xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” วอนหุบปากเรื่องภาษี บอก “อย่าไปวิตกกับมันเลย” - ยันกวดวิชาต้องเสีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นายกรัฐมนตรี วอนหยุดพูดเรื่องภาษี แจงอยู่ในขั้นตอนของการหารือ บอกอย่าไปวิตกกับมันเลย บอกภาษีบ้านและที่ดินยังต้องคิดกันอีกเยอะ เผยแนวคิดบ้านแพงเสียมาก บ้านถูกเสียน้อย โอดถ้าการเมืองเข้ามาเดือดร้อน โอ่ไม่ต้องการคะแนนนิยม ชี้กวดวิชาต้องเสียภาษี อย่าไปเพิ่มภาระแต่ผู้ปกครอง ปัดรัฐบาลถังแตก ส่วนปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เป็นอำนาจ กนง. ขออย่ากังวล แต่รัฐบาลส่งสัญญาณให้ลดไม่ได้

วันนี้ (10 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในเรื่องของการออกกฎหมายเกี่ยวกับภาษี ตนได้เรียนกับที่ประชุมว่าทุกอย่างยังอยู่ในขั้นตอนการหารือ บางครั้งเป็นเรื่องเดิมที่ทำไว้หลายรัฐบาลแล้ว บางทีก็เอาเข้ามาเพื่อพิจารณากันว่าเห็นชอบว่าควรจะมีการเก็บหรือไม่ในแต่ละประเภท และเข้าไปศึกษาในขั้นตอนของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อีกหลายขั้น ยังไม่ชัดเจน

นายกฯ กล่าวอีกว่า เรื่องภาษีจะต้องมีมาตรการที่จะยกเว้นให้คนจนไม่เดือดร้อน ส่วนคนรวยก็เสียมากหน่อยในทรัพย์สินที่มีอยู่ แต่ก็จะมีกำหนดว่าไม่เกินเท่าไร สมมุติว่าเป็นบ้านถ้าราคาสูง ก็ต้องกำหนดว่าไม่เกินเท่าไร ซึ่งทั้งหมดยังหารือกันอยู่อย่าเพิ่งไปวิตกกับมันเลย เราต้องเตรียมเรื่องการสร้างความเข้มแข็งให้กัประเทศชาติในวันหน้า เพราะเมื่อเศรษฐกิจลงก็จะมีปัญหาหมด ฉะนั้นขอร้องว่าพอได้แล้วเรื่องภาษี ยังไม่จบทั้งสิ้น และยังไม่เกิดในวันนี้พรุ่งนี้

นายกฯ กล่าวต่อว่า ต้องมีการอธิบายต่อประชาชนเรื่องระบบภาษีของประเทศไทยเป็นอย่างไร วันนี้มีอะไรที่มีผลกระทบบ้าง อะไรที่ทำให้การลงทุนลดลง ทำให้การลงทุนนั้นทำไม่ได้ ฉะนั้น ความเข้มแข็งมันจึงไม่เกิดจึงต้องมีเม็ดเงินกลับมา ขณะเดียวกันเมื่อสถานการณ์เศรษฐกิจขณะนี้เป็นอย่างนี้แล้วจะทำอย่างไรตัวไหนจะชะลอ หรือจะออก ใครมีรายได้มากก็ต้องเสีย คนที่มีรายได้น้อยก็เสียนิดหน่อย ให้เป็นสัญลักษณ์ไว้ก่อน ไม่เดือดร้อนน่า ถ้าเดือดร้อนตนก็เดือดร้อนด้วย เพราะต้องเสียเหมือนกัน

นายกฯ กล่าวอธิบายต่อไปว่า เรื่องภาษีบ้านและที่ดินต้องคิดกันอีกเยอะ โดยได้ให้มาตรการไปว่าจะดูแลอย่างไรให้เกิดความเป็นธรรมที่สุด บ้านราคาแพงก็เสียมาก บ้านราคาน้อยก็เสียน้อย ถ้ามันลดลงได้อีกก็ลดลงไปแค่นั้น ให้คิดเสียว่าเราช่วยกันดูแลประชาชนคนอื่น ถ้าเราไม่ช่วยกันแล้วใครจะช่วย จะเอาเงินที่ไหน ทั้งนี้ ความหมายของตนคือเรามีโครงสร้างภาษีหลายอย่างด้วยกัน ซึ่งไม่ได้แก้มาเลยกี่สิบปีมาแล้ว บางอย่างยังใช้ พ.ร.บ.จัดสรรที่ดิน 2457 ที่ดินก็ยังทำผังเมืองไม่เรียบร้อยกี่รัฐบาลมาแล้วทำไม่สำเร็จ เรากำลังเร่งทำให้สำเร็จภายใน 3 - 4 ปี เราก็ไม่ได้อยู่แล้วตามโรดแมป

