**สัญญาณการสืบทอดอำนาจบ่งชัดมาแต่แรก คสช.ที่แปรรูปมาอยู่ในรัฐบาลบริหารประเทศยามนี้ สยายปีกคุมอำนาจทั้งหมดไว้ในแม่น้ำ 5 สาย อยู่ปฏิรูปตามที่เอ่ยอ้างกันมาเกือบปี มีความคืบหน้าเคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง คงได้เห็นกันไปแล้ว
แต่อย่างที่เกริ่นไว้ สัญญาณการสืบทอดอำนาจมีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลัง ไม่รู้ว่าติดอกติดใจบริหารประเทศกันหรืออย่างไร ข่าวคราวการต่ออายุของแม่น้ำสายนั้น สายนี้ เกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน ไหนจะมีการเสกกรรมการขึ้นมามากมายหลายหลาก ภายหลังเลือกตั้งมีรัฐบาลชุดใหม่แล้ว
มองกันว่าตั้งมากำกับควบคุมกลไกการบริหารทั้งหมด รัฐบาลชุดต่อไปแทบกระดิกกระเดี้ยทำอะไรไม่ได้ เหมือนต้องบริหารผ่านองค์คณะ ที่อยู่เหนือกว่าอีกทีหนึ่ง คอการเมือง นักวิชาการ มองแล้วส่ายหน้าไม่เห็นด้วย
**เอากันแบบนี้ก็เลิกอายแล้วบริหารประเทศต่อไปจนกว่าจะพอใจเลยดีกว่า แล้วค่อยคืนอำนาจแบบจริงๆ จังๆ
อย่างนี้จะไม่ให้คนป้องปากกระซิบกันว่าสืบทอดอำนาจได้อย่างไร เที่ยวออกมาปฏิเสธกันเสียงแข็งคอเป็นเอ็น ก็เปล่าประโยชน์
เอาล่ะ แต่ในเมื่อชั่วโมงนี้ คสช.และรัฐบาลถือเป็นผู้มีอำนาจเต็ม จะคิดจะทำอะไรก็ได้ อย่างน้อยๆ การจะคิดถึงสเต็ปต่อไป วางอนาคตกันยาวๆ ก็ต้องทำวันนี้ให้ดีเสียก่อน !!!
ถ้าทำกันได้แล้ว อาจได้รับเสียงสนับสนุนจากทั่วสารทิศให้อยู่โยงอยู่ยาวไปอีกนานๆ ก็ได้
แน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่คสช.ทำแล้วได้ใจคนทั้งประเทศไปเต็มๆ คือ การยุติความขัดแย้ง สลายม็อบการเมืองทุกกลุ่มฝ่ายจนราบคาบไป แต่หลังจากนั้นแล้วยังไม่ค่อยเห็นผลงานมาสเตอร์พีซอย่างนี้ แบบเป็นชิ้นเป็นอัน
**ยามนี้กลับมีปัญหาสาหัสเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจที่ซึมยาว ซบเซาเป็นหมาหงอย อมโรค ขาดแรงกระตุ้นจากทุกทิศทาง ไหนยังมาเจอมาตรการแก้ไขที่สุดแสนจะพิสดารสะท้านใจประชาชี อย่างการขึ้นภาษีบ้านและที่ดิน เสียงสะท้อนกลับดังเซ็งแซ่ อื้ออึง แต่เป็นไปในทิศทางลบ เพราะมาตรการนี้ คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเป็นคนชั้นกลาง ซึ่งมีอยู่หลายล้านคนในประเทศ
แทนที่จะมุ่งเน้นเก็บภาษีจากคนรวยมาช่วยคนจน แต่นี่ไล่เก็บดะยันคนหาเช้ารับประทานค่ำ งานนี้ไม่โดนด่าก็แปลกแล้ว หรือความจริงเป็นเกมต่อรอง ออกมาตรการโหดๆ มาหยั่งเชิงก่อน แล้วพอโดนต้านก็ลดระดับลง จุดมุ่งหมายเพื่อรีดภาษีท่าเดียวในยามที่รัฐบาลถังแตก
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ที่สุดแล้วก็ต้องถอยกรูด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ออกมาเบรกเอี๊ยด สั่งชะลอยาวไป และยาวๆไป ส่อเค้าว่าคงไม่กล้าเอามาปัดฝุ่นหยั่งกระแสท้าทายสังคมอีก
ขืนทำอีก ดึงดันออกมาตรการแผลงๆ มาเพิ่มเติม ไอ้ที่คิดจะอยู่ยาวก็จะสั้นลงๆ อาจร้ายถึงขนาดคนออกมาขับไล่ไม่ให้อยู่กันเลยทีเดียว!!!
