xs
xsm
sm
md
lg

ประสานอินเตอร์โพลล่า"เอนก" ฝากขัง-ค้านประกัน"เดียร์" หมายแดง"กิตติศักดิ์"โกงสจล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ตำรวจสากลเตรียมประสานอินเตอร์โพลตรวจสอบความเคลื่อนไหว "เอนก ซานฟราน" ผู้บงการปาบึ้มศาลอาญา ย้ำเป็นบุคคลที่ทางการไทยต้องการตัว หากพบหลบหนีในประเทศใดขอให้ช่วยแจ้งด่วน ส่วน "เดียร์" ถูกตำรวจ ทหาร คุมตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 6 จุด ที่มุกดาหาร ทั้งจุดเบิกและโอนเงิน ก่อนนำตัวขึ้น ฮ. กลับกรุงเทพฯ ศาลอนุมัติฝากขัง 12 วัน คัดค้านประกันตัว เผยจ่อออกหมายแดงล่า "กิตติศักดิ์" ผู้ต้องหาโกงเงินลาดกระบัง 1.6 พันล้านแล้ว

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ ผกก.ฝ่ายตำรวจสากลและประสานงานภูมิภาค 1 ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงการติดตามตัวนายมนูญ ชัยชนะ หรือเอนก ซานฟราน ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย และร่วมกันเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร และเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังคดีปาระเบิดศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ว่า ปัจจุบันตำรวจสากลประเทศไทยได้รับคำร้องจากพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าวแล้ว เพื่อให้ช่วยดำเนินการสอบสวนติดตามความเคลื่อนไหวของนายมนูญ แต่คดีนี้ขั้นตอนยังไม่ถึงชั้นพนักงานอัยการ เพราะตำรวจยังไม่สรุปสำนวนสั่งฟ้องผู้ต้องหา ตำรวจสากลประเทศไทยจึงได้เตรียมส่งรายละเอียดคำร้อง ซึ่งยังไม่ใช่หมายแดงไปยังองค์กรตำรวจสากลที่มีสมาชิกอยู่ 190 ประเทศทั่วโลก เพื่อแจ้งให้ทราบว่าขณะนี้นายมนูญเป็นบุคคลที่ทางการไทยต้องการตัว ถ้าตรวจสอบพบว่านายมนูญไปหลบหนีอยู่ในประเทศใดให้แจ้งความเคลื่อนไหวมายังตำรวจสากลประเทศไทยรับทราบ ซึ่งข้อมูลตรงนี้จะเป็นประโยชน์ในการระบุถิ่นที่อยู่ที่แน่ชัดของนายมนูญ เพื่อใช้ประกอบในการขอให้มีการส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ศาลในแต่ละประเทศจะไม่ออกหมายจับ พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า ประเทศปลายทางที่ได้รับการร้องขอจากทางการไทยจะดำเนินการให้หรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถตอบได้ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ทางการทูต ซึ่งจะใช้หลักต่างตอบแทน

ทั้งนี้ สำหรับการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนต้องเข้าเงื่อนไข 4 ข้อ ดังนี้ 1.ต้องเป็นข้อหาที่กฎหมายของทั้งสองประเทศบัญญัติว่าเป็นความผิด และเป็นความผิดที่มีอัตราโทษจำคุกขั้นต่ำ 1 ปีขึ้นไป 2.เป็นความผิดที่พนักงานอัยการได้มีการสั่งฟ้องผู้ต้องหาในคดีนั้นไปแล้ว 3.ต้องเป็นกรณีที่มีคำร้องจากทางการไทยว่าขอให้มีการส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน และ 4.ประเทศปลายทางต้องออกหมายจับให้ ซึ่งตรงนี้เป็นดุลพินิจของศาลประเทศนั้นๆ

อนึ่ง การส่งผู้ร้ายข้ามแดนนอกจากจะต้องเข้าเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อแล้ว ต้องไม่เป็นข้อหาเกี่ยวกับการเมือง ศาสนา เชื้อชาติ และการทหาร

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ไทยและสหรัฐฯ มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน แต่กรณีนี้นับว่าเป็นกรณีแรกที่มีการขอให้มีการส่งผู้ร้ายข้ามแดนในคดีก่อการร้าย ตนเชื่อว่าทางการสหรัฐฯ จะใช้ความสำคัญคดีนี้เป็นอันดับแรกในการพิจารณา เพราะเป็นคดีก่อการร้าย ประกอบกับที่ผ่านมา ไทยและสหรัฐฯ ก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ที่ผ่านมา หากมีผู้ต้องหาที่ทางการสหรัฐฯ ต้องการตัว ตำรวจก็ดำเนินการส่งตัวให้เกือบทุกกรณี

