ถอดรหัสกลุ่มป่วนล้ม รธน.มีจริงหรือสร้างเงื่อนไขกฎเหล็ก !?

ผ่าประเด็นร้อน

นับตั้งแต่มีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาควบคุมอำนาจตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา และควบคู่มากับการประกาศใช้กฎอัยการศึกเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง จนกระทั่งเพิ่งมีการยกเลิกและใช้บังคับมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 โดยออกเป็นคำสั่งคณะรักษาความสงบฯฉบับที่ 3/2558 และล่าสุด เพิ่งประกาศ คสช. ฉบับที่ 4/2558 ที่เกี่ยวกับเจ้าพนักงานโดยให้อำนาจกับฝ่ายทหารในการรักษาความสงบ

ความหมายไม่ว่าจะเป็นการบังคับใช้กฎอัยการศึก มาจนถึงเปลี่ยนมาเป็นมาตรา 44 และตามหลังด้วยประกาศคสช.ฉบับที่ 3-4/58 ที่เหมือนกันก็คือทุกอย่างยัง “คุมเข้ม” แบบไม่ให้กระดิกไปไหน และคาดว่าจะเป็นแบบนี้ไปจนจบรายการ

สิ่งที่ยืนยันถึงความจำเป็นที่ต้องใช้กฎหมายหรือคำสั่งพิเศษออกมาในลักษณะ “กฎเหล็ก” มาบังคับใช้ดังกล่าวก็คือคำยืนยันจากปากของ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมไปถึงฝ่ายความมั่นคงอื่นๆที่ออกมากล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า “ยังมีกลุ่มป่วน” ไม่เลิก

ก่อนหน้านี้ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย วิษณุ เครืองาม เคยออกมากล่าวว่า ยังมีกลุ่มที่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลอย่างน้อย 5 กลุ่ม ซึ่งมีทั้งกลุ่มที่สูญเสียอำนาจ กลุ่มการเมือง กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิรูป กลุ่มที่ต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครอง กลุ่มที่มีปัญหาด้านเศรษฐกิจ เป็นต้น ซึ่งต่อมาก็มีการแถลงยืนยันจากรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ว่ามีการเคลื่อนไหวจากกลุ่มต่างๆดังกล่าวจริง

ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติก็ได้ขยายความเพิ่มเติมว่า “มีกลุ่มการเมืองที่ต้องการล้มรัฐธรรมนูญที่กำลังยกร่างกันอยู่เพื่อต้องการให้มีการเลือกตั้งภายใต้กติกาเดิม นั่นคือรัฐธรรมนูญฉบับเก่า”

แน่นอนว่า เมื่อพูดแบบนี้ทำให้มีการโฟกัสแคบเข้ามาอีกว่าจะต้องมองไปที่กลุ่มใดเป็นพิเศษ เพราะถ้าพูดถึงรัฐธรรมนูญฉบับเก่าก็น่าจะมีแค่ฉบับปี 2540 กับฉบับปี 2550 ซึ่งหากพิจารณาเสียงเรียกร้องในอดีตก็น่าจะมีเพียงแค่พรรคเพื่อไทย หรือกลุ่ม ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้นที่เรียกร้องให้ใช้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 เนื่องจากให้อำนาจกับฝ่ายรัฐบาล และนายกรัฐมนตรีที่เข้มแข็ง เนื่องจากเห็นว่าหากมีการเลือกตั้งพวกเขาก็จะต้องชนะอยู่แล้ว เพียงแต่ว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 นั้นให้อำนาจน้อยกว่า และมีการตรวจสอบที่เข้มข้นกว่า แม้ว่าจะปรับปรุงมาจากฉบับปี 40 ก็ตาม

ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า กลุ่มที่ต้องการล้มรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เพื่อต้องการให้มีการเลือกตั้งภายใต้กติกาเน่า ก็น่าจะหมายถึงกลุ่มการเมืองในสังกัดของ ทักษิณ ชินวัตร ที่มีทั้งพรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดง นักวิชาการล้มเจ้า รวมไปถึงกลุ่มนักธุรกิจที่เสียประโยชน์ คนพวกนี้สามารถรวมกันได้ เพื่อเป้าหมายเดียวกันนั่นคือ ล้มรัฐบาล และล้ม คสช. เพื่อให้ระบอบทักษิณ ได้กลับมาโดยผ่านการเลือกตั้งอีกครั้ง

อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องพิจารณาควบคู่กัน ก็คือ พลังของกลุ่มที่เคลื่อนไหวต่อต้านดังกล่าวมันยังมีพลังถึงขั้นโยกคลอนรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่มีอำนาจควบคุมกลไกรัฐทุกส่วนอยู่ในเวลานี้ได้จริงหรือไม่ หรือว่าเป็นเพียงการสร้างความเข้มข้นสำหรับการป้องกันเหตุเอาไว้ล่วงหน้าเท่านั้น เพื่อรักษาบรรยากาศของความสงบ ให้การขับเคลื่อนไปตามโรดแมปลื่นไหล การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่สะดุด และที่สำคัญ การบริหารราชการในช่วงเปลี่ยนผ่านจะไม่มีการท้าทาย

เพราะถ้าพิจารณาตามความเป็นจริงอีกมุมหนึ่งแม้ว่าปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องมีกลุ่มต้าน โดยเฉพาะพวกที่เสียประโยชน์ ซึ่งเมื่อไหร่ก็ต้องมีวันยังค่ำ เพียงแต่ว่าในยุคที่มี “สถานการณ์ภายใต้คำสั่งพิเศษ”แบบนี้ความเคลื่อนไหวก็น่าจะบางเบา ยังไม่มีพลังมากพอ ยิ่งดูแล้ว"ท่อน้ำเลี้ยง"ยังอุดตันแบบนี้ไม่น่าจะไม่อะไรให้กังวลมากนัก อีกทั้งเวลานี้สังคมกำลังจดจ่ออยู่ว่าเนื้อหาของการปฏิรูปจะออกมาแบบไหน รัฐบาลสามารถแก้ปัญหาปากท้องได้ดีแค่ไหน ปีนี้จะดีขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ และที่สำคัญ ตราบใดที่รัฐบาลยังไม่มีปัญหาเรื่องทุจริตออกมาให้เห็น ชาวบ้านก็ยังให้โอกาส

ดังนั้น เมื่อถอดรหัสกลุ่มป่วนที่จ้องล้มรัฐบาลว่ามีจริงหรือไม่ คำตอบก็ต้องบอกว่ามีจริง แต่ไม่น่าจะมีพลังเพียงพอที่สร้างความสั่นสะเทือนจนทำให้พลิกคว่ำได้ เพราะพิจารณาจากผลสำรวจออกมาตรงกันว่าชาวบ้านยังให้การสนับสนุนในอัตราที่ค่อนข้างสูง แต่ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาถึงความจำเป็นต้องคงกฎเหล็กเอาไว้ เหตุผลสำคัญก็เพียงเพื่อป้องกันแรงกระเพื่อมจนลุกลามแบบไม่คาดฝัน ในทำนองกันไว้ดีกว่าแก้ สังเกตได้จากมาตรการเข้มก็จริง แต่บังคับใช้จริงเพียงแค่ไม่กี่รายการ เหมือนกับที่มีการเปรียบเปรยเอาไว้ว่า “ถือดาบแต่ซ่อนเอาไว้ข้างหลัง ไม่ได้กวัดแกว่งทำร้ายใคร” !!