xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

กาแฟดอยช้าง : จากภูเขาสูง สู่ความเข้มข้นในตลาดโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -กระบวนการสร้างแบรนด์อาจเป็นหนึ่งในสาขาวิชาที่ผู้คนในแวดวงธุรกิจยุคปัจจุบันต้องให้ความสนใจ ซึ่งหากพิจารณาย้อนหลังกลับไปถึงความเป็นมาและเป็นไปของกาแฟดอยช้าง ก็คงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่อุดมด้วยสีสันและเรื่องราวชวนติดตามไม่น้อย

จากยุทธศาสตร์พระราชทานเพื่อเปลี่ยนอาชีพของชาวเขาบนที่สูง จากเดิมที่ปลูกฝิ่นทำไร่เลื่อนลอย มาสู่การปลูกกาแฟ และพืชเมืองหนาว เมื่อกว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ปัจจุบันดอยช้าง ในเขตอำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ได้กลายเป็นสถานที่เพาะปลูกและแบรนด์ของกาแฟที่กำลังจะนำพาความเข้มข้นไปสู่การลิ้มลองของคนทั่วโลก

นับเนื่องตั้งแต่ปี 2526 ที่กรมประชาสงเคราะห์ นำเอาพืชเมืองหนาวมาให้ปลูกแทนฝิ่น ซึ่งมีทั้งมะคาเดเมีย ท้อ บ๊วย และกาแฟอราบิก้า สายพันธุ์คาทูร่า คาทิมอร์ และคาทุย ซึ่งถือเป็นกาแฟสายพันธุ์ดี ที่ได้รับการปรับปรุงพันธุ์จากกรมวิชาการเกษตร โดยในส่วนของกาแฟเริ่มต้นปลูกประมาณ 40 ไร่ ในฐานะที่เป็นโครงการนำร่อง และเป็นการเปิดตำนานบทใหม่ให้เกิดขึ้นบนสถานที่แห่งนี้

พิก่อ แซ่ดู่ ชาวอาข่าจากดอยช้าง อาจมีฐานะเป็นเพียงหนึ่งในผู้เริ่มปลูกกาแฟบนดอยช้าง แต่ถือเป็นการปูเส้นทางและพลิกผันวิถีชีวิตลูกชาย ปณชัย พิสัยเลิศ หรืออาเดล ให้พ้นจากการเป็นพ่อค้าขายไก่กับประเทศจีน มาสู่อาชีพผู้ค้ากาแฟอย่างจริงจัง และเป็นตัวจักรสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของกาแฟดอยช้าง ควบคู่กับวิชา พรหมยงค์ ที่ร่วมกันปลุกปั้นกาแฟดอยช้าง กาแฟไทย ให้ก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ระดับโลก พร้อมกับชื่อเสียงจากคอกาแฟ ที่เริ่มกระจายทั่วโลก

การเดินทางเพื่อสร้างแบรนด์นับ 10 ปีของกาแฟดอยช้าง จากจุดเริ่มต้นในปี 2546 เมื่อมีการจดทะเบียนบริษัท ดอยช้าง เฟรช โรสเต็ด คอฟฟี่ อย่างเป็นทางการ โดยมีวิชา พรหมยงค์ เป็นประธานบริษัทฯ ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ดอยช้าง คอฟฟี่ ออริจินอล ควบคู่กับโลโกชายชาวอาข่า และข้อความ doi chang เป็นสัญลักษณ์ สะท้อนมิติมุมมองว่าด้วยแหล่งกำเนิดที่ชัดเจนตั้งแต่ต้น

เพราะในขณะที่กาแฟชั้นนำชื่อก้องของโลก ไม่ว่าจะเป็น จาเมกาบลูเมาเท่น หรือโคน่าฮาวาย มักจะใช้แหล่งหรือสถานที่เพาะปลูกเพื่อสะท้อนความเป็นซิงเกิล ออริจิน ซิงเกิล เอสเตต มาสร้างให้เกิดเป็นแบรนด์และมูลค่าเพิ่ม ดอยช้างก็พยายามเดินตามบนหนทางที่ว่านี้

แต่ความสำเร็จย่อมไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน หากแต่ต้องอาศัยปัจจัยแวดล้อมที่เหมาะสมในการบ่มเพาะให้งอกเงยขึ้นอย่างช้าๆ

พัฒนาการของกาแฟดอยช้างเติบโตขึ้นเป็นลำดับจากเนื้อที่เพาะปลูก 500-600 ไร่ไปสู่พื้นที่หลายหมื่นไร่ ด้วยลักษณะภูมิประเทศท่ามกลางอากาศเย็นสบายตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ย 18 องศาเซลเซียส ซึ่งถือเป็นสภาพอากาศเหมาะสมที่ทำให้กาแฟสายพันธุ์อราบิก้า สามารถเติบโตและมีผลผลิตที่ดี

และยังมีรสชาติที่โดดเด่นและแตกต่างจากกาแฟไทยดอยอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดกาแฟกลิ่นหอมคล้ายดอกไม้ป่า (Aroma) กลิ่นช็อกโกแลตชัดเจน ที่ไม่ได้อบอวลแค่บนดอย แต่ได้กระจายไปสู่คอกาแฟทั้งในและต่างประเทศด้วย

