาพนักงานสอบสวนท่านนั้น และแจ้งว่า ได้ส่งเรื่องร้องเรียนไปที่ บชน.แล้ว และจะรอผลการพิจารณาของบช.น. ก่อน โดยจะไม่ไปพบในวันศุกร์ที่ 8 พ.ค. เพราะวันนั้นตนมีนัดหมายไปพบผู้ว่าการ สตง. เพื่อส่งหลักฐานเพิ่มเติมคือคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่องการคืนท่อก๊าซไม่ครบถ้วน แต่ ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้น วันที่ 7 พ.ค. พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ก็ส่งตำรวจจาก สภ.อ.โพธิ์แก้ว บุกไปหาตนที่บ้าน เพื่อให้ตน หรือคนในบ้าน เซ็นรับหมายเรียกผู้ต้องหา ทำให้คนที่บ้านตกใจกันมาก
" การกระทำเหล่านี้ ถือเป็นการคุกคามดิฉันโดยไม่เป็นธรรมหรือไม่ เพราะการที่เราให้ความเห็นโดยปกติ และเป็นข้อมูลจากทางการ ดิฉันถูกหมายเรียกที่จะให้รับทราบการเป็นผู้ต้องหาให้ได้ และการที่ส่งตำรวจมาถึงบ้าน ดิฉันคิดว่า เป็นสิ่งที่ข่มขู่ คุกคาม และในฐานะ สปช. ยังโดนขนาดนี้ และถ้าเป็นประชาชน จะถูกกระทำอย่างไร ดิฉันคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะมีการปฏิรูปกระบวนการสอบสวนของตำรวจ ให้ออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปลอดพ้นจากการครอบงำของผู้มีอำนาจรัฐ และอำนาจทุน เพื่อให้กระบวนการสอบสวนของตำรวจเป็นต้นทางของระบบยุติธรรมอย่างแท้จริง" น.ส.รสนา กล่าว และว่า ตนอยากฝากเรียนเรื่องนี้ไปถูกนายกรัฐมนตรีด้วย เพราะในขณะนี้ หน่วยงานรัฐอย่าง ปตท.ได้ฟ้องร้องประชาชนมากกว่า 20 ดคี ซึ่งตนคิดว่าการกระทำเหล่านี้ คือการปิดปากประชาชน