จะว่าไปรัฐบาลบริหารประเทศมาก็นานระยะหนึ่งแล้ว น่าจะมีการปรับเปลี่ยน เพื่อสร้างความกระฉับกระเฉง หรือเปลี่ยนแนวทางกันบ้าง เพราะหลายอย่างดูแล้ว “ไม่เวิร์ก”
น่าจะปรับครม.กันเสียทีหนึ่ง เอารมต.ด้านเศรษฐกิจมาเป็นแพะบูชายัญ “หม่อมอุ๋ย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อาจยังมีความจำเป็นต้องเป็นหัวเรือนำด้านเศรษฐกิจ ก็เอา สมหมาย ภาษี รมว.คลัง มาเชือดแทน เพราะวันๆ ไม่เห็นคิดอ่านทำอะไร นอกจากหาหนทางเก็บภาษี ถอนขนห่านขนหมูอยู่เรื่อย สมชื่อเสียงนามสกุลจริงๆ
ยามนี้เศรษฐกิจเสื่อมทรุด ไม่มีแนวโน้มกระเตื้องขึ้น หัวปักหัวปำมานานแล้ว แต่ไม่มีแนวคิดทำให้ผงกหัวขึ้น ฉะนั้นควรเปลี่ยนแปลงหาคนมาสร้างมิติใหม่ๆ เพิ่มเติม และดูดีกว่านี้ อย่าลืมว่าปัญหานี้สำคัญมากมีผลทำให้รัฐบาลอยู่หรือไปเลยทีเดียว แค่แก้ความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยอย่างเดียวได้คงไม่พอ จำเป็นต้องได้มืออาชีพมาบริหารงานเศรษฐกิจ ดูแลปากท้องชาวบ้านด้วย
**ถ้าแก้ปัญหาตรงนี้ได้ ชาวบ้านรู้สึกสัมผัสได้ว่ากำลังปรับเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น นั่นจะเป็นการต่อวีซ่าให้รัฐบาลอยู่ไปได้เรื่อยๆ แต่ถ้าไม่ ก็เตรียมนับถอยหลังได้เลย
เพราะตอนนี้ปัจจัยเรื่องการเมือง เรื่องของการวางโรดแมปเป็นสัญญาประชาคมเอาไว้ คนรับรู้กันทั้งเมือง จะต่อเวลาไปนิดหน่อย คงไม่น่าเกลียด แต่ถ้าเนิ่นนานไปอาจมีปัญหา ยิ่งบริหารประเทศบ้อท่า ล้มเหลว ยิ่งหมดสิทธิ์อุทธรณ์ ฎีกาใดๆ ทั้งปวง
กระนั้นก็ตาม มีเรื่องดีก็ต้องชมเหมือนกัน อย่างนโยบายแจกที่ทำกินให้คนจน ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย เป็นเจ้าภาพหลัก ที่ดินกว่า 5 หมื่นไร่ นำร่องที่เชียงใหม่ เดือนเม.ย.นี้ เป็นมาตรการที่ประชาชนแซ่ซ้องสรรเสริญ ช่วยคนชั้นล่าง เกษตรกรกระดูกสันหลังของชาติอย่างแท้จริง
พูดถึงกระทรวงทรัพย์ฯ หลายคนยกนิ้วชื่นชม พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมต.เจ้ากระทรวง ที่ดูเหมือนว่าจะมีผลงานและสามารถทำให้ประชาชนรับรู้ได้ ทหารก็บริหารบ้านเมืองได้ดีเหมือนกัน เรื่องไหนที่กี่ยวข้องการดูแลรับผิดชอบ “ดาว์พงษ์”ไม่เคยนิ่งเฉย ภัยแล้ง รุกป่า เข้าถึงหมด ล่าสุดเรื่องหมอกควัน เผาป่า ก็มีแอ๊คชั่นออกมาจนได้ใจทั้งผู้บังคับบัญชา และประชาชนทั่วไป
เช่นเดียวกับกระทรวงมหาดไทยของ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา มท.1 แม้จะเงียบๆ แต่ก็เรียบร้อยดี ทั้งดูแลความสงบ จัดการปัญหาสังคม เช่น การเร่งแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ ไม่เสียชื่อทหารเสือเก่งทั้งบุ๋นบู๊ !!!
