Insanity is doing the same thing over and over again and expecting different results.
มีแต่คนบ้าเท่านั้น ที่จะทำสิ่งเดิมซ้ำๆ แต่กลับหวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง!
หลักการ “กล้าคิด-กล้าทดลอง-กล้าทำสิ่งใหม่” ทำให้ “อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์” (Albert Einstein) พบสูตรทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้องและลงตัว จนเกิด “พลังนิวเคลียร์” ขึ้นบนโลกใบนี้
แต่แทนที่ “พลังนิวเคลียร์” จะถูกใช้อย่างสร้างสรรค์ต่อชีวิตมนุษยชาติ ผู้นำชาติมหาอำนาจที่ละโมบไม่รู้จักพอ กลับนำไปผลิตเป็นอาวุธคร่าชีวิตผู้คนหลายล้านคน ในนาม “ระเบิดนิวเคลียร์”
อย่างไรก็ตาม...โลกนี้มีนักวิทยาศาสตร์มากมายที่จมปลักหรือ “บ้า” อยู่กับสิ่งเดิมๆ จึงไม่มีผลงานทางวิทยาศาสตร์ ที่ดีเด่นแปลกใหม่ให้ชาวโลกได้ชื่นชม
“ไอน์สไตน์” เป็นคน “กล้าคิด-กล้าทดลอง-กล้าทำสิ่งใหม่” จึงมีผลงานดีๆ ให้โลก แต่ผู้บริหารชาติไทยทั้งอดีตจรดปัจจุบัน จมปลักกับวิธีคิดและทำในสิ่งเดิมๆ แต่กลับหวังจะได้ผลลัพธ์แตกต่างและดีๆ ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย เช่น
ทุนสามานย์จำเจกับปฏิบัติการเดิมๆ ในการใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้ง เข้ายึดอำนาจรัฐ-เพื่อโกงชาติ!
ต้องรู้ไว้ ณ ที่นี้ว่า นายทุนสามานย์ยึดและโกงชาติได้ ก็เพราะรัฐธรรมนูญระบุว่า สภาฯ-ประกอบด้วยผู้แทนฯ ที่มาจากการเลือกตั้งเท่านั้น จึงเกิดการใช้เงินซื้อตัว ส.ส.และซื้อเสียงเลือกตั้ง ที่คนชั่วกล้าทำชั่วต่อชาติเช่นนี้ ก็เพราะกฎหมายไทยมีบทลงโทษการซื้อเสียงเลือกตั้ง และการคอร์รัปชันเบามาก ทำให้นักธุรกิจการเมืองคุ้มค่ากับการลงทุนซื้อเสียง และโกงชาติซ้ำๆ ซากๆ
ทหารก็จำเจกับปฏิบัติการเดิมๆ ในการใช้ปืนโค่นรัฐบาลใช้เงินซื้อเสียงและโกงชาติ เพื่อยึดอำนาจรัฐมาไว้ในกำมือทหารแค่กลุ่มหนึ่ง!
แต่คณะรัฐประหารที่ผ่านๆ มา ไม่เคยแก้จุดอ่อนในระบบการเมือง ที่เอื้อประโยชน์ต่อนายทุนสามานย์เลย ดังนั้น การเมืองไทยจึงวนเวียนซ้ำๆ ซากๆ อยู่กับเรื่อง ทหารฉีกรัฐธรรมนูญซ้ำซาก-แล้ว-ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ซ้ำซาก ทว่าทุกครั้งจะเป็นรัฐธรรมนูญ “เหล้าเก่าในขวดใหม่” นั่นคือ ยังคงระบุให้ “สภาฯ ประกอบด้วยผู้แทนฯที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด” ดังเดิม
แถมการเลือกตั้งก็เป็น “เหล้าเก่าในขวดใหม่” เช่นกัน เพราะปล่อยให้การเลือกตั้งยังสกปรกกับการใช้เงินซื้อเสียงและโกงกันได้สารพัดนั่นเอง
จึงไม่น่าแปลกใจที่มีการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อไหร่ เครือข่ายทักษิณจะทุ่มเงินมหาศาลมาลงทุนทำธุรกิจการเมืองในชาติไทยเสมอ และพวกเขามักประสบชัยชนะครั้งแล้วครั้งเล่าเรื่อยมา
แน่นอน...รัฐบาลของทุนสามานย์ จะต้องคอร์รัปชันถอนทุนบวกกำไรอย่างมหาศาลทุกครั้งด้วย!