สำหรับกรณีนายมนูญเข้าเงื่อนไขแรกแล้ว แต่คดีนี้พนักงานอัยการยังไม่ได้มีการสั่งฟ้องผู้ต้องหา หากมีการสั่งฟ้องก็จะมีการดำเนินการขอออกหมายแดงต่อไป

***ตำรวจคุมตัว"เดียร์"ทำแผน

วันเดียวกันนี้ พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รองผบก.น. 2 พล.ต.ต.วิทวัส บูรณสมภพ ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร พ.ต.อ.วีระเดช เลขะวรกุล ผกก.สภ.เมือง จ.มุกดาหาร พร้อมกำลังตำรวจ 200 นาย ทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี 1 กองร้อย ควบคุมตัวนางสุภาพร มิตรอารักษ์ หรือเดียร์ ผู้ต้องหาคดีจ้างวานให้นายมหาหิน ขุนทอง อายุ 34 ปี และนายยุทธนา เย็นภิญโญ อายุ 33 ปี ขว้างระเบิดอาร์จีดี 5 ใส่ศาลอาญา รัชดาภิเษก เมื่อคืนวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้บงการใหญ่ คือนายมนูญ ชัยชนะ หรือ "เอนก ซานฟราน" หนึ่งในผู้ต้องหาที่หลบหนีอยู่ต่างประเทศ

โดยตำรวจได้ควบคุมตัวนางสุภาพรไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพรวม 6 จุด ดังนี้ จุดที่ 1 ธนาคารกสิกรไทย สาขามุกดาหาร ถนนพิทักษ์พนมเขต ซึ่งนางสุภาพรมาที่ธนาคารเพื่อเบิกเงิน จุดที่ 2 ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขามุกดาหาร ถนนสมุทรศักดารักษ์ เพื่อโอนเงินให้นายมหาหิน จุดที่ 3 ซอยลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นบ้านพักเดิมปล่อยรกร้างของนางสุภาพร ถนนมุกดาหาร-คำชะอี จุดที่ 4 บ้านเช่าเลขที่ 19/1 ชอยศรีมันตะ หน้าเรือนจำมุกดาหาร จุดที่ 5 บ้านเช่าเลขที่ 19/3 ชอยศรีมันตะ หน้าเรือนจำมุกดาหาร เพื่อเอาเงินมาให้นางวาสนา บุสดี จุดที่ 6 ที่ธนาคารกรุงเทพ สาขามุกดาหาร ถนนสองนางสถิตย์ มาทำธุรกรรมด้านการเงิน

จากนั้นได้ควบคุมตัวนางสุภาพรขึ้นเฮลิคอปเตอร์กลับกรุงเทพมหานคร เพื่อทำการสืบสวนขยายผลและฝากขังต่อไป

พ.ต.อ.ชยุต กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนางเดียร์ไปจุดที่ได้ทำการโอนเงิน หรือรับเงินจ้างวานให้ก่อเหตุดังกล่าวเท่านั้น ส่วนผู้กระทำความผิดรายอื่นที่ถูกจับกุมหรือหลบหนี ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนิคดีต่อไป ทั้งนี้ จะควบคุมตัวนายสุภาพรไปฝากขังที่ศาลทหารในวันเดียวกันนี้

***อนุมัติฝากขัง"เจษฎาพงษ์-เดียร์"12วัน

ที่ศาลทหารกรุงเทพ กรมพระธรรมนูญ กระทรวงกลาโหม เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้นำตัวนายเจษฎาพงษ์ วัฒนพรชัยสิริ ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันวางแผนในคดีลอบปาระเบิดเข้าใส่ลานจอดรถของศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา มาขออำนาจศาลทหารกรุงเทพเพื่อขอฝากขังผลัดแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 19-30 มี.ค. โดยพนักงานสอบสวนได้แนบท้ายคำร้องฝากขังคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีเกี่ยวข้องกับความมั่นคงและเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี

