ผู้การโคราชสั่งเร่งรัดคดี “โบนันซ่า” รุกป่า ย้ำไม่ตัดตอนหลักฐานถึงใครเชือดให้หมด

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา -   ผู้การโคราชสั่งเร่งรัดคดี “โบนันซ่า” รุกป่าสงวนแห่งชาติ ตั้งรองผู้การเข้าไปกำกับดูแลคดีอย่างใกล้ชิด ยันให้ความเป็นธรรมแก่ฝ่ายถูกกล่าวหา ชี้ไม่มีการตัดตอนหากสาวไปถึงใครก็พร้อมดำเนินคดี ระบุผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจสั่งรายงานความคืบหน้าทุกระยะ ด้าน อบต.ประสานที่ดินชี้แนวเขตชัดเจนก่อนเข้าตรวจสอบอาคารในสนามแข่งรถและการรุกล้ำลำรางสาธารณะบริเวณสนามกอล์ฟ

วันนี้ (2 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี ชุดปฏิบัติการพิเศษกระทรวงยุติธรรม ร่วมกับกรมป่าไม้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.)กองทัพภาคที่ 2 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปปง.) นำโดย พ.ต.อ.ดุษฏี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พ.อ.สมหมาย บุษบา หัวหน้าคณะทำงานเพื่อความมั่นคงกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) และคณะ บุกเข้าตรวจสอบพื้นที่สนามแข่งรถอินเตอร์เนชั่นแนล โบนันซ่า สปีดเวย์ (International Bonanza Speed Way) โครงการโบนันซ่า ของ นายไพรวงษ์ เตชะณรงค์ นักการเมืองและนักธุรกิจรายใหญ่ ตั้งอยู่ หมู่ 11 บ้านโบนันซ่า ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 31 มี.ค. และพบมีการก่อสร้างสนามแข่งรถและอาคารที่พักบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า เขานกยูง เขาอ่างหิน กว่า 100 ไร่ นั้น

ล่าสุดวันนี้ (2 เม.ย.) พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและเป็นคดีสำคัญ ตนได้สั่งกำชับพนักงานสอบสวน สภ.ปากช่อง เจ้าของคดี ให้เร่งรัดการดำเนินการในการรวบรวมพยานหลักฐาน เร่งรัดดำเนินการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทางคดี และให้ความเป็นธรรมกับทางโบนันซ่าที่ถูกกล่าวหาด้วย ในส่วนของทหารก็ประสานมาว่าอยากให้เร่งรัดเช่นกัน

เบื้องต้นโบนันซ่าให้การปฏิเสธ และนำหลักฐานต่างๆ มาชี้แจงต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งมีทั้ง ภบท.5 และ น.ส.3 ก. จะได้ประสานให้ทางที่ดินเข้ามาตรวจสอบถึงที่ไปที่มาอีกครั้ง แต่ในส่วนที่มีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติซึ่งแผนที่ทหารมีแนวเขตอยู่แล้วก็ให้มีการดำเนินคดีไปในส่วนนี้ พร้อมให้สอบสวนว่าได้มาอย่างไร และมีใครเกี่ยวข้องหากเกี่ยวข้องถึงใครก็ดำเนินคดีไป

พล.ต.ต.ฐากูรกล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เข้าไปกำกับดูแลในคดีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีพนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการเข้าไปร่วมดูแลคดีดังกล่าวด้วย

จากรายงานทราบว่าขณะนี้ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีต่อ นายนิธิศเชษฐ์ สิทธิเจริญกุล ผู้จัดการดูแลสิ่งแวดล้อมกิจกรรมโบนันซ่า เขาใหญ่ ใน 5 ข้อกล่าวหา คือ 1. ความผิดฐานบุกรุกพื้นที่ ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 2. บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 3. กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ประมวลกฎหมายที่ดิน 4. พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และ 5. พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธขณะนี้อยู่ระหว่างการประกันตัว

ต่อข้อถามว่าจะเอาผิดถึงเจ้าของที่ดินหรือไม่เนื่องจากหลายฝ่ายกังวลว่าจะมีการตัดตอนเอาผิดเฉพาะผู้จัดการ พล.ต.ต.ฐากูรกล่าวว่า ต้องรอการสอบสวนว่าพื้นที่ดังกล่าวดำเนินการในนามนิติบุคคลหรือไม่ เพราะหากเป็นนิติบุคคลกรรมการผู้มีอำนาจก็จะต้องรับผิดชอบและเรียกตัวมาสอบสวนหากผิดก็ต้องดำเนินคดี ซึ่งตนได้กำชับไปแล้วว่าให้ทำคดีอย่างรอบคอบรอบด้านและรวดเร็ว

ทั้งนี้ หากสาวไปถึงใครตำรวจก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกกล่าวหา โดยให้โอกาสเข้าชี้แจงและพิสูจน์ข้อเท็จจริงด้วย ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้หนักใจต่อการดำเนินคดีดังกล่าว เพราะไม่ใช่คดีที่ซับซ้อนทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐาน แต่คงต้องให้เวลาพนักงานสอบสวนได้ทำงานสักระยะเพื่อให้เกิดความกระจ่าง ซึ่งคดีนี้ทางผู้บังคับบัญชาให้รายงานความคืบหน้าให้ทราบทุกระยะ

ด้านนายคเชนทร์ ใยสุ่น ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลขนงพระ กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ อบต.ขนงพระนั้น เข้าดูเรื่องการก่อสร้างอาคารและการรุกล้ำลำรางสาธารณะที่มีพื้นที่คาบเกี่ยวทั้งบริเวณสนามแข่งรถและสนามกอล์ฟของโบนันซ่า ขณะนี้ได้ประสานไปยังที่สำนักงานที่ดินสาขา อ.ปากช่องให้ชี้แนวเขตที่ชัดเจน

จากนั้น อบต.จะเข้าไปดำเนินการตรวจสอบ หากจุดไหนพบไม่ถูกต้องจะเข้าไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ขณะนี้คงต้องรอให้ที่ดินส่งรายละเอียดกลับมาก่อน