ดังนั้น กลุ่มทุนสามานย์ทางการเมืองเหล่านี้ จึงไม่มีวันจะยกเลิกประเด็น “สภาฯ ประกอบด้วยผู้แทนฯ ที่มาจากการเลือกตั้งเท่านั้น” และไม่มีวันจะเพิ่มบทลงโทษ คนใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้งและโกงชาติ ด้วยการยึดทรัพย์ผู้กระทำความผิดและครอบครัว รวมทั้งตัดสิทธิทางการเมืองและติดคุกตลอดชีวิต ฯลฯ
ที่ผ่านมา...ทหารที่ยึดอำนาจรัฐด้วยปืนก็รู้ว่า คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่พร้อมในแทบทุกมิติกับระบอบประชาธิปไตยที่ลอกแบบตะวันตก แต่พวกเขาก็ไม่เคยขจัดจุดอ่อนระบอบการเมืองนี้ และไม่เคยทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรมได้เลย
ลงท้าย...การใช้เงินซื้อเสียงยึดอำนาจรัฐ กับการใช้ปืนยึดอำนาจรัฐ จึงเป็นวงจรอุบาทว์จนกลายเป็นการเมืองเรื่อง “สมบัติชาติผลัดกันโกง” ไปเสียฉิบ
แถมคณะรัฐประหารบางกลุ่ม เคยประกาศสาเหตุที่ต้องล้มรัฐบาลซื้อเสียงเลือกตั้งในชาติไทยไว้ถึง 4 ข้อว่า มีการทุจริตคอร์รัปชัน มีการสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน มีการแทรกแซงองค์กรอิสระ และมีการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯ
แถมยังระบุชัดว่า “ระบอบทักษิณ” กำลังสร้างปัญหาใหญ่ให้ชาติไทย จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่ทหารต้องทำรัฐประหาร เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้
การรัฐประหารของคณะทหารครั้งนั้น จึงได้รับ “ดอกไม้” จากคนไทยล้นหลาม แถมมีเสียงแซ่ซ้องสดุดีไปทุกหย่อมหญ้า ผู้คนล้วนฝากความหวังไว้ว่า ทหารจะทำให้ชาติไทยก้าวไปสู่มิติ คนดีได้ขึ้นปกครองบ้านเมือง และกีดกันมิให้คนชั่วมีอำนาจ เที่ยวสร้างความวุ่นวายให้กับชาติได้อีก
ทั้งนี้...เพราะทหารมีอำนาจพิเศษล้นฟ้า ที่จะปฏิบัติการให้ชาติมีสันติสุขอย่างถาวรนั่นเอง!
แต่คณะรัฐประหารครั้งนั้น ก็เกิดอาการ “เยี่ยวไม่สุด” แถมภายหลังยังขายความถูกต้องของตนเองที่ได้ประกาศต่อสาธารณชน ด้วยการผันตนไปเป็น “ขี้ข้ารับใช้ทุนสามานย์” แบบเต็มตัว
รัฐประหาร “กำมะลอ” จึงลงเอย ตามเพลง “ขอให้เหมือนเดิม” นั่นคือ
สภาฯ-ประกอบด้วยผู้แทนฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง! การเลือกตั้งยังไม่มีความบริสุทธิ์ยุติธรรม! กฎหมายลงโทษคนใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้ง และรัฐบาลคอร์รัปชันโกงชาติยังเบาหวิว!
การเมืองไทยจึงจมปลักอยู่กับวงจรอุบาทว์ซ้ำๆ ซากๆ ดังนี้
รัฐธรรมนูญระบุ-สมาชิกสภาฯ มาจากการเลือกตั้ง-เกิดรัฐบาลใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้งโกงชาติ-ประชาชนทนไม่ไหวออกมาขับไล่-คณะทหารทำรัฐประหารยึดอำนาจรัฐ-มีการเลือกตั้งสกปรก-ซ้ำๆ ซากๆ เป็นแผ่นเสียงตกร่องอยู่เช่นนี้...
ผมจึงคิดถึงคำพูด “ไอน์สไตน์” ที่ว่า...
“มีแต่คนบ้าเท่านั้น ที่จะทำสิ่งเดิมซ้ำๆ แต่กลับหวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง”
รัฐประหารเก่าๆ ล้มเหลวซ้ำๆ ซากๆ ส่วนรัฐประหารใหม่ “คำตอบยังอยู่ในสายลม?”