แต่เรื่องการปรับครม.ก็ให้หงุดหงิดเหมือนกัน พอเวลาสื่อไปสอบถามท่านนายกฯประยุทธ์ เรื่องนี้ ก็จะโดนบอกปัดปฏิเสธอยู่เรื่อย “ไม่ปรับครับ ๆ ผมไปขอเขามาช่วยงาน ไม่มีใครอยากมาอยู่ตรงนี้ ทุกคนก็เหนื่อยกันทั้งนั้น”
แต่ในหลักการความเป็นจริง ใครมาเป็นก็ต้องยอมเหนื่อยทั้งนั้น และก็ไม่เคยเห็นใครบ่นเรื่องนี้เท่าไหร่ มีแต่อยากมาเหนื่อยบนตำแหน่งสูงๆ แบบนี้ และในมิติของการบริหารประเทศบางครั้งบางทีมันรอไม่ได้ มันยื้อไม่ไหว เมื่อเห็นปัญหาต้องรีบแก้ ปล่อยไว้ความเสียหายจะลุกลามยิ่งด้านเศรษฐกิจเขาคิดประเมินกำไรขาดทุนเป็นวินาที
**ฉะนั้นก็ควรคิดถึงประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และความอยู่รอด เจริญก้าวหน้าของประเทศเป็นหลักเหนืออื่นใด ความเกรงใจอะไรต่างๆต้องตัดทิ้งไปบ้าง ถ้ามัวแต่เกรงใจคนนั้น คนนี้ เอาเขามาแล้วไม่อยากเอาเขาทิ้ง วันหนึ่งประชาชนอาจเลิกเกรงใจนายกฯ เลิกเกรงใจรัฐบาล ขอร้องให้ปรับรัฐบาลกันไปเลยก็ได้
ถึงเวลาหรือยังที่รัฐบาลจะสร้างมิติความเปลี่ยนแปลง ทั้งบุคลากรและนโยบาย สร้างความหวัง ความเชื่อมั่นให้ประชาชนแบบจริงๆจังๆ คิดถึงเรื่องนี้และทำให้สำเร็จก่อน แล้วค่อยมาคิดถึงเรื่องสืบทอดอำนาจจะดีกว่า
**เพราะถ้าขั้นที่ 1 ไม่สำเร็จแล้ว ย่อมไม่อาจไปถึงขั้นที่ 2 ได้แน่นอน !!!
แต่อย่างที่เกริ่นไว้ สัญญาณการสืบทอดอำนาจมีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลัง ไม่รู้ว่าติดอกติดใจบริหารประเทศกันหรืออย่างไร ข่าวคราวการต่ออายุของแม่น้ำสายนั้น สายนี้ เกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน ไหนจะมีการเสกกรรมการขึ้นมามากมายหลายหลาก ภายหลังเลือกตั้งมีรัฐบาลชุดใหม่แล้ว
มองกันว่าตั้งมากำกับควบคุมกลไกการบริหารทั้งหมด รัฐบาลชุดต่อไปแทบกระดิกกระเดี้ยทำอะไรไม่ได้ เหมือนต้องบริหารผ่านองค์คณะ ที่อยู่เหนือกว่าอีกทีหนึ่ง คอการเมือง นักวิชาการ มองแล้วส่ายหน้าไม่เห็นด้วย
**เอากันแบบนี้ก็เลิกอายแล้วบริหารประเทศต่อไปจนกว่าจะพอใจเลยดีกว่า แล้วค่อยคืนอำนาจแบบจริงๆ จังๆ
อย่างนี้จะไม่ให้คนป้องปากกระซิบกันว่าสืบทอดอำนาจได้อย่างไร เที่ยวออกมาปฏิเสธกันเสียงแข็งคอเป็นเอ็น ก็เปล่าประโยชน์
เอาล่ะ แต่ในเมื่อชั่วโมงนี้ คสช.และรัฐบาลถือเป็นผู้มีอำนาจเต็ม จะคิดจะทำอะไรก็ได้ อย่างน้อยๆ การจะคิดถึงสเต็ปต่อไป วางอนาคตกันยาวๆ ก็ต้องทำวันนี้ให้ดีเสียก่อน !!!
