นายกฯเดินหน้าเก็บภาษีที่ดิน-บ้าน ขู่ไม่จ่ายโดนเวต 10% อ้าง รบ.เก่าก่อหนี้ไว้เยอะ ด้าน “กมธ.เศรษฐกิจ” สอนมวย ก.คลังปรับฐานภาษีเงินให้สอดคล้องภาวะ ศก. เชื่อเพิ่มรายได้ประเทศ ดึงคนเข้าระบบภาษีมากขึ้น พร้อมชงเงื่อนไขงดเว้นเก็บภาษีสิ่งปลูกสร้าง “พิเชษฐ” ค้านรีดภาษีชี้ผลักภาระให้ ปชช. ระบุเศรษฐีที่ดินไม่กระเทือน แต่คนจนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ด้าน “สมหมาย” ถอย!! ตั้งเพดานใหม่เว้นบ้านราคาไม่เกิน 1.5 ล้าน
วานนี้ (9 มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีมาตรการการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างว่า ที่ผ่านมาทุกคนอยากได้นั่นได้นี่ แต่รัฐไม่สามารถเก็บภาษีได้ ก็อยากถามว่าจะเอาเงินที่ไหนมาทำ ตนอยากให้เข้าใจกันบ้าง อะไรคือผลประโยชน์ของประเทศ อะไรคือเรื่องส่วนตัว ตนเข้าใจดีว่าแต่ละคนมีความเดือดร้อนไม่เท่ากัน ก็พยายามจะลดและปรับ แต่ปัจจุบันไม่คิดกันเลยและไม่สนเรื่องของภาษีที่ดินและภาษีบ้าน แล้วจะให้ไปขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (vat) หรืออย่างไร ความจริงจะต้องขึ้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมาแล้วจาก 7 เปอร์เซ็นต์เป็น 10 เปอร์เซ็นต์ แต่เราก็ได้มีการชะลอไว้
“อันนั่นก็ไม่ได้ไอ้นี่ก็ไม่ได้ แล้วหนี้เก่าที่รัฐบาลก่อนๆ ทำไว้ก็มีเยอะมาก แล้วประเทศจะเดินหน้าได้อย่างไร” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
โอดรัฐบาลรายจ่ายเยอะ
ผู้สื่อข่าวถามว่าสรุปแล้วรัฐบาลจะเก็บภาษีบ้านและที่ดินใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถึงวันนี้ยังไม่มีข้อสรุป วันนี้อยู่ในขั้นตอนของกระบวนการที่มีการเสนอเข้าไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยังต้องมีการพิจารณาอีก 3 วาระแล้วถึงจะมีประกาศ อาจจะใช้เวลาอีกหลายเดือนหรืออีก 1-2 ปีข้างหน้าก็ได้ และที่ต้องใช้เวลาเพราะจะต้องไปจัดทำในเรื่องของราคา ผังเมือง และรายละเอียดที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย เรื่องนี้ตนเข้าใจดีเพราะตนก็เป็นคนที่เสียภาษี ข้าราชการทุกก็เสียภาษี
เมื่อถามว่ามาตรการดังกล่าวเป็นเพราะรัฐบาลเก็บภาษีไม่เข้าเป้าใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพราะที่ผ่านมามีการโกง และหลบเลี่ยงภาษีกัน การที่ต้องเก็บวันนี้เพราะต้องการมีรายได้มาชดเชยในสิ่งที่เก็บไม่ได้ โดยเฉพาะการชดเชยรายได้ที่มีน้อยมาก ซึ่งก็จะมีการกล่าวหาว่าเป็นการไปไล่ล่าประเด็นวันนี้รายได้ไม่เพียงพอรัฐบาล จึงต้องตั้งงบประมาณแบบขาดดุล 2 แสนกว่าล้านเพื่อนำไปโปะให้กับองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จ่ายเงินกู้ จ่ายค่าคลังเก็บข้าวในโครงการรับจำนำข้าวเดือนละ 2 พันกว่าล้านบาท นอกจากนี้ก็ยังต้องไปจ่ายหนี้ค่ารถไฟและรถเมล์ฟรี ยังมีรายจ่ายประจำแล้วจะเอาเงินไปจากไหน ถ้าไม่เก็บภาษีและรัฐบาลจะทำต่อเมื่อมีความพร้อม ที่ผ่านมารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไม่สามารถทำได้เพราะกลัวจะเสียคะแนนเสีย
