ประธานบอร์ด SAPPE เผยผลการดำเนินงานปี 57 ทำรายได้ 2,857 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 370 ล้านบาท หลังลุยขายตลาดเครื่องดื่มในต่างประเทศ และบริหารจัดการด้านการผลิตและต้นทุนดีขึ้น ลั่นปีนี้ลุยสร้างแบรนด์ในประเทศและงัดแผนรุกตลาดดันยอดขายเพิ่ม
นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็ปเป้ หรือ SAPPE เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานปี 2557 (มกราคม-ธันวาคม) ว่าบริษัทฯ มีรายได้รวม 2,857 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 2,410 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิทำได้ 370.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 171.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
“สำหรับการเติบโตดังกล่าว มาจากความสำเร็จในการทำตลาดเครื่องดื่ม SAPPE ในต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จตามเป้าที่วางไว้ หลังจากบริษัทฯ ได้ดำเนินกิจกรรมการตลาดและส่งเสริมการขายผ่านสื่อกระแสหลัก เพื่อสร้างการรับรู้ตราสินค้าให้มีความแข็งแกร่งและกระตุ้นการบริโภคเครื่องดื่มของบริษัทฯ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคมีผลต่อยอดขายสินค้าเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนการผลิตของโรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลดลงช่วยหนุนขีดความสามารถในการแข่งขันของ SAPPE ดีขึ้นอีกด้วยผลการดำเนินงานในปี 2557 ถือเป็นปีที่เราประสบความสำเร็จในการทำตลาดเครื่องดื่ม SAPPE ที่มุ่งขยายตลาดเพื่อผลักดันให้บริษัทฯ ก้าวสู่แบรนด์เครื่องดื่มระดับโลกที่ผู้บริโภคทั่วโลกให้การยอมรับ ส่งผลให้เราสามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้น และผลการดำเนินงานโดยรวมของเราก็เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งตามแผนงานที่ได้วางไว้”
อย่างไรก็ดี สำหรับแผนดำเนินงานในปี 2558 บริษัทฯ ยังคงเน้นการสร้างแบรนด์ในต่างประเทศในทุกมิติ ทั้งการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายในห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ในแต่ละประเทศที่บริษัทเข้าไปทำตลาด รวมถึงจะร่วมมือกับคู่ค้า ตัวแทนจำหน่าย ตัวแทนนำเข้าสินค้า ผู้ค้าปลีกและร้านค้ารายย่อยในแต่ละประเทศ ทำประชาสัมพันธ์สื่อสารการตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้เกิดการบริโภคสินค้าเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ประเทศที่บริษัทมีความแข็งแกร่งด้านช่องทางจำหน่ายอยู่แล้วนั้น บริษัทฯ จะแนะนำสินค้าใหม่เพื่อเพิ่มความหลากหลายของสินค้าเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ส่วนตลาดในประเทศนั้น บริษัทฯ เตรียมแผนจัดทำแคมเปญการตลาดเพื่อกระตุ้นการรับรู้และส่งเสริมภาพลักษณ์แบรนด์สินค้า พร้อมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอีกด้วย ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างขยายกำลังการผลิตเครื่องดื่มที่โรงงานคลอง 13 จังหวัดปทุมธานีเพิ่มขึ้นอีก 30% จากเดิมที่มีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 100,000 ตันต่อปี และบรรจุภัณฑ์ขวด PET กำลังการผลิตรวม 164 ล้านขวดต่อปี โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จและเริ่มเดินเครื่องผลิตสินค้าเชิงพาณิชย์ได้ตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป ส่งผลให้บริษัทฯ ลดต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถการทำตลาดป้อนความต้องการสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ดียิ่งขึ้น
“บริษัทฯ มั่นใจว่าด้วยแผนงานการตลาดที่มุ่งเน้นการสร้างตราสินค้า ผ่านกิจกรรมการตลาดและส่งเสริมการขายควบคู่กับการเร่งขยายช่องทางจัดจำหน่ายใหม่ๆ ในตลาดต่างประเทศ เพื่อเพิ่มศักยภาพการจำหน่ายสินค้าไปยังลูกค้ามากขึ้น จะเป็นแรงหนุนที่ช่วยผลักดันให้ผลการดำเนินงาน ของบริษัทฯ สามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้สู่ยอดขาย 5,000 ล้านบาทในปี 2560”