โดยสิ่งที่ยืนยัน คือ เรตติ้ง Coffee Review ของ The World's Leading Coffee Buying Guide ซึ่งถือเป็นแหล่งอ้างอิงประหนึ่งคัมภีร์ที่บรรดาพ่อค้ากาแฟใช้เป็นเครื่องมือในการดูคุณภาพของกาแฟจากแหล่งผลิตต่างๆ ของโลก ได้ระบุในรายงานเมื่อปี 2550 ให้ กาแฟดอยช้าง แบรนด์เล็กๆ จากยอดดอยในประเทศไทย ถูกจัดให้อยู่ในระดับแถวหน้าของโลกด้วยคะแนนที่สูงมาก

ผลจากการรีวิวดังกล่าวเป็นประหนึ่ง สะพานที่ส่งให้กาแฟดอยช้าง ก้าวไปสู่การรุกตลาดต่างประเทศ อย่างเต็มรูปแบบ โดยได้ร่วมทุนกับนักธุรกิจจากแคนาดา เปิดโรงงานผลิตกาแฟที่แคนาดา และเป็นตัวแทนดูแลตลาดกาแฟดอยช้างในกลุ่มอเมริกาเหนือและยุโรป รวมทั้งหาพันธมิตรคู่ค้าอีกหลายประเทศทั่วโลก อาทิ เกาหลี ญี่ปุ่น เพื่อจำหน่ายกาแฟคั่วบรรจุถุง และการเปิดร้านกาแฟดอยช้าง

ท่ามกลางการเติบโตของกาแฟดอยช้างที่กำลังจะส่งกลิ่นหอมอบอวล เรื่องน่าเสียใจก็เกิดขึ้น เมื่อวิชา พรหมยงค์ ผู้ก่อตั้ง “กาแฟดอยช้าง” ในวัย 63 ปีได้เสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2557 ด้วยโรคหัวใจล้มเหลว พร้อมทิ้งผลงานเกี่ยวกับกาแฟและการพัฒนาอื่นๆ บนดอยช้าง ในขณะที่กิจการเกี่ยวกับกาแฟดอยช้างก็ยังคงเดินหน้าต่อไป

และนั่นอาจเป็นจุดพลิกผันที่ทำให้กาแฟดอยช้างต้องหาพันธมิตรที่แข็งแกร่งมาร่วมก้าวเดินบนหนทางแห่งอนาคต

ปัจจุบันกาแฟดอยช้างมีสาขาเปิดกระจายอยู่ทั่วประเทศ เป็นสาขาที่ลงทุนเอง 10 สาขา ที่เหลือเป็นสาขาแฟรนไชส์ เพื่อให้มีสาขาครอบคลุมทุกพื้นที่มากที่สุด รองรับลูกค้าคอกาแฟ หลังพบว่าคนไทยดื่มกาแฟมากขึ้น และหลากหลายรูปแบบ โดยตั้งเป้าว่า สิ้นปี 2558 นี้ยอดขายกาแฟดอยช้างจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 50%

ในขณะที่แผนทำตลาดต่างประเทศนั้น ในปีนี้ก็พร้อมรุกเต็มที่ในทุกตลาดทั้งยุโรป อเมริกาเหนือ แคนาดา เอเชีย และรวมถึงการก้าวสู่ตลาดอาเซียน ซึ่งได้เริ่มเข้าไปเมื่อหลายปีแล้ว ซึ่งปัจจุบันมีร้านที่มาเลเซีย 14 ร้าน เมียนมาร์ ลาว สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และมีแผนเปิดสาขาในประเทศเหล่านี้เพิ่มเติม รวมทั้งการเปิดสาขาในประเทศใหม่ๆ อย่าง กัมพูชา ญี่ปุ่น และจีน ซึ่งกำลังจะเปิดอีก 40 สาขา

กาแฟดอยช้าง แบรนด์กาแฟไทยที่กำลังไปสร้างความหอมกรุ่นให้คอกาแฟทั่วโลกได้รู้จักดอยช้าง ประเทศไทย ว่าสามารถผลิตกาแฟที่มีคุณภาพ จากพื้นที่เกือบ 30,000 ไร่ จากหมู่บ้านดอยช้างหมู่บ้านเดียวที่สามารถผลิตกาแฟใหญ่ที่สุดในอาเซียน และเป็นอันดับห้าของโลก

กาแฟแบรนด์ไทยที่ได้ไปโลดแล่นอยู่ในตลาดโลก และสร้างชื่อให้คอกาแฟทั่วโลกรู้ว่าบนดอยช้าง จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย มีกาแฟคุณภาพที่ติดอันดับโลก ตามสโลแกนที่ติดไปกับผลิตภัณฑ์ดอยช้างทุกผลิตภัณฑ์ว่า “Pride of the North Chiang Rai, Thailand” พร้อมเครื่องหมาย Product of Thailand และแผนที่ประเทศไทย ติดไปกับผลิตภัณฑ์ดอยช้างไปทั่วทุกมุมโลก

ย่างก้าวของดอยช้างนับจากนี้ กำลังเป็นบทพิสูจน์อีกขั้นตอนหนึ่งว่าหลังจากที่ประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์มาก่อนแล้ว เมื่อถึงจังหวะที่ต้องรักษาแบรนด์ ดอยช้างจะสามารถนำพาแบรนด์นี้ให้ยาวนานและสามารถต่อยอดออกไปได้ไกลสักเพียงใด



กำลังโหลดความคิดเห็น