xs
xsm
sm
md
lg

สรุปสำนวน"สุวะดี"แอบอ้างฯสัปดาห์นี้จำคุก2นศ.“ประกายไฟ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กองปราบเร่งคลี่คลายคดีตระกูล"สุวะดี"หมิ่นฯสถาบัน รวม 3 คดีเพื่อส่งต่อคณะกรรมกาสำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาภายในสัปดาห์นี้ ก่อนส่งฟ้อง คาด"ป๋าชื่น"อ้างท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ ฮุบที่ดินอ.ปากช่องยังกบดานในไทย ศาลอาญาจำคุกอดีตนักศึกษากลุ่ม “ประกายไฟ” แสดงละคร “เจ้าสาวหมาป่า” หมิ่นเบื้องสูง คนละ 5 ปี แต่จำเลยรับสารภาพเหลือติดคุกคนละ 2 ปี 6 เดือน พร้อมระบุไม่ขออุทธรณ์สู้คดี

วานนี้ (23 ก.พ.) ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนดำเนินคดีแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง ตามความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่ทางพนักงานสอบสวน บก.ป.รับไว้ดำเนินการ รวม 3 คดี ประกอบด้วย 1.คดีที่เกี่ยวข้องกับตระกูล “สุวะดี” แอบอ้างท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ กลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา 2.คดีการร้องทุกข์ของนายเลปกร ศิริมังกร อายุ 36 ปี นักสืบสวนสอบสวนปฏิบัติการ 5 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) ซึ่งถูกบังคับข่มขืนใจในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ และ 3.คดีจับกุมนายเอกชัย หรือเอฟ พลอยหิน แอบอ้างท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ เพื่อวิ่งเต้นล้มคดียาเสพติดว่า ทั้ง 3 คดี ทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆครบถ้วนแล้ว โดยคาดว่าจะสรุปสำนวนคดีให้เสร็จสิ้นภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อส่งต่อให้คณะกรรมการในระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้พิจารณา ก่อนจะส่งฟ้องคดีต่ออัยการ

ส่วนกรณีการดำเนินคดีกับ นายบุญธรรม บุญเทพประทาน หรือ “ป๋าชื่น โคลอนเซ่” ผู้ต้องหาซึ่งมีพฤติการณ์แอบอ้างอ้างท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ ในการออกโฉนดที่ดินใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นพื้นที่ซึ่งไม่สามารถออกเอกสารสิทธิใดๆได้นั้น พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการสอบปากคำพยานจนครบถ้วนแล้ว โดยอยู่ระหว่างเร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี คาดว่าผู้ต้องหายังคงหลบหนีอยู่ในประเทศไทย

**คุกอดีตนศ.เล่นละครหมิ่นเบื้องสูง

วันเดียวกัน ที่ห้องพิจารณาคดี 813 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.3526/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือแบงก์ อายุ 24 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ น.ส.ภรณ์ทิพย์ มั่นคง หรือกอล์ฟ ประกายไฟ อายุ 27 ปี นักเคลื่อนไหวทางสังคม และอดีตผู้ประสานงานกลุ่มประกายไฟการละคร จำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันดูหมิ่น หมิ่นประมาท หรืออาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี และรัชทายาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

คดีนี้อัยการโจทก์ได้ยื่นฟ้องจำเลยทั้งสอง เมื่อวันที่ 24 ต.ค.57 ระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 13 ต.ค.56 เวลากลางวัน จำเลยกับพวกร่วมกันแสดงละครเวทีเรื่อง “เจ้าสาวหมาป่า” ในงานรำลึก 40 ปี 14 ตุลาฯ ที่หอประชุมใหญ่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ซึ่งมีบทละครที่มีข้อความเป็นการดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ฯ ทำให้ผู้ได้รับฟังเข้าใจความหมายต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ อันเป็นการลบหลู่ดูหมิ่นแสดงความอาฆาตมาดร้าย จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ

** เจ้าตัวไม่ขออุทธรณ์คดี

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยทั้งสองกระทำผิดตามมาตรา 112 ประกอบมาตรา 83 ให้ลงโทษจำคุกคนละ 5 ปี จำเลยทั้งสองรับสารภาพมีเหตุให้บรรเทาโทษ เห็นควรลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุกคนละ 2 ปี 6 เดือน โดยไม่รอการลงโทษ ภายหลังจากศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จ ญาติและเพื่อนจำเลยต่างร้องไห้และจับมือให้กำลังใจ ขณะที่จำเลยทั้งสองไม่ได้มีสีหน้าเคร่งเครียด ยอมรับคำพิพากษา โดยนายปติวัฒน์กล่าวสั้นๆว่า จะไม่ขออุทธรณ์คดี ทั้งนี้ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวจำเลยทั้งสองขึ้นรถกลับเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง มีกลุ่มเพื่อนๆ นักศึกษาได้ร้องเพลงขณะรอส่งเข้าเรือนจำ

ด้าน น.ส.ภาวิณี ชุมศรี ทนายความ กล่าวภายหลังฟังคำพิพากษาว่า การยื่นเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษจำเลยต้องถูกจำคุกไปแล้วระยะเวลาหนึ่งจึงจะยื่นเรื่องขอได้ ขณะนี้ทั้งสองคนถูกจำคุกมาแล้วประมาณ 7 เดือน และก่อนหน้านี้ได้ยื่นประกันจำเลยมาแล้ว 5 ครั้ง แต่ศาลไม่อนุญาต
กำลังโหลดความคิดเห็น