เสนอปรับฐานภาษีเงินได้
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายสมชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ปฏิรูปการเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แถลงภายหลังการประชุม กมธ.ที่ได้เชิญ นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เข้าแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องการเงิน การคลัง การภาษีอากร และการงบประมาณว่า กมธ.ยังได้เสนอให้ปรับปรุงการเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยขยายถ่างช่วงรายได้ให้กว้างขึ้น เนื่องจากอัตราก้าวหน้าที่เก็บในปัจจุบัน ผู้มีรายได้ต่ำสุดเกิน 4 แสนบาทคิด 5 เปอร์เซ็นต์ ไปจนถึงผู้มีรายได้สูงสุดเกิน 4 ล้านบาทในอัตรา 35 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งใช้มานานกว่า 20 ปี มาก ขณะนั้นประเทศมีรายได้ไม่มากและไม่สูงนัก จึงควรปรับปรุงเพิ่มเติม เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่ง รมว.คลังก็รับที่จะหารือกันต่อไป
นายสมชัย กล่าวว่าถึงการจัดเก็บภาษีบ้านและสิ่งปลูกสร้างว่า ทาง รมว.คลังกำลังพิจารณาข้อยกเว้นต่างๆ อาทิ เงื่อนไขที่ยกเว้นไม่จัดเก็บภาษีราคาบ้านที่ต่ำกว่า 1 ล้านบาทควรจะปรับราคาบ้านที่สูงกว่านี้หรือไม่ หรือจะมีเงื่อนไขผ่อนปรนให้กับผู้มีรายได้ต่ำเก็บภาษีไม่ต้องเต็มจำนวนในระยะแรกๆ ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลเร่งดำเนินการ เพราะข้อเสนอต่างๆต้องทำให้เสร็จในรัฐบาลชุดนี้ ไม่เช่นนั้นก็เท่ากับว่าไม่ได้มีการปฏิรูปอะไรเลย
คลังถอย!เว้นเก็บบ้านไม่เกิน 1.5 ล้าน
ด้าน นายสมหมาย เปิดเผยว่า การปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์การยกเว้นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ว่า มีการปรับเปลี่ยนเพดานภาษี จากเดิมกำหนดให้ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ไม่ต้องเสียภาษี เป็นมูลค่า 1.5 ล้านบาท โดยมองว่าน่าจะอยู่ในระดับที่เหมาะสม และกรณีเป็นเจ้าของมากกว่า 1 แห่ง ให้เสียเพียง 1 แห่ง และกรณีบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ที่ต้องเสียภาษี 3,000 บาท หักค่าลดหย่อนได้ 50% เหลือ 1,500 บาท ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะปรับเป็น 4-5 ล้านบาท เพื่อเป็นการบรรเทาภาระภาษีให้กับประชาชน ยอมรับว่า การปรับหลักเกณฑ์อาจทำให้การจัดเก็บรายได้ลดลงไปบ้าง แต่ก็ต้องยอม โดยรายได้จากภาษีทั้งหมด จะส่งให้ อปท. พร้อมยืนยันจะเสนอ ครม.ได้ใน 1-2 สัปดาห์นี้
“พิเชษฐ”สับผลักภาระให้ ปชช.