ถ้าทำกันได้แล้ว อาจได้รับเสียงสนับสนุนจากทั่วสารทิศให้อยู่โยงอยู่ยาวไปอีกนานๆ ก็ได้
แน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่คสช.ทำแล้วได้ใจคนทั้งประเทศไปเต็มๆ คือ การยุติความขัดแย้ง สลายม็อบการเมืองทุกกลุ่มฝ่ายจนราบคาบไป แต่หลังจากนั้นแล้วยังไม่ค่อยเห็นผลงานมาสเตอร์พีซอย่างนี้ แบบเป็นชิ้นเป็นอัน
**ยามนี้กลับมีปัญหาสาหัสเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจที่ซึมยาว ซบเซาเป็นหมาหงอย อมโรค ขาดแรงกระตุ้นจากทุกทิศทาง ไหนยังมาเจอมาตรการแก้ไขที่สุดแสนจะพิสดารสะท้านใจประชาชี อย่างการขึ้นภาษีบ้านและที่ดิน เสียงสะท้อนกลับดังเซ็งแซ่ อื้ออึง แต่เป็นไปในทิศทางลบ เพราะมาตรการนี้ คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเป็นคนชั้นกลาง ซึ่งมีอยู่หลายล้านคนในประเทศ
แทนที่จะมุ่งเน้นเก็บภาษีจากคนรวยมาช่วยคนจน แต่นี่ไล่เก็บดะยันคนหาเช้ารับประทานค่ำ งานนี้ไม่โดนด่าก็แปลกแล้ว หรือความจริงเป็นเกมต่อรอง ออกมาตรการโหดๆ มาหยั่งเชิงก่อน แล้วพอโดนต้านก็ลดระดับลง จุดมุ่งหมายเพื่อรีดภาษีท่าเดียวในยามที่รัฐบาลถังแตก
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ที่สุดแล้วก็ต้องถอยกรูด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ออกมาเบรกเอี๊ยด สั่งชะลอยาวไป และยาวๆไป ส่อเค้าว่าคงไม่กล้าเอามาปัดฝุ่นหยั่งกระแสท้าทายสังคมอีก
ขืนทำอีก ดึงดันออกมาตรการแผลงๆ มาเพิ่มเติม ไอ้ที่คิดจะอยู่ยาวก็จะสั้นลงๆ อาจร้ายถึงขนาดคนออกมาขับไล่ไม่ให้อยู่กันเลยทีเดียว!!!
จะว่าไปรัฐบาลบริหารประเทศมาก็นานระยะหนึ่งแล้ว น่าจะมีการปรับเปลี่ยน เพื่อสร้างความกระฉับกระเฉง หรือเปลี่ยนแนวทางกันบ้าง เพราะหลายอย่างดูแล้ว “ไม่เวิร์ก”
น่าจะปรับครม.กันเสียทีหนึ่ง เอารมต.ด้านเศรษฐกิจมาเป็นแพะบูชายัญ “หม่อมอุ๋ย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อาจยังมีความจำเป็นต้องเป็นหัวเรือนำด้านเศรษฐกิจ ก็เอา สมหมาย ภาษี รมว.คลัง มาเชือดแทน เพราะวันๆ ไม่เห็นคิดอ่านทำอะไร นอกจากหาหนทางเก็บภาษี ถอนขนห่านขนหมูอยู่เรื่อย สมชื่อเสียงนามสกุลจริงๆ
ยามนี้เศรษฐกิจเสื่อมทรุด ไม่มีแนวโน้มกระเตื้องขึ้น หัวปักหัวปำมานานแล้ว แต่ไม่มีแนวคิดทำให้ผงกหัวขึ้น ฉะนั้นควรเปลี่ยนแปลงหาคนมาสร้างมิติใหม่ๆ เพิ่มเติม และดูดีกว่านี้ อย่าลืมว่าปัญหานี้สำคัญมากมีผลทำให้รัฐบาลอยู่หรือไปเลยทีเดียว แค่แก้ความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยอย่างเดียวได้คงไม่พอ จำเป็นต้องได้มืออาชีพมาบริหารงานเศรษฐกิจ ดูแลปากท้องชาวบ้านด้วย
