จาก “โบนันซ่า” ถึง “คีรีมายา” และ “นักเล่าข่าว”

ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ขณะที่สังคมยังคงเฝ้าติดตามอย่างต่อเนื่องสำหรับกรณีการบุกรุกป่าของ “สนามโบนันซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์” ที่มี “ไพวงษ์ เตชะณรงค์” เป็นเจ้าของว่าจะลงเอยอย่างไร

เรื่องก็ลุกลามบานปลายมาถึง “คีรีมายารีสอร์ทแอนด์สปา” ของ “โนเบิล” ค่ายอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ที่มี “กิตติ ธนากิจอำนวย” เป็นประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) ทั้งนี้ เนื่องเพราะคีรีมายารีสอร์ท ตั้งอยู่เลขที่ 1/3 หมู่ 6 ถนนธนะรัชต์ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา บนพื้นที่ประมาณ 1,200 ไร่

เป็นรีสอร์ทหรู ห้องพัก เต็นท์วิลล่า สนามกอล์ฟมาตรฐาน 18 หลุม ฟิตเนสเซ็นเตอร์ ห้องอาหาร 3 แห่ง และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ซึ่งด้านหนึ่งของสนามกอล์ฟติดกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

งานนี้ ผู้ที่เปิดประเด็นไม่ใช่ใครอื่น หากแต่เป็นโมฆะบุรุษที่มีชื่อว่า “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย”

แน่นอน งานนี้ สร้างความสั่นสะเทือนให้เกิดขึ้นไม่น้อย เพราะเป็นที่รับรู้ว่ากิตติ ธนากิจอำนวยมีจุดยืนทางการเมืองอยู่ฝั่งเดียวกับหลวงลุงกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ และ กปปส. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ไฮโซนัท” ผู้เป็นบุตรชายของนายกิตติ ซึ่งประกาศตัวอย่างชัดเจนในช่วงการชุมนุมของ กปปส.

ทั้งนี้ นายชูวิทย์โพสต์ข้อความเรียกร้องกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดย กรมป่าไม้ หรือกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เข้าไปตรวจสอบที่ดินสนามกอล์ฟและรีสอร์ทหรู พิกัด 14.511810,101.431651 ที่ชื่อ คีรีมายา บนที่ดินกว่าพันไร่ และอยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าหรือไม่ ภายหลังจากที่กรมป่าไม้ได้เข้าไปตรวจสอบสนามแข่งรถโบนันซ่าของนายไพวงษ์

ประหนึ่งว่า ไม่ต้องการให้รัฐบาลเลือกปฏิบัติอย่างไรอย่างนั้น

แน่นอนว่า ค่ายโนเบิลเฮ้าส์ย่อมต้องตอบโต้ข้อกล่าวหาของนายชูวิทย์เช่นกัน

นายธนัตถ์เปิดเผยว่า คีรีมายารีสอร์ทเป็นธุรกิจส่วนตัวของครอบครัว ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทโนเบิล โดยที่ดินผืนดังกล่าวได้มาครอบครองถูกต้องตามกฎหมาย และรีสอร์ทแห่งนี้เปิดบริการมากว่า 11 ปี ไม่เคยมีปัญหาเรื่องการบุกรุกพื้นที่ป่าแต่อย่างใด

อย่างไรก็ดี ต่อมาคีรีมายา รีสอร์ท ได้ออกแถลงการณ์โดยนายกิตติ ธนากิตอำนวย โดยระบุว่าทางคีรีมายาขอยืนยันว่าเอกสารสิทธิของคีรีมายาเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเพื่อความบริสุทธิ์ใจในเบื้องต้นจะทำหนังสือเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ หากมีความประสงค์สามารถเข้าตรวจสอบได้ทันที โดยทางคีรีมายายินดีต้อนรับทุกคณะ โดยที่ดินภายในโครงการคีรีมายานั้น ได้ประมูลซื้อจากเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์กระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ.2545 และเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ได้ส่งมอบการครอบครองพื้นที่พร้อมเอกสารสิทธิให้กับทางคีรีมายา โดยมีการลงชื่อส่งมอบสถานที่ พื้นที่ และเอกสารสิทธิอย่างชัดเจน จึงมีความถูกต้องสมบูรณ์ตามกฎหมาย