อีกด้าน นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล อดีต รมช.คลัง โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ขอฝากเพื่อพิจารณาในหลายประเด็น อาทิ บ้านมูลค่าเกิน 1 ล้านบาทต้องเสียภาษี หากเช่าบ้านที่ต้องเสียภาษี ผู้เช่าต้องกระทบจากค่าเช่าหรือไม่ เช่นเดียวกับการเช่าที่ดินเพื่อการอื่นสารพัด แม้แต่ค่าเช่าสวน ค่าเช่านา กรณีคอนโดมีเนียม อพาร์ทเม้น หอพักต่างๆเมื่อเจ้าของมีภาระต้องเสียค่าภาษีทรัพย์สินหรือภาษีโรงเรือนเพิ่มขึ้น จะมีการเพิ่มค่าเช่าจากผู้เช่าหรือไม่ รวมไปถึงผู้เช่าสถานที่ตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ ดีพาร์ทเม้นสโตร์ หรือศูนย์การค้าจะถูกเพิ่มค่าเช่า ทำให้ต้องผลักภาระภาษีไปในราคาสินค้าสู่ผู้บริโภค หรือกระทั่งที่ดินสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ หรือทรัพย์สินส่วนพระองค์ทั้งสิ้น ต้องเสียภาษีหรือไม่ หากต้องเสียต้องมหาศาลขนาดไหน หากไม่เสีย ต้องออกกฎหมายยกเว้นให้ใหม่ หากออกกฎหมายยกเว้นจะถูกขบวนการที่ไม่หวังดีต่อสถาบันยกขึ้นกล่าวร้ายอย่างกว้างขวางหรือไม่
“จะมีผู้ได้รับความเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ผมในฐานะรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบในเรื่องการจัดเก็บภาษี จึงบัญชาให้ระงับความคิดเรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในรูปแบบนี้ไว้ แม้เป็นยามที่ประเทศชาติกำลังมีวิกฤตสาหัสจากวิกฤตต้มยำกุ้ง พรรคประชาธิปัตย์พ้นวิกฤตจากความคิดเรื่องภาษีที่ดินนี้ได้อย่างหวุดหวิด กลายเป็นภาระแก่รัฐบาลปัจจุบันที่หยิบยกขึ้นมาอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่เขาคงไม่สำเหนียกนัก เพราะเขาเป็นรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ไม่ต้องอาศัยการเลือกตั้ง” นายพิเชษฐ ระบุ
นายพิเชษฐ ระบุด้วยว่า เศรษฐีหรือราชาที่ดินจะไม่หวั่นไหวกับภาระภาษี เพราะเขามีกำลังที่จะรับได้ และมีช่องทางที่จะถ่ายทอดผลักภาระต่อไปได้ แต่คนชั้นกลางจะเป็นผู้รับภาระภาษีล้วนๆ เพราะเป็นปลายทางที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
“ถอยเถอะท่านนายกฯ พลาดไปแล้ว ผู้ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งก็อาจก้าวพลาดในเรื่องเช่นนี้บ่อยๆ แต่ผู้ฉลาดย่อมรู้ที่จะหาทางออกเสีย มิฉะนั้น วันหนึ่งเมื่อรัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตยมาถึง เขายกเลิกกฎหมายของท่านแน่ และท่านในฐานะส่วนตัวจะเสียหายจากเรื่องนี้ไปอีกนาน” นายพิเชษฐ ระบุ
วานนี้ (9 มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีมาตรการการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างว่า ที่ผ่านมาทุกคนอยากได้นั่นได้นี่ แต่รัฐไม่สามารถเก็บภาษีได้ ก็อยากถามว่าจะเอาเงินที่ไหนมาทำ ตนอยากให้เข้าใจกันบ้าง อะไรคือผลประโยชน์ของประเทศ อะไรคือเรื่องส่วนตัว ตนเข้าใจดีว่าแต่ละคนมีความเดือดร้อนไม่เท่ากัน ก็พยายามจะลดและปรับ แต่ปัจจุบันไม่คิดกันเลยและไม่สนเรื่องของภาษีที่ดินและภาษีบ้าน แล้วจะให้ไปขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (vat) หรืออย่างไร ความจริงจะต้องขึ้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมาแล้วจาก 7 เปอร์เซ็นต์เป็น 10 เปอร์เซ็นต์ แต่เราก็ได้มีการชะลอไว้
“อันนั่นก็ไม่ได้ไอ้นี่ก็ไม่ได้ แล้วหนี้เก่าที่รัฐบาลก่อนๆ ทำไว้ก็มีเยอะมาก แล้วประเทศจะเดินหน้าได้อย่างไร” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
โอดรัฐบาลรายจ่ายเยอะ
ผู้สื่อข่าวถามว่าสรุปแล้วรัฐบาลจะเก็บภาษีบ้านและที่ดินใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถึงวันนี้ยังไม่มีข้อสรุป วันนี้อยู่ในขั้นตอนของกระบวนการที่มีการเสนอเข้าไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยังต้องมีการพิจารณาอีก 3 วาระแล้วถึงจะมีประกาศ อาจจะใช้เวลาอีกหลายเดือนหรืออีก 1-2 ปีข้างหน้าก็ได้ และที่ต้องใช้เวลาเพราะจะต้องไปจัดทำในเรื่องของราคา ผังเมือง และรายละเอียดที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย เรื่องนี้ตนเข้าใจดีเพราะตนก็เป็นคนที่เสียภาษี ข้าราชการทุกก็เสียภาษี
เมื่อถามว่ามาตรการดังกล่าวเป็นเพราะรัฐบาลเก็บภาษีไม่เข้าเป้าใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพราะที่ผ่านมามีการโกง และหลบเลี่ยงภาษีกัน การที่ต้องเก็บวันนี้เพราะต้องการมีรายได้มาชดเชยในสิ่งที่เก็บไม่ได้ โดยเฉพาะการชดเชยรายได้ที่มีน้อยมาก ซึ่งก็จะมีการกล่าวหาว่าเป็นการไปไล่ล่าประเด็นวันนี้รายได้ไม่เพียงพอรัฐบาล จึงต้องตั้งงบประมาณแบบขาดดุล 2 แสนกว่าล้านเพื่อนำไปโปะให้กับองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จ่ายเงินกู้ จ่ายค่าคลังเก็บข้าวในโครงการรับจำนำข้าวเดือนละ 2 พันกว่าล้านบาท นอกจากนี้ก็ยังต้องไปจ่ายหนี้ค่ารถไฟและรถเมล์ฟรี ยังมีรายจ่ายประจำแล้วจะเอาเงินไปจากไหน ถ้าไม่เก็บภาษีและรัฐบาลจะทำต่อเมื่อมีความพร้อม ที่ผ่านมารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไม่สามารถทำได้เพราะกลัวจะเสียคะแนนเสีย
เสนอปรับฐานภาษีเงินได้
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายสมชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ปฏิรูปการเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แถลงภายหลังการประชุม กมธ.ที่ได้เชิญ นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เข้าแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องการเงิน การคลัง การภาษีอากร และการงบประมาณว่า กมธ.ยังได้เสนอให้ปรับปรุงการเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยขยายถ่างช่วงรายได้ให้กว้างขึ้น เนื่องจากอัตราก้าวหน้าที่เก็บในปัจจุบัน ผู้มีรายได้ต่ำสุดเกิน 4 แสนบาทคิด 5 เปอร์เซ็นต์ ไปจนถึงผู้มีรายได้สูงสุดเกิน 4 ล้านบาทในอัตรา 35 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งใช้มานานกว่า 20 ปี มาก ขณะนั้นประเทศมีรายได้ไม่มากและไม่สูงนัก จึงควรปรับปรุงเพิ่มเติม เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่ง รมว.คลังก็รับที่จะหารือกันต่อไป
นายสมชัย กล่าวว่าถึงการจัดเก็บภาษีบ้านและสิ่งปลูกสร้างว่า ทาง รมว.คลังกำลังพิจารณาข้อยกเว้นต่างๆ อาทิ เงื่อนไขที่ยกเว้นไม่จัดเก็บภาษีราคาบ้านที่ต่ำกว่า 1 ล้านบาทควรจะปรับราคาบ้านที่สูงกว่านี้หรือไม่ หรือจะมีเงื่อนไขผ่อนปรนให้กับผู้มีรายได้ต่ำเก็บภาษีไม่ต้องเต็มจำนวนในระยะแรกๆ ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลเร่งดำเนินการ เพราะข้อเสนอต่างๆต้องทำให้เสร็จในรัฐบาลชุดนี้ ไม่เช่นนั้นก็เท่ากับว่าไม่ได้มีการปฏิรูปอะไรเลย
คลังถอย!เว้นเก็บบ้านไม่เกิน 1.5 ล้าน
ด้าน นายสมหมาย เปิดเผยว่า การปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์การยกเว้นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ว่า มีการปรับเปลี่ยนเพดานภาษี จากเดิมกำหนดให้ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ไม่ต้องเสียภาษี เป็นมูลค่า 1.5 ล้านบาท โดยมองว่าน่าจะอยู่ในระดับที่เหมาะสม และกรณีเป็นเจ้าของมากกว่า 1 แห่ง ให้เสียเพียง 1 แห่ง และกรณีบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ที่ต้องเสียภาษี 3,000 บาท หักค่าลดหย่อนได้ 50% เหลือ 1,500 บาท ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะปรับเป็น 4-5 ล้านบาท เพื่อเป็นการบรรเทาภาระภาษีให้กับประชาชน ยอมรับว่า การปรับหลักเกณฑ์อาจทำให้การจัดเก็บรายได้ลดลงไปบ้าง แต่ก็ต้องยอม โดยรายได้จากภาษีทั้งหมด จะส่งให้ อปท. พร้อมยืนยันจะเสนอ ครม.ได้ใน 1-2 สัปดาห์นี้
“พิเชษฐ”สับผลักภาระให้ ปชช.
