ยธ.ลุยสอบพื้นที่รุกป่าสงวนเพิ่มเติมนอกเหนือ “โบนันซ่า”

รองปลัด ยธ. ส่ง จนท. เก็บข้อมูลการบุกรุกที่ป่าสงวนเขาใหญ่นอกเหนือจาก “โบนันซ่า” คาดสัปดาห์หน้าทราบผล ระบุ หากพบมีการกระทำผิดจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเท่าเทียม - ดีเอสไอประสานกำลังกองทัพภาค 2 ร่วมตรวจสอบพื้นที่โดยรอบเพิ่มเติม

จากกรณีเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “ชูวิทย์ I'm No.5 ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการตรวจสอบพื้นที่โบนันซ่าเขาใหญ่ที่พบว่ามีการบุกรุกป่าสงวน และขอให้ทางกองทัพภาคที่ 2 ผู้ว่าฯโคราช DSI กระทรวงยุติธรรม กรมอุทยาน กรมป่าไม้ กรมที่ดิน และหน่วยงานท้องถิ่น ช่วยตรวจสอบที่ดินบริเวณ สนามกอล์ฟพร้อมรีสอร์ต ชื่อ “คีรีมายา” บนที่ดินกว่าพันไร่ ติดอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่คาดว่ามีการบุกรุกป่าสงวนเช่นกัน

วันนี้ (12 เม.ย.) พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กรณีดังกล่าวตนได้สั่งให้คณะทำงานลงพื้นที่ตรวจสอบทั้งในส่วนของโบนันซ่า และพื้นที่บริเวณโดยรอบแล้ว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการอยู่ระหว่างลงพื้นที่เก็บข้อมูล คาดว่า จะได้รับรายงานผลการดำเนินงานและข้อมูลหลังวันหยุดเทศการสงกรานต์ อย่างไรก็ตาม หากพบว่ามีการกระทำความผิดจะดำเนิการตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกันหมด ทั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องประสานขอข้อมูลจากนายชูวิทย์ เนื่องจากกระทรวงยุติธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบก่อนหน้านี้แล้ว โดยหลักฐานส่วนใหญ่เป็นเอกสาร และทางเราสามารถประสานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาตรวจสอบได้ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้

ด้าน พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ ระบุว่า เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงาน หรือมีการร้องเรียนมาที่ดีเอสไอ ซึ่งดีเอสไอได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมตรวจสอบพื้นที่ร่วมกับคณะทำงานของกองทัพภาค 2 เพื่อวัดแนวเขตของพื้นที่บริเวณดังกล่าว รวมไปถึงการเตรียมความพร้อมจัดระบบฐานข้อมูลให้ชัดเจนว่าพื้นที่ส่วนใดบ้างเป็นป่าสงวน หรือเป็นพื้นที่ของอุทยาน อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมีปัญหาการบุกรุกพื้นที่มีเยอะมาก ไม่เพียงกรณีของโบนันซ่า ซึ่งดีเอสไอก็ทำหน้าที่ตรวจสอบผู้กระทำผิดมาตลอดโดยไม่เลือกปฏิบัติ ทั้งนี้ อัตรากำลังคนในชุดทำงานมีเพียง 60 คน แต่ต้องดูเรื่องทั่วประเทศ โดยบางส่วนต้องมีการประสานงานกันกับหน่วยงานท้องที่ หรือที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบ