ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ตร.โคราชเร่งสางคดี “โบนันซ่า” รุกป่า เดินหน้าลุยตรวจสอบที่ดิน เผยเป็นคดีเดียวแม้จะมีผู้เสียหายหลายหน่วยงานก็ตาม ล่าสุดร่วม ส.ป.ก.ลุยตรวจพื้นที่บุกรุก ระบุไม่ใช่คดีซับซ้อนเพียงแต่ต้องตรวจพิสูจน์หาความถูกต้องเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี ชุดปฏิบัติการพิเศษกระทรวงยุติธรรม ร่วมกับกรมป่าไม้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.)กองทัพภาคที่ 2 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปปง.) นำโดย พ.ต.อ.ดุษฏี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พ.อ.สมหมาย บุษบา หัวหน้าคณะทำงานเพื่อความมั่นคงกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) และคณะ บุกเข้าตรวจสอบพื้นที่สนามแข่งรถอินเตอร์เนชั่นแนล โบนันซ่า สปีดเวย์ (International Bonanza Speed Way) โครงการโบนันซ่า ของ นายไพวงษ์ เตชะณรงค์ นักการเมืองและนักธุรกิจรายใหญ่ ตั้งอยู่ หมู่ 11 บ้านโบนันซ่า ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 31 มี.ค.และพบมีการก่อสร้างสนามแข่งรถและอาคารที่พักบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า เขานกยูง เขาอ่างหิน กว่า 100 ไร่ นั้น
ล่าสุดช่างบ่ายวันนี้( 9 เม.ย. ) พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยความคืบหน้าของคดีโบนันซ่าว่า จากรายงานทราบข่าวอยู่ในขั้นตอนการสอบปากคำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของพนักงานสอบสวน ทั้งเจ้าหน้าที่ที่ดิน ป่าไม้ และ ส.ป.ก. ในพื้นที่ที่ถูกกล่าวอ้างว่า โบนันซ่าบุกรุกที่ดิน ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบซึ่งแบ่งเป็นแต่ละส่วน ๆ ไป จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับหลักฐานจากหน่วยงานต่างๆ ที่เพียงพออยู่ระหว่างการเรียกสอบ
ล่าสุดวันนี้ทราบว่าเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.มาร่วมกันเดินสำรวจรังวัดโดยมี พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลคดีทรัพยากรป่าไม้และสิ่งแวดล้อมได้เดินทางไปร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.เพื่อลงพื้นที่รังวัดพื้นที่ในการบุกรุก จากนั้น ส.ป.ก.จะไปสรุปรายงานและส่งมาให้พนักงานสอบสวนในการรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงหน่วยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อพนักงานสอบสวนจะได้มาสรุป คงต้องให้โอกาสทางโบนันซ่าได้ทำการเสนอหลักฐานและชี้แจงต่อไป
สำหรับคดีดังกล่าวแม้ว่าจะมีการแจ้งความหลายหน่วยงาน แต่ทางตำรวจได้รวบรวมให้เป็นคดีเดียวกัน เพียงแต่มีผู้เสียหายเป็นหน่วยงานของรัฐหลายหน่วยเท่านั้น การกระทำผิดก็พิจารณาไปตามแต่ละหน่วยงานแจ้ง
ส่วนที่มีการให้ใช้ มาตรา 44 จัดการในส่วนคดีจะเร็วขึ้นหรือไม่นั้น
พล.ต.ต.ฐากูร กล่าวว่า เรื่องถ้าฝ่ายทหารมาร่วมก็ต้องมาร่วมกันสอบสวน ส่วนมันจะเร็วหรือจะช้าก็อยู่ในขั้นตอนว่า เราสามารถตรวจสอบหลักฐานได้รวดเร็วแค่ไหน และความถูกต้อง คิดว่าคงต้องใช้ระยะเวลาสักพัก แต่ได้สั่งการให้มีการเร่งรัดคดีไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม คงต้องขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้นำหลักฐานต่างๆ มาส่งให้พนักงานสอบสวนเพื่อประกอบการสอบสวนและออกมารังวัดในพื้นที่ที่มีการกล่าวหาว่าบุกรุก วันนี้พนักงานสอบสวนได้เร่งทำงานอย่างเต็มที่เพราะเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ พนักงานสอบสวนก็ต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน ผู้บังคับบัญชาก็ไม่ได้เน้นย้ำในเรื่องอะไรเพียงแต่ของให้เร่งรัดรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินการให้ถูกต้องยุติธรรมตรงไปตรงมา
พล.ต.ต.ฐากูร กล่าวอีกว่า ในคดีนี้ตำรวจให้ความสำคัญเพราะมีการตั้งพนักงานสอบสวนทั้งจากตำรวจภูธรภาค 3 และมีรองผู้บัญชาการเข้ามาควบคุมดูแลและทาง สภ.ปากช่องเองก็มีพนักงานสอบสวนชำนาญการ และในส่วนของตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาได้มอบหมายให้รองผู้บังคับการลงไปกำกับกับดูแลอยู่แล้ว คดีนี้ไม่น่าจะมีอะไรซับซ้อน ไม่ได้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่จะต้องไปหาตัวคนร้าย เพียงแต่ว่าเป็นเรื่องการตรวจพิสูจน์และหลักฐานทางเอกสารสิทธิทางที่ดินเท่านั้นเอง