อีกด้าน นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล อดีต รมช.คลัง โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ขอฝากเพื่อพิจารณาในหลายประเด็น อาทิ บ้านมูลค่าเกิน 1 ล้านบาทต้องเสียภาษี หากเช่าบ้านที่ต้องเสียภาษี ผู้เช่าต้องกระทบจากค่าเช่าหรือไม่ เช่นเดียวกับการเช่าที่ดินเพื่อการอื่นสารพัด แม้แต่ค่าเช่าสวน ค่าเช่านา กรณีคอนโดมีเนียม อพาร์ทเม้น หอพักต่างๆเมื่อเจ้าของมีภาระต้องเสียค่าภาษีทรัพย์สินหรือภาษีโรงเรือนเพิ่มขึ้น จะมีการเพิ่มค่าเช่าจากผู้เช่าหรือไม่ รวมไปถึงผู้เช่าสถานที่ตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ ดีพาร์ทเม้นสโตร์ หรือศูนย์การค้าจะถูกเพิ่มค่าเช่า ทำให้ต้องผลักภาระภาษีไปในราคาสินค้าสู่ผู้บริโภค หรือกระทั่งที่ดินสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ หรือทรัพย์สินส่วนพระองค์ทั้งสิ้น ต้องเสียภาษีหรือไม่ หากต้องเสียต้องมหาศาลขนาดไหน หากไม่เสีย ต้องออกกฎหมายยกเว้นให้ใหม่ หากออกกฎหมายยกเว้นจะถูกขบวนการที่ไม่หวังดีต่อสถาบันยกขึ้นกล่าวร้ายอย่างกว้างขวางหรือไม่
“จะมีผู้ได้รับความเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ผมในฐานะรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบในเรื่องการจัดเก็บภาษี จึงบัญชาให้ระงับความคิดเรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในรูปแบบนี้ไว้ แม้เป็นยามที่ประเทศชาติกำลังมีวิกฤตสาหัสจากวิกฤตต้มยำกุ้ง พรรคประชาธิปัตย์พ้นวิกฤตจากความคิดเรื่องภาษีที่ดินนี้ได้อย่างหวุดหวิด กลายเป็นภาระแก่รัฐบาลปัจจุบันที่หยิบยกขึ้นมาอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่เขาคงไม่สำเหนียกนัก เพราะเขาเป็นรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ไม่ต้องอาศัยการเลือกตั้ง” นายพิเชษฐ ระบุ
นายพิเชษฐ ระบุด้วยว่า เศรษฐีหรือราชาที่ดินจะไม่หวั่นไหวกับภาระภาษี เพราะเขามีกำลังที่จะรับได้ และมีช่องทางที่จะถ่ายทอดผลักภาระต่อไปได้ แต่คนชั้นกลางจะเป็นผู้รับภาระภาษีล้วนๆ เพราะเป็นปลายทางที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
“ถอยเถอะท่านนายกฯ พลาดไปแล้ว ผู้ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งก็อาจก้าวพลาดในเรื่องเช่นนี้บ่อยๆ แต่ผู้ฉลาดย่อมรู้ที่จะหาทางออกเสีย มิฉะนั้น วันหนึ่งเมื่อรัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตยมาถึง เขายกเลิกกฎหมายของท่านแน่ และท่านในฐานะส่วนตัวจะเสียหายจากเรื่องนี้ไปอีกนาน” นายพิเชษฐ ระบุ