ต่อมาเวลา 14.45 น. เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวน บช.น. ได้นำตัวนางสุภาพร มิตรอารักษ์ หรือเดียร์ ผู้ต้องหาในคดีปาระเบิดอาร์จีดี 5 ใส่ศาลอาญาอีกรายที่ถูกตั้งข้อหาจ้างวานให้นายมหาหิน ขุนทอง และนายยุทธนา เย็นภิญโญ ไปขว้างระเบิดที่ศาลอาญา รัชดาฯ เมื่อวันที่ 7 มี.ค. มาขออำนาจศาลทหารกรุงเทพเพื่อขอฝากขังผัดแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 19 -30 มี.ค. เช่นกัน โดยนางสุภาพรมีสีหน้าอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ บรรยากาศหน้าศาลทหารฯ มีสื่อมวลนจำนวนมากให้ความสนใจมารอทำข่าว

จากนั้นเวลา 16.30 น. คณะตุลาการศาลทหารกรุงเทพได้ออกนั่งบัลลังก์พิจารณาอ่านคำร้องที่เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวน บช.น. ยื่นเรื่องขอฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ประกอบด้วย นายเจษฎาพงษ์ และนางสุภาพร เนื่องจากเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนให้เหตุผลว่ายังคงต้องสืบพยานเพิ่มเติมอีกหลายปาก โดยคณะตุลาการศาลทหารกรุงเทพพิเคราะห์แล้วเห็นว่ามีเหตุผลเพียงพอจึงอนุญาตให้ฝากขังตามที่เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนฯ ยื่นคำร้องขอฝากขังผลัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 19 -30 มี.ค. จากนั้นเจ้าหน้าที่จากกรมราชทัณฑ์ได้นำตัวนายเจษฎาพงษ์ ไปฝากขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่วนนางสุภาพรถูกนำตัวไปฝากขังไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง

***ประสานอินเตอร์โพลจับ"กิตติศักดิ์"

สำหรับการติดตามตัวนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหารายสำคัญในคดีลักเงินสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) มูลค่ากว่า 1,600 ล้านบาท หลังจากที่พนักงานอัยการได้สั่งฟ้องผู้ต้องหาในคดีนี้ต่อศาล ก็มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง

โดยล่าสุด พ.ต.อ.กฤษณะ ได้ให้ข้อมูลว่า หลังจากนี้จะเป็นหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุดในฐานะผู้ประสานงานกลางจะส่งเรื่องไปยังประเทศที่คาดว่านายกิตติศักดิ์หลบหนีอยู่ เพื่อให้มีการส่งตัวนายกิตติศักดิ์เป็นผู้ร้ายข้ามแดน โดยจากข้อมูลด้านการข่าว ตำรวจสากลประเทศไทยได้รับการประสานงานจากตำรวจสากลประเทศอังกฤษว่านายกิตติศักดิ์ได้เดินทางเข้าประเทศอังกฤษจริง โดยใช้หนังสือเดินทางและวีซ่าของตนเอง ขณะเดียวกันทราบว่าปัจจุบันวีซ่าและหนังสือเดินทางของนายกิตติศักดิ์ได้ถูกยกเลิกเรียบร้อยแล้ว

"ขั้นตอนต่อไป เป็นเรื่องที่อัยการสูงสุดจะส่งเรื่องคำร้องขอผู้ร้ายข้ามแดนไปยังประเทศอังกฤษ ซึ่งคงต้องใช้เวลา โดยภายหลังอัยการสูงสุดส่งคำร้องให้มีการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปยังประเทศอังกฤษ ก็จะมีการประสานมายังตำรวจสากลประเทศไทย เพื่อให้ตำรวจสากลประเทศไทยร้องขอไปยังองค์กรตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล เพื่อขอให้มีการออกหมายแดง เพื่อให้ช่วยในการดำเนินการจับกุมตัวนายกิตติศักดิ์"

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาอาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าหากมีการออกหมายแดงแล้ว สามารถนำหมายแดงไปจับกุมตัวนายกิตติศักดิ์ได้เลย ยืนยันว่าไม่สามารถทำเช่นนั้น เพราะตามขั้นตอนหลังจากทางการอังกฤษรับเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดนเรียบร้อยแล้ว และมีการอนุญาตให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ ศาลของประเทศอังกฤษจะต้องมีการออกหมายจับก่อน ตำรวจอังกฤษจึงจะสามารถจับกุมนายกิตติศักดิ์ได้ แต่ระหว่างนั้นหากมีความชัดเจนเกี่ยวกับการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนอาจจะมีการควบคุมตัวชั่วคราวได้
กำลังโหลดความคิดเห็น