**ถ้าแก้ปัญหาตรงนี้ได้ ชาวบ้านรู้สึกสัมผัสได้ว่ากำลังปรับเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น นั่นจะเป็นการต่อวีซ่าให้รัฐบาลอยู่ไปได้เรื่อยๆ แต่ถ้าไม่ ก็เตรียมนับถอยหลังได้เลย
เพราะตอนนี้ปัจจัยเรื่องการเมือง เรื่องของการวางโรดแมปเป็นสัญญาประชาคมเอาไว้ คนรับรู้กันทั้งเมือง จะต่อเวลาไปนิดหน่อย คงไม่น่าเกลียด แต่ถ้าเนิ่นนานไปอาจมีปัญหา ยิ่งบริหารประเทศบ้อท่า ล้มเหลว ยิ่งหมดสิทธิ์อุทธรณ์ ฎีกาใดๆ ทั้งปวง
กระนั้นก็ตาม มีเรื่องดีก็ต้องชมเหมือนกัน อย่างนโยบายแจกที่ทำกินให้คนจน ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย เป็นเจ้าภาพหลัก ที่ดินกว่า 5 หมื่นไร่ นำร่องที่เชียงใหม่ เดือนเม.ย.นี้ เป็นมาตรการที่ประชาชนแซ่ซ้องสรรเสริญ ช่วยคนชั้นล่าง เกษตรกรกระดูกสันหลังของชาติอย่างแท้จริง
พูดถึงกระทรวงทรัพย์ฯ หลายคนยกนิ้วชื่นชม พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมต.เจ้ากระทรวง ที่ดูเหมือนว่าจะมีผลงานและสามารถทำให้ประชาชนรับรู้ได้ ทหารก็บริหารบ้านเมืองได้ดีเหมือนกัน เรื่องไหนที่กี่ยวข้องการดูแลรับผิดชอบ “ดาว์พงษ์”ไม่เคยนิ่งเฉย ภัยแล้ง รุกป่า เข้าถึงหมด ล่าสุดเรื่องหมอกควัน เผาป่า ก็มีแอ๊คชั่นออกมาจนได้ใจทั้งผู้บังคับบัญชา และประชาชนทั่วไป
เช่นเดียวกับกระทรวงมหาดไทยของ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา มท.1 แม้จะเงียบๆ แต่ก็เรียบร้อยดี ทั้งดูแลความสงบ จัดการปัญหาสังคม เช่น การเร่งแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ ไม่เสียชื่อทหารเสือเก่งทั้งบุ๋นบู๊ !!!
แต่เรื่องการปรับครม.ก็ให้หงุดหงิดเหมือนกัน พอเวลาสื่อไปสอบถามท่านนายกฯประยุทธ์ เรื่องนี้ ก็จะโดนบอกปัดปฏิเสธอยู่เรื่อย “ไม่ปรับครับ ๆ ผมไปขอเขามาช่วยงาน ไม่มีใครอยากมาอยู่ตรงนี้ ทุกคนก็เหนื่อยกันทั้งนั้น”
แต่ในหลักการความเป็นจริง ใครมาเป็นก็ต้องยอมเหนื่อยทั้งนั้น และก็ไม่เคยเห็นใครบ่นเรื่องนี้เท่าไหร่ มีแต่อยากมาเหนื่อยบนตำแหน่งสูงๆ แบบนี้ และในมิติของการบริหารประเทศบางครั้งบางทีมันรอไม่ได้ มันยื้อไม่ไหว เมื่อเห็นปัญหาต้องรีบแก้ ปล่อยไว้ความเสียหายจะลุกลามยิ่งด้านเศรษฐกิจเขาคิดประเมินกำไรขาดทุนเป็นวินาที
**ฉะนั้นก็ควรคิดถึงประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และความอยู่รอด เจริญก้าวหน้าของประเทศเป็นหลักเหนืออื่นใด ความเกรงใจอะไรต่างๆต้องตัดทิ้งไปบ้าง ถ้ามัวแต่เกรงใจคนนั้น คนนี้ เอาเขามาแล้วไม่อยากเอาเขาทิ้ง วันหนึ่งประชาชนอาจเลิกเกรงใจนายกฯ เลิกเกรงใจรัฐบาล ขอร้องให้ปรับรัฐบาลกันไปเลยก็ได้
ถึงเวลาหรือยังที่รัฐบาลจะสร้างมิติความเปลี่ยนแปลง ทั้งบุคลากรและนโยบาย สร้างความหวัง ความเชื่อมั่นให้ประชาชนแบบจริงๆจังๆ คิดถึงเรื่องนี้และทำให้สำเร็จก่อน แล้วค่อยมาคิดถึงเรื่องสืบทอดอำนาจจะดีกว่า
**เพราะถ้าขั้นที่ 1 ไม่สำเร็จแล้ว ย่อมไม่อาจไปถึงขั้นที่ 2 ได้แน่นอน !!!