มีแต่คนบ้าเท่านั้น ที่จะทำสิ่งเดิมซ้ำๆ แต่กลับหวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง!
หลักการ “กล้าคิด-กล้าทดลอง-กล้าทำสิ่งใหม่” ทำให้ “อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์” (Albert Einstein) พบสูตรทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้องและลงตัว จนเกิด “พลังนิวเคลียร์” ขึ้นบนโลกใบนี้
แต่แทนที่ “พลังนิวเคลียร์” จะถูกใช้อย่างสร้างสรรค์ต่อชีวิตมนุษยชาติ ผู้นำชาติมหาอำนาจที่ละโมบไม่รู้จักพอ กลับนำไปผลิตเป็นอาวุธคร่าชีวิตผู้คนหลายล้านคน ในนาม “ระเบิดนิวเคลียร์”
อย่างไรก็ตาม...โลกนี้มีนักวิทยาศาสตร์มากมายที่จมปลักหรือ “บ้า” อยู่กับสิ่งเดิมๆ จึงไม่มีผลงานทางวิทยาศาสตร์ ที่ดีเด่นแปลกใหม่ให้ชาวโลกได้ชื่นชม
“ไอน์สไตน์” เป็นคน “กล้าคิด-กล้าทดลอง-กล้าทำสิ่งใหม่” จึงมีผลงานดีๆ ให้โลก แต่ผู้บริหารชาติไทยทั้งอดีตจรดปัจจุบัน จมปลักกับวิธีคิดและทำในสิ่งเดิมๆ แต่กลับหวังจะได้ผลลัพธ์แตกต่างและดีๆ ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย เช่น
ทุนสามานย์จำเจกับปฏิบัติการเดิมๆ ในการใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้ง เข้ายึดอำนาจรัฐ-เพื่อโกงชาติ!
ต้องรู้ไว้ ณ ที่นี้ว่า นายทุนสามานย์ยึดและโกงชาติได้ ก็เพราะรัฐธรรมนูญระบุว่า สภาฯ-ประกอบด้วยผู้แทนฯ ที่มาจากการเลือกตั้งเท่านั้น จึงเกิดการใช้เงินซื้อตัว ส.ส.และซื้อเสียงเลือกตั้ง ที่คนชั่วกล้าทำชั่วต่อชาติเช่นนี้ ก็เพราะกฎหมายไทยมีบทลงโทษการซื้อเสียงเลือกตั้ง และการคอร์รัปชันเบามาก ทำให้นักธุรกิจการเมืองคุ้มค่ากับการลงทุนซื้อเสียง และโกงชาติซ้ำๆ ซากๆ
ทหารก็จำเจกับปฏิบัติการเดิมๆ ในการใช้ปืนโค่นรัฐบาลใช้เงินซื้อเสียงและโกงชาติ เพื่อยึดอำนาจรัฐมาไว้ในกำมือทหารแค่กลุ่มหนึ่ง!
แต่คณะรัฐประหารที่ผ่านๆ มา ไม่เคยแก้จุดอ่อนในระบบการเมือง ที่เอื้อประโยชน์ต่อนายทุนสามานย์เลย ดังนั้น การเมืองไทยจึงวนเวียนซ้ำๆ ซากๆ อยู่กับเรื่อง ทหารฉีกรัฐธรรมนูญซ้ำซาก-แล้ว-ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ซ้ำซาก ทว่าทุกครั้งจะเป็นรัฐธรรมนูญ “เหล้าเก่าในขวดใหม่” นั่นคือ ยังคงระบุให้ “สภาฯ ประกอบด้วยผู้แทนฯที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด” ดังเดิม
แถมการเลือกตั้งก็เป็น “เหล้าเก่าในขวดใหม่” เช่นกัน เพราะปล่อยให้การเลือกตั้งยังสกปรกกับการใช้เงินซื้อเสียงและโกงกันได้สารพัดนั่นเอง
จึงไม่น่าแปลกใจที่มีการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อไหร่ เครือข่ายทักษิณจะทุ่มเงินมหาศาลมาลงทุนทำธุรกิจการเมืองในชาติไทยเสมอ และพวกเขามักประสบชัยชนะครั้งแล้วครั้งเล่าเรื่อยมา
แน่นอน...รัฐบาลของทุนสามานย์ จะต้องคอร์รัปชันถอนทุนบวกกำไรอย่างมหาศาลทุกครั้งด้วย!