แถลงการณ์ระบุว่า สำหรับผู้ที่ไม่ประสงค์ดีที่ได้ทำการกล่าวหาว่าหน่วยงานรัฐ อาทิ กองทัพภาคที่ 2 ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ดีเอสไอ กระทรวงยุติธรรม กรมอุทยานฯ กรมป่าไม้ กรมที่ดิน มีลักษณะการทำงานเลือกปฏิบัติ เลือกที่รักมักที่ชัง ตลอดจนพูดให้เกิดความไขว้เขวเข้าใจผิด ทำให้เกิดความเสียหายต่อบริษัท คีรีมายา จำกัด และหน่วยงานของรัฐ ทางคีรีมายาจะตรวจสอบและดำเนินการฟ้องร้องเอาผิดตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และหากหน่วยงานของรัฐที่เอ่ยมาข้างต้น จะร่วมเป็นโจทก์ทางคีรีมายายินดีเป็นผู้ดำเนินการให้ในเบื้องต้น ทั้งนี้ เพื่อสร้างความถูกต้องให้ทั้งบริษัทและหน่วยงานราชการของรัฐ ไม่ให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งทำการละเมิดสร้างความเข้าใจผิดและเสียหายต่อส่วนรวมได้

ด้านนายอรรถพล เจริญชันษา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่า และควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ไม่ต้องเป็นกังวลว่า ทส.จะเลือกกระทำกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะเรื่องของการกระทำความผิดบุกรุกพื้นที่ป่านั้น ได้รับนโยบายจากรัฐมนตรี ทส.โดยตรงว่า ใครที่กระทำผิดเรื่องนี้ต้องได้รับการลงโทษเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นใครฝ่ายไหน

“คีรีมายารีสอร์ท ก็อยู่ในคิวที่เราจะเข้าไปตรวจสอบอยู่แล้ว จะเป็นคิวต่อไปถัดจาก โบนันซ่า อาจจะเข้าไปหลังสงกรานต์ ต้องเข้าใจว่า การเข้าไปตรวจสอบต้องมีขั้นตอน ไม่ใช่ว่านึกจะเข้าไปก็เข้าไปได้ทันที ต้องมีทีมงาน เป็นทีมเฉพาะกิจ ที่ประกอบด้วย นักกฎหมาย ผู้เชี่ยวชาญด้านการอ่านแผนที่ ภาพถ่ายดาวเทียม และกำลังคน ซึ่งไม่เฉพาะที่ใดที่หนึ่ง แต่สำหรับการออกปฏิบัติการในแต่ละพื้นที่เราก็ต้องเตรียมการแบบนี้ทั้งนั้น อย่างเวลานี้เรากำลังตรวจสอบสนามแข่งรถ โบนันซ่า ขณะเดียวกันก็จะมีอีกทีมที่เพิ่งเสร็จจากปฏิบัติการ ยุทธการป่าสักยั่งยืน ช่วงแรกหลังสงกรานต์ ชุดป่าสักยั่งยืน ก็จะออกปฏิบัติการช่วงที่ 2 เพื่อยึดคืนพื้นที่สวนยาง ที่เราเคยตรวจสอบพบว่ามีการลักลอบบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำชั้น 1 เอ กว่า 20,000 ไร่ โดยที่ผ่านมา ยึดคืนมาได้แล้ว 13,000 ไร่ จะทำให้เรียบร้อยภายในเดือนเมษายนนี้”นายอรรถพลอธิบาย

อย่างไรก็ดี ไม่เพียงแค่คีรีมายาฯและโบนันซ่า เท่านั้นที่ถูกตรวจสอบ หากแต่ยังมีการเปิดเผยข้อมูลออกมาด้วยว่า บ้านพักและที่ดินของ “นักเล่าข่าวคนดัง” นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ก็อยู่ในข่ายบุกรุกพื้นที่ป่าด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ นายสรยุทธได้ ชี้แจงผ่านทางรายการเรื่องเล่าเช้านี้ว่า บ้านพักตากอากาศของตนเองที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เป็นที่ดินที่อยู่ในโครงการมูนแดนซ์ ซึ่งพิจารณาซื้อมาด้วยความระมัดระวัง ตั้งแต่เมื่อปี 2550-2551 จำนวน 5 แปลง รวมทั้งหมด 8 ไร่เศษอยู่ในหมู่บ้านจัดสรร ใกล้กับถนนธนะรัชต์

