ASTVผู้จัดการรายวัน - สศค.คาดเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกของปี 58 จะขยายตัวได้มากกว่า 2.3% แม้เศรษฐกิจเดือนมกราคมยังชะลอตัว ลั่นเศรษฐกิจทั้งปีน่าโต 3.9% มั่นใจตัวเลขการส่งออกตามเป้าหมายเดิมขยายตัว 1.4%
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ประเมินเศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกของปีนี้ว่า จะขยายตัวได้มากกว่าไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.3% แต่ทั้งนี้คาดว่าคงจะเติบโตไม่ถึง 3% ขณะที่ทั้งปีนี้คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ 3.9%
สำหรับมาตรการคิวอีของสหภาพยุโรปนั้น คาดว่าจะทำให้มีเม็ดเงินเข้าระบบในเดือนมี.ค.นี้ และเชื่อว่ามาตรการคิวอีนี้จะไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย โดยกระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในส่วนของเงินทุนเคลื่อนย้าย ซึ่งเชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีมาตรการดูแลไม่ให้ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ โดยที่ผ่านมา ธปท.ได้รายงานสถานการณ์ให้รัฐบาลรับทราบอยู่อย่างต่อเนื่องแล้ว
ส่วนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่หลายฝ่ายเสนอให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดในช่วงที่ผ่านมานั้น เชื่อว่า ธปท.จะดูแลเรื่องนี้อย่างเหมาะสม และต้องวิเคราะห์ข้อมูลเงินทุน การส่งเสริมความสามารถด้านเศรษฐกิจแก่ผู้ประกอบการไทย เรื่องคู่แข่ง คู่ค้าของไทยว่าเป็นอย่างไร ก่อนที่จะพิจารณาว่าจะดำเนินนโยบายการเงินเช่นใดจึงจะเหมาะสม
นายกฤษฎากล่าวถึงแนวโน้มการส่งออกของไทยปีนี้ ซึ่งคาดว่าทั้งปีจะขยายตัวได้ 1.4% โดยปีนี้ปัจจัยเสริมจะมาจากคู่ค้าสำคัญ เช่น สหรัฐฯ ที่เศรษฐกิจกลับมาขยายตัวได้ดีขึ้น และกลุ่มประเทศ CLMV ที่ยังมีกำลังซื้ออยู่ในเกณฑ์ที่ดี
เกี่ยวกับกรณีที่คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติงบประมาณ 4 หมื่นล้านบาทให้แก่กระทรวงคมนาคมเพื่อใช้สำหรับการซ่อมแซมถนนทั่วประเทศ ผู้อำนวยการ สศค.เปิดเผยว่า ขั้นตอนหลังจากนี้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) จะพิจารณาแนวทางการกู้เงิน
"เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินกู้ในประเทศเป็นหลัก และมองว่าโครงการต่างๆ ที่จะดำเนินการนี้ไม่ใช่โครงการขนาดใหญ่ที่จะต้องผ่านหลายขั้นตอนในการอนุมัติ ดังนั้นจึงน่าจะกระจายเม็ดเงินลงสู่ระบบได้เร็วขึ้น และมีส่วนช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี" นายกฤษฎากล่าว.
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ประเมินเศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกของปีนี้ว่า จะขยายตัวได้มากกว่าไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.3% แต่ทั้งนี้คาดว่าคงจะเติบโตไม่ถึง 3% ขณะที่ทั้งปีนี้คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ 3.9%
สำหรับมาตรการคิวอีของสหภาพยุโรปนั้น คาดว่าจะทำให้มีเม็ดเงินเข้าระบบในเดือนมี.ค.นี้ และเชื่อว่ามาตรการคิวอีนี้จะไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย โดยกระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในส่วนของเงินทุนเคลื่อนย้าย ซึ่งเชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีมาตรการดูแลไม่ให้ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ โดยที่ผ่านมา ธปท.ได้รายงานสถานการณ์ให้รัฐบาลรับทราบอยู่อย่างต่อเนื่องแล้ว
ส่วนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่หลายฝ่ายเสนอให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดในช่วงที่ผ่านมานั้น เชื่อว่า ธปท.จะดูแลเรื่องนี้อย่างเหมาะสม และต้องวิเคราะห์ข้อมูลเงินทุน การส่งเสริมความสามารถด้านเศรษฐกิจแก่ผู้ประกอบการไทย เรื่องคู่แข่ง คู่ค้าของไทยว่าเป็นอย่างไร ก่อนที่จะพิจารณาว่าจะดำเนินนโยบายการเงินเช่นใดจึงจะเหมาะสม
นายกฤษฎากล่าวถึงแนวโน้มการส่งออกของไทยปีนี้ ซึ่งคาดว่าทั้งปีจะขยายตัวได้ 1.4% โดยปีนี้ปัจจัยเสริมจะมาจากคู่ค้าสำคัญ เช่น สหรัฐฯ ที่เศรษฐกิจกลับมาขยายตัวได้ดีขึ้น และกลุ่มประเทศ CLMV ที่ยังมีกำลังซื้ออยู่ในเกณฑ์ที่ดี
เกี่ยวกับกรณีที่คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติงบประมาณ 4 หมื่นล้านบาทให้แก่กระทรวงคมนาคมเพื่อใช้สำหรับการซ่อมแซมถนนทั่วประเทศ ผู้อำนวยการ สศค.เปิดเผยว่า ขั้นตอนหลังจากนี้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) จะพิจารณาแนวทางการกู้เงิน
"เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินกู้ในประเทศเป็นหลัก และมองว่าโครงการต่างๆ ที่จะดำเนินการนี้ไม่ใช่โครงการขนาดใหญ่ที่จะต้องผ่านหลายขั้นตอนในการอนุมัติ ดังนั้นจึงน่าจะกระจายเม็ดเงินลงสู่ระบบได้เร็วขึ้น และมีส่วนช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี" นายกฤษฎากล่าว.