ดังนั้น กลุ่มทุนสามานย์ทางการเมืองเหล่านี้ จึงไม่มีวันจะยกเลิกประเด็น “สภาฯ ประกอบด้วยผู้แทนฯ ที่มาจากการเลือกตั้งเท่านั้น” และไม่มีวันจะเพิ่มบทลงโทษ คนใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้งและโกงชาติ ด้วยการยึดทรัพย์ผู้กระทำความผิดและครอบครัว รวมทั้งตัดสิทธิทางการเมืองและติดคุกตลอดชีวิต ฯลฯ
ที่ผ่านมา...ทหารที่ยึดอำนาจรัฐด้วยปืนก็รู้ว่า คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่พร้อมในแทบทุกมิติกับระบอบประชาธิปไตยที่ลอกแบบตะวันตก แต่พวกเขาก็ไม่เคยขจัดจุดอ่อนระบอบการเมืองนี้ และไม่เคยทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรมได้เลย
ลงท้าย...การใช้เงินซื้อเสียงยึดอำนาจรัฐ กับการใช้ปืนยึดอำนาจรัฐ จึงเป็นวงจรอุบาทว์จนกลายเป็นการเมืองเรื่อง “สมบัติชาติผลัดกันโกง” ไปเสียฉิบ
แถมคณะรัฐประหารบางกลุ่ม เคยประกาศสาเหตุที่ต้องล้มรัฐบาลซื้อเสียงเลือกตั้งในชาติไทยไว้ถึง 4 ข้อว่า มีการทุจริตคอร์รัปชัน มีการสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน มีการแทรกแซงองค์กรอิสระ และมีการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯ
แถมยังระบุชัดว่า “ระบอบทักษิณ” กำลังสร้างปัญหาใหญ่ให้ชาติไทย จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่ทหารต้องทำรัฐประหาร เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้
การรัฐประหารของคณะทหารครั้งนั้น จึงได้รับ “ดอกไม้” จากคนไทยล้นหลาม แถมมีเสียงแซ่ซ้องสดุดีไปทุกหย่อมหญ้า ผู้คนล้วนฝากความหวังไว้ว่า ทหารจะทำให้ชาติไทยก้าวไปสู่มิติ คนดีได้ขึ้นปกครองบ้านเมือง และกีดกันมิให้คนชั่วมีอำนาจ เที่ยวสร้างความวุ่นวายให้กับชาติได้อีก
ทั้งนี้...เพราะทหารมีอำนาจพิเศษล้นฟ้า ที่จะปฏิบัติการให้ชาติมีสันติสุขอย่างถาวรนั่นเอง!
แต่คณะรัฐประหารครั้งนั้น ก็เกิดอาการ “เยี่ยวไม่สุด” แถมภายหลังยังขายความถูกต้องของตนเองที่ได้ประกาศต่อสาธารณชน ด้วยการผันตนไปเป็น “ขี้ข้ารับใช้ทุนสามานย์” แบบเต็มตัว
รัฐประหาร “กำมะลอ” จึงลงเอย ตามเพลง “ขอให้เหมือนเดิม” นั่นคือ
สภาฯ-ประกอบด้วยผู้แทนฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง! การเลือกตั้งยังไม่มีความบริสุทธิ์ยุติธรรม! กฎหมายลงโทษคนใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้ง และรัฐบาลคอร์รัปชันโกงชาติยังเบาหวิว!
การเมืองไทยจึงจมปลักอยู่กับวงจรอุบาทว์ซ้ำๆ ซากๆ ดังนี้
รัฐธรรมนูญระบุ-สมาชิกสภาฯ มาจากการเลือกตั้ง-เกิดรัฐบาลใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้งโกงชาติ-ประชาชนทนไม่ไหวออกมาขับไล่-คณะทหารทำรัฐประหารยึดอำนาจรัฐ-มีการเลือกตั้งสกปรก-ซ้ำๆ ซากๆ เป็นแผ่นเสียงตกร่องอยู่เช่นนี้...
ผมจึงคิดถึงคำพูด “ไอน์สไตน์” ที่ว่า...
“มีแต่คนบ้าเท่านั้น ที่จะทำสิ่งเดิมซ้ำๆ แต่กลับหวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง”
รัฐประหารเก่าๆ ล้มเหลวซ้ำๆ ซากๆ ส่วนรัฐประหารใหม่ “คำตอบยังอยู่ในสายลม?”