นายสรยุทธยืนยันว่า ใช้ชื่อตัวเองเป็นเจ้าของที่ดิน ไม่ได้ใช้ชื่อคนอื่นในการซื้อ และ ที่ผ่านมาก็เปิดเผยเรื่องบ้านพักตากอากาศที่เขาใหญ่ โดยบ้านหลังดังกล่าวตั้งใจจะปลูกให้กับคุณแม่ แต่เมื่อเกิดกรณีดังกล่าว ก็จะต้องไปตรวจสอบกับโครงการหมู่บ้านจัดสรรอีกครั้ง

แน่นอน หากการออกโฉนดไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้ที่จะต้องรับผิดไปเต็มๆ ก็คือเจ้าของหมู่บ้านจัดสรรมูนแดนซ์ และที่ดินจังหวัดนครราชสีมา

ด้านแหล่งข่าวจาก สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ส.ป.ก. นครราชสีมา ได้รายงาน ผลการเข้าสำรวจที่ดินของพิธีกรชื่อดัง ภายในโครงการหมู่บ้านจัดสรรมูนแดนซ์ ติดถนนธนะรัชต์ บนเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เสนอมายังเลขาธิการ ส.ป.ก. แล้ว โดย มีบางส่วนตั้งอยู่ในเขต ส.ป.ก. ซึ่งมีแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศปรากฏชัด แต่เมื่อผู้ถือครองมี น.ส.3ก. ที่ออกโดยสำนักงานที่ดินdH เป็นหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหาค้นหากันว่าออกเอกสารโดยชอบหรือไม่ต่อไป

มีรายงานว่า ส.ป.ก. นครราชสีมา ได้จัดส่งแผนที่ทางอากาศ ระวางหมายเลข 5238 และ 5406 เลขที่ดิน 125 - 129 ค่าพิกัด 755048E, 1607678N zone47 ไปยัง ส.ป.ก. ส่วนกลางเมื่อวันที่ 13 เม.ย. 58 โดยระบุว่า เป็นที่ดินดังกล่าวจริง และเป็น พื้นที่ ส.ป.ก. ซึ่ง “กรมพัฒนาที่ดิน” ได้ลงรายละเอียดไว้

ส่วนความคืบหน้าของคดีโบนันซ่านั้น หลังมีการแจ้งข้อหาและดำเนินคดีกับผู้จัดการสนามแข่งรถ ความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ที่ดินได้เข้ารังวัดพื้นที่เพื่อจับพิกัด และนัดทางทนายของโบนันซ่า เข้าร่วมตรวจสอบเพื่อจะไม่ให้เกิดข้อโต้แย้งในสำนวนการสอบสวน 2 ครั้ง แต่ฝ่ายทนายของโบนันซ่าก็ไม่เข้าพื้นที่ มีเพียงเจ้าหน้าที่รังวัดตั้งแต่ริมชายเขาตั้งแต่จุดที่ 1 มุมเขาด้านทิศตะวันออก ใกล้ประตูทางเข้าสนามแข่งรถขึ้นไปถึงจุดที่ 50 ยังมีอุปสรรคเล็กน้อย

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบหลักฐานที่ดิน น.ส.3 ก. 5 แปลง เนื้อที่รวม 55 ไร่ 3 งาน 63 ตารางวา ปรากฏว่า มี 2 แปลงที่มีชื่อ นายไพวงษ์ เตชะณรงค์ เป็นเจ้าของตามเอกสาร คือ แปลงที่ 2 เลขที่ 926 เนื้อที่ 9 ไร่ 1 งาน 62 ตารางวา และแปลงที่ 3 เลขที่ 927 เนื้อที่ 16 ไร่ 1 งาน 90 ตารางวา

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้เข้าไปเก็บข้อมูลเพื่อประเมินมูลค่าความเสียหายทางแพ่งว่า การบุกรุกพื้นที่ดังกล่าว ทำให้สิ่งแวดล้อมสูญเสียไปนั้น มีมูลค่าความเสียหายเท่าใด โดยคาดว่า น่าจะตกอยู่ที่ไร่ละ 90,000-150,000 บาท