xs
xsm
sm
md
lg

ผลงานกับโฆษณาชวนเชื่อ !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

00 เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงกันอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่ นายกฯและหัวหน้าคสช. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สั่งทุกกระทรวง และรัฐมนตรีทุกคนต้องทำหน้าที่ในการเผยแพร่ผลงานของตัวเอง และของรัฐบาลกันมากขึ้น หลังจากที่บ่นว่าตัวเองพูดอยู่คนเดียว จนกลายเป็นว่ามีผลงานอยู่คนเดียว และในที่สุดก็บ่นว่าระยะหลังพูดไปไม่ค่อยมีคนฟัง ทำให้เวลานี้มีการปรับรูปแบบกันใหม่ ประเดิมกันไปแล้วกับรายการคืนความสุขให้คนในชาติ เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว หลังจากพูดเปิดหัวนำร่องพอเป็นพิธีแล้วก็ตัดฉับ ส่งไม่ต่อให้กับ "เบอร์สอง" รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์ สุวรรณ และคณะรับหน้าต่อ
00 แน่นอนว่าเมื่อเห็นหน้า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ต้องมีแต่เรื่องความมั่นคง ซึ่งวิธีการนำเสนอผลงานก็เป็นไปแบบผู้บังคับบัญชาทหาร นั่นคือ ให้แต่ละฝ่ายรายงานกันเป็นทอดๆ โดยเริ่มจาก พล.อ.ประวิตร ได้สรุปภาพรวมและหัวข้อให้ฟังแล้ว ก็ส่งไม้ต่อให้กับ มือรองลงมาคือ รมช.กลาโหม และ ผบ.ทบ. พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ซึ่งแม้ว่านั่นคือผลงานที่ได้ทำไปแล้วมารายงานความคืบหน้าให้ฟัง แต่ปัญหาก็คือ มันเหมือนกับรายงานแบบรูทีน แบบการบรรยายสรุปกันในที่ประชุมกับหน่วยขึ้นตรง แต่กับชาวบ้าน วิธีการแบบราชการแบบนี้มันน่าเบื่อ และโบราณ รับรองว่าใช้ไม่ได้ผล
00 อย่างไรก็ดี จะว่าไปแล้ววิธีการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เคยนำเสนอ เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อในทุกเรื่อง ที่จริงมันก็น่าสนใจอยู่แล้ว เป็นการตอบคำถาม ไขข้อข้องใจได้ชัดเจน และที่สำคัญยังเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า เขารู้ทุกเรื่อง ติดตามทุกเรื่อง เพียงแต่ว่าบางเรื่องไม่น่าจะพูดก็พูด และเมื่อติดตามทุกเรื่อง มันก็เหมือน "จุกจิก" ก็อารมณ์เสีย จนเสียรูปมวยไปบ่อยๆ โดยเฉพาะกับสื่อ บางครั้งไม่จำเป็นต้องติดตามกันทุกเม็ด เพราะถ้าเป็นแบบนั้นมันก็ต้องหงุดหงิดกันทุกบรรทัดแหละน่า !!
00 เชื่อหรือไม่ว่าในบรรดานายกฯ ที่ผ่านมามีน้อยคนที่มีการนำเสนอข้อมูล รับฟัง สั่งการได้ทุกเรื่อง และเมื่อเปรียบเทียบกับอดีตนายกฯ ที่เพิ่งผ่านมาไม่นานอย่าง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยิ่งคนละเรื่อง เพราะรายนั้น มีแต่การท่องบท ไม่เคยรู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย แถมยังอ่านบทผิดๆ ถูกๆ จนสร้างความขบขัน แต่ในยุคของ พล.อ.ประยุทธ์ กลับมีการนำเสนอในรายละเอียดได้อย่างแม่นยำ เพียงแต่ว่ามีจุดอ่อนในเรื่อง "วิธีการนำเสนอ" และมีวิธีพูดที่ไม่ชวนฟัง ถ้าปรับตรงนี้ได้ ก็น่าสนใจกว่านี้ อย่างไรก็ดี รายการแบบนี้จะไปคาดหวังให้เรตติ้งกระฉูดแบบ "ละครน้ำเน่า" มันคงสูักันไม่ได้หรอก แม้ว่าจะบังคับให้ดูกันทุกช่อง ทุกคลื่นวิทยุ กรอกหูกรอกตากันก็ตาม คนก็ปิดเครื่องหนีจนได้แหละน่า
00 นอกจากนี้ สิ่งที่ต้องพิจารณากันอีกเรื่องหนึ่งก็คือ การมอบหมายให้ทีมงานโฆษก และรมต. เร่งชี้แจงผลงานของรัฐบาลกันแบบถี่ยิบ อ้างว่ามีผลงานมากมาย เพียงแต่ว่าขาดการนำเสนอ หรือเสนอไปแล้วสื่อไม่สนใจ และไม่นำไปเสนอให้ชาวบ้านได้รับรู้ ซึ่งมันก็ไม่ถูกต้องทั้งหมด ขณะเดียวกันมันก็ไม่ใช่ผิดทั้งหมด และที่ผ่านมามันก็เป็นแบบนี้มาตลอด ส่วนมากที่มีเสียงโวยวายว่าสื่อไม่นำเสนอผลงานทั้งที่ตัวเองมีผลงานมากมาย ตามมาด้วยการจ้างสื่อลงผลงานกันยกใหญ่ หรือให้ทีมโฆษกฯ และรมต.เร่งแถลงกันเป็นการใหญ่ ผลที่ตามมาก็คือ "ไม่ได้ผล" ไม่ต่างกับการ "โฆษณาชวนเชื่อ" เพราะ ทุกอย่างนั้นชาวบ้านเขาสัมผัสได้ และต้องวัดกันด้วยสิ่งรอบตัวที่เห็นชัดเจนที่สุดก็คือ เรื่องปากท้อง ราคาสินค้า ราคาสินค้าเกษตร ก็ต้องยอมรับความจริงว่า ทุกอย่างไม่ดีขึ้น นักเศรษฐศาสตร์ บรรดากูรู ทั้งหลายต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เศรษฐกิจแย่ ชาวบ้านไม่มีกำลังซื้อ การเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า ดังนั้น เมื่อรัฐบาลกำลังจะครบรอบ 6 เดือน มันก็ยิ่งเป็นแรงกดดันดัน กดทับเข้ามาเรื่อยๆ !!
00 แม้ว่า เรื่องความมั่นคงจะทำได้ดี เพราะมีกฎเหล็กควบคุมอยู่ กระดิกไม่ได้ แต่นั่นเป็นการกดเอาไว้ชั่วคราวเท่านั้น เพราะตราบใดก็ตามผ่านพ้นไปช่วงเวลาหนึ่ง หากปากท้องยังไม่ดีขึ้น หนี้สินยังล้นพ้นตัว ชาวไร่ชาวนายังขายผลผลิตไม่ได้ราคา มีแต่ขาดทุน ก็ต้องระวังถึงจุดระเบิด และเป็นเชื้อไฟอย่างดีให้กับกลุ่มการเมืองที่จ้องปลุกระดมกันอยู่ทุกวัน
กำลังโหลดความคิดเห็น