“ภาษีอย่างนี้มันเกิดได้หรอก ถ้าเป็นการเมืองเข้ามาก็เดือดร้อน วันนี้จะเห็นว่าพวกนักการเมืองออกมาเชียร์ให้ออก รวมถึงก็มีตีกลับนี่ละมันมีทั้งสองด้าน ซึ่งผมไม่ต้องการคะแนนนิยม ผมต้องการความร่วมมือ แต่ถ้าคะแนนนิยมผมก็ขอบคุณความร่วมมือต่างๆ แต่ถ้าจะเชียร์ผมขึ้นเป็น 8 เป็น 9 หรือลงมา 7 ผมขอบคุณ แต่ไม่เอามาเป็นบรรทัดฐานในการทำงาน โดยบรรทัดฐานของผมคือเห็นรอยยิ้มจากประชาชน และสนับสนุนผมในการแก้ปัญหา ผมยังคิดว่าเขาฝากความหวังไว้เยอะเหลือเกิน แล้วจะทำอย่างไรแต่เวลาก็มี และอย่าหาว่าผมจะปลื้มคำเยินยอ มาอยู่ตรงนี้มันทำตามกระแสไม่ได้ เพราะผมไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ถ้ามาหาคะแนนเสียงผมคงไม่มานั่งคิดเรื่องภาษี ล๊อตเตอร์รี่ก็ไม่ต้องแก้ ที่ดินไม่ต้องไปยึดคืน คลองถมก็ปล่อยให้เละไป นี่คือความแตกต่างไง คือความเป็นระเบียบของบ้านเมือง” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวต่อว่า เมื่อมีการลงทุนสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าแล้ว อยากให้มีการสร้างตึกขึ้นมาด้วยแล้วเอาคนขึ้นไปอยู่ ถ้าเป็นรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งนั้นก็คงจะปล่อยให้เป็นชุมชนไปเรื่อยๆ มีบ้านเลขที่เลือกตั้งได้อีก คือสิ่งที่มีความแตกต่างว่าคะแนนเสียงส่วนใหญ่ ส่วนน้อยเป็นอย่างไร คนเหล่านี้อะไรที่ได้ประโยชน์เขาก็ต้องเลือก ต้องสอนคนแบบนี้ ถ้าจนแล้วทำได้ทุกอย่าง ถ้ารวยแล้วยึดคืนทั้งหมดมันก็ไม่ใช่ ต้องหามาตรการที่เหมาะสม

ส่วนกรณีที่ประชุมเห็นชอบการเสียภาษีเงินได้ส่วนบุคคลของโรงเรียนกวดวิชา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องไปดูด้วยว่าโรงเรียนกวดวิชานั้นอยู่นอกระบบหรือในระบบซึ่งเราต้องให้ความเป็นธรรมและต้องดูว่าอะไรที่ก่อให้เกิดรายได้ก็ต้องเสียภาษี นี่คือประเด็น ถ้าเสียขึ้นมาตนถามว่าโรงเรียนกวดวิชาเขาเดือดร้อนหรือไม่ ต้องไปบอกโรงเรียนกวดวิชาเหล่านั้นให้เสียภาษีบ้าง อย่าไปเพิ่มภาระให้แต่ผู้ปกครอง แต่ถ้าเราช่วยกันทำความเข้าใจตนคิดว่าก็ไม่เสียหาย ไม่ใช่ว่ารัฐบาลถังแตก โดยวันนี้เราพยายามหาเงินทุกบาทให้เกิดประโยชน์สูงสุดและไม่ใช้งบประมาณจำนวนมากอย่างเสียหาย เราใช้เพื่อให้เกิดการสร้างความสร้างรายได้เท่านั้น

ส่วนกรณีคณะกรรมการนโยบายการเงินแห่งชาติ (กนง.) จะมีการระชุมในวันที่ 11 มี.ค. ซึ่งต้องจับตาเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้มีการหารือกันใน ครม. ซึ่งทางธนาคารแห่งประเทศไทย รวมทั้ง กนง. ได้มีการหารือกัน เขาดูอยู่แล้ว และพร้อมที่จะปรับให้ แต่ขอดูเม็ดเงินที่เข้าออกตอนนี้ก่อน ซึ่งที่ผ่านมาเป็นเงินระยะสั้น ต้องดูระยะยาวว่ามีผลกระทบแค่ไหน เพราะถ้าเราผลีผลามตอนนี้เรามีโจทย์แค่ 2 เปอร์เซ็นต์ ถ้าลดเร็วเกินไปก็จะไม่มีเครื่องมือแก้ปัญหา

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะส่งสัญญาณให้ลดหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เราส่งสัญญาณไม่ได้ เพราะ กนง. เป็นองค์กร ที่มีอำนาจในการรักษามาตรการทางการเงิน ซึ่งเราสั่งไม่ได้ เพราะผิดพลาดไปแล้วเดี๋ยวเดือดร้อน มันมีหลายส่วนอยู่ตรงนั้น ทั้งภาครัฐและเอกชน เขาหารืออยู่แล้ว อย่าไปกังวล คิดว่าเศรษฐกิจเรายังไปได้อยู่

เมื่อถามว่าการจะปรับขึ้นหรือลงต้องดูอะไร นายกฯ กล่าวว่า ต้อดูสถานการณ์โลกว่าเป็นอย่างไร ตอนนี้ถ้าดูสถานการณ์รอบด้านเขาก็ลงกันหมด บางประเทศเขาลงไปแล้วแต่สถานการณ์ยังไม่ได้ขึ้น เราต้องดูตรงนั้นด้วย ถ้าลงไปแล้วเราไม่ได้ขึ้นเลยจะทำให้เราถอยหลังลำบากในวันหน้า เพราะมันมีเงินสำรอง เราก็ไม่อยากให้เอามาใช้ตรงนี้มากนัก

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการจัดระเบียบผู้ค้าคลองถมว่า ขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกลุ่มผู้ค้าที่ยอมปฏิบัติตามกฎระเบียบ เรื่องนี้มันไม่ใช่ประวัติศาสตร์เพราะประวัติศาสตร์เก่า เราสามารถสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ได้ ส่วนประวัติศาสตร์เก่าที่เป็นของดีก็ต้องเก็บไว้



กำลังโหลดความคิดเห็น