ASTVผู้จัดการรายวัน - "ประวุฒิ"นำทีมสอบคดีบุกรุกชะง่อนผา อ.ปากช่อง ของกลุ่มนายพล-แอบอ้างเบื้องสูง ชาวบ้านผวากลัวตกเป็นผู้ต้องหา ร้องผู้ว่าฯช่วย เผยถูกหลอกให้เซ็นชื่อไปขอออกเอกสารสิทธิ์แลกเงินไม่กี่หมื่น ตำรวจยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย สั่งตั้งศูนย์ปฏิบัติการสืบสวนเร่งให้เสร็จใน 1 เดือน
เมื่อเวลา 14.30 น. วานนี้ (10 ก.พ.) ที่ห้องประชุมท้าวสุรนารี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร. พร้อมคณะมาติดตามความคืบหน้าคดีบุกรุกที่ดินบริเวณชะง่อนผาเขาหนองเชื่อม บ้านหนองตะกู อ.ปากช่อง พื้นที่นิคมสร้างตนเองลำตะคอง ซึ่งมีชื่อนายตำรวจ 6 นาย จำนวนนี้มีระดับผู้บัญชาการ 1 นาย รองผู้บัญชาการ 2 นาย พนักงานอัยการ 2 คน ที่เหลือเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย และญาตินักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องและเป็นข่าวไปก่อนหน้านี้
โดยมีชาวบ้านหนองตะกูกว่า 40 คน นำโดยนาย ไพฑูลย์ แก้วศรี ผู้ใหญ่บ้านหนองตะกู หมู่ 8 ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง มายื่นหนังสือร้องทุกข์ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมชูป้ายข้อความถูกกลุ่มนายทุนหลอกเอารายชื่อไปสวมสิทธิ์ออกโฉนดที่ดิน เกรงว่าจะตกเป็นผู้ต้องหา โดยนายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ลงมารับหนังสือและสอบถามข้อเท็จจริง
นางวิไล กวียา อาย 50 ปี ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ได้รับการติดต่อจากนายทุน รวบรวมรายชื่อชาวบ้านเพื่อนำไปใช้ออกเอกสารสิทธิ์ โดยให้ค่าจ้างรายละ 10,000 บาท เบื้องต้นจะทยอยส่งให้เรื่อยๆ จนกว่าขั้นตอนจะแล้วเสร็จ โดยให้ลงลายมือชื่อในเอกสารเปล่า ซึ่งไม่ทราบว่าจะนำไปออกโฉนดที่ใด แต่ชาวบ้านก็ยินยอมและรับเงินมา จากนั้นได้มีการโอนสิทธิ์ให้แก่บริษัทเอกชน ทราบชื่อบริษัท บ้านชุมทอง จำกัด (มีชื่อนายบุญธรรม บุญเทพประสิทธิ์ หรือป๋าชื่น เจ้าของอาบอบนวดโคลอนเซ่ และนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นเจ้าของ)
ขณะที่ตัวแทนจากนิคมสร้างตนเองลำตะคอง กล่าวในที่ประชุมว่า จากการตรวจสอบมีการออกโฉนด 47 แปลง พื้นที่ 729 ไร่ หลังเกิดปัญหาตามที่เป็นข่าว ทางนิคมได้ทำหนังสือไปยังกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) เพื่อทำการเพิกถอน เนื่องจากเป็นชะง่อนผาและภูเขา ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งต้องใช้เวลาอีกสักระยะ ยืนยันว่าทางนิคมไม่ได้นิ่งเฉยต่อปัญหาที่เกิดขั้น
ด้านเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ออกโฉนดออกตามที่ นิคมเสนอมา โดยทางเราได้สอบถามทางนิคมถึง 3 ครั้ง ได้รับการยืนยันตามเดิม จึงมีการออกโฉนด หากทางนิคมยืนยันว่าเอกสาร น.ค. 3 ออกโดยมิชอบหรือไม่ถูกต้อง และมีการเพิกถอน ก็พร้อมจะดำเนินการตามขั้นตอนเช่นกัน
พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า หลังจากตำรวจได้รับหนังสือขอความเป็นธรรมจากชาวบ้าน ทางผบ.ตร.สั่งการให้ตนมาพูดคุยกับชาวบ้านและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น จังหวัด ที่ดินจังหวัด นิคมสร้างตนเองลำตะคอง อ.ปากช่อง ทราบว่าน่าจะมีการกระทำผิด โดยผบ.ตร.ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน มีพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร.เป็นประธาน พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รรท.ผบช.ก. เป็นรองประธาน ซึ่งจะต้องสอบสวนชาวบ้านทั้งที่เป็นพยานและผู้เสียหาย ว่ามีการมาหลอกให้ทำนิติกรรมหรือใช้ชื่อหรือยืมชื่อไปใช้สิทธิ์ขอ น.ค.3 แล้วมาแปลงเป็นโฉนดหรือไม่ ใครบ้างที่มาติดต่อ จากนั้นเป็นเรื่องของกระบวนทำทุกอย่างให้ถูกต้อง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดรับไปดำเนินการ มีกรมที่ดินกับพม.รับไปดูแล
"จากนี้คงจะทำทุกอย่างให้ถูกต้อง นำที่ดินที่ควรเป็นที่ของแผ่นดินกลับคืนมา ซึ่งตำรวจจะตั้งจุดปฏิบัติการส่วนหน้าที่สภ.หนองสาหร่าย เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง ส่วนที่หลายฝ่ายเป็นห่วงว่ามีชื่อนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หรืออดีตนายตำรวจใหญ่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการสอบสวนนั้น ตอนนี้เท่าที่ตรวจสอบไม่มี ถ้ามียังไงท่านต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจ และยิ่งสังคมรู้แบบนี้ ท่านยิ่งต้องแสดงความบริสุทธิ์ว่า 1.ไม่มี 2.ถ้ามีต้องเพิกถอนได้ ส่วนที่คิดไปว่าโปร่งใส่หรือไม่ผมว่าอย่าเพิ่งไปคิดเอง ขอให้รอดูก่อนดีกว่า"
พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า คดีนี้มีการแอบอ้างเบื้องสูงด้วย ดังนั้นจะสอบสวนและดำเนินการไปพร้อมกัน เพราะบางคนอาจมีข้อหาแอบอ้างเบื้องสูงและหลอกลวงชาวบ้านด้วย ซึ่งคิดว่าใช้เวลาไม่น่าจะนาน เพราะมีการสืบสวนไปแล้ว คงจะไม่เกิน 1 เดือนจะสรุปได้ ซึ่งขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
เมื่อเวลา 14.30 น. วานนี้ (10 ก.พ.) ที่ห้องประชุมท้าวสุรนารี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร. พร้อมคณะมาติดตามความคืบหน้าคดีบุกรุกที่ดินบริเวณชะง่อนผาเขาหนองเชื่อม บ้านหนองตะกู อ.ปากช่อง พื้นที่นิคมสร้างตนเองลำตะคอง ซึ่งมีชื่อนายตำรวจ 6 นาย จำนวนนี้มีระดับผู้บัญชาการ 1 นาย รองผู้บัญชาการ 2 นาย พนักงานอัยการ 2 คน ที่เหลือเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย และญาตินักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องและเป็นข่าวไปก่อนหน้านี้
โดยมีชาวบ้านหนองตะกูกว่า 40 คน นำโดยนาย ไพฑูลย์ แก้วศรี ผู้ใหญ่บ้านหนองตะกู หมู่ 8 ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง มายื่นหนังสือร้องทุกข์ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมชูป้ายข้อความถูกกลุ่มนายทุนหลอกเอารายชื่อไปสวมสิทธิ์ออกโฉนดที่ดิน เกรงว่าจะตกเป็นผู้ต้องหา โดยนายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ลงมารับหนังสือและสอบถามข้อเท็จจริง
นางวิไล กวียา อาย 50 ปี ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ได้รับการติดต่อจากนายทุน รวบรวมรายชื่อชาวบ้านเพื่อนำไปใช้ออกเอกสารสิทธิ์ โดยให้ค่าจ้างรายละ 10,000 บาท เบื้องต้นจะทยอยส่งให้เรื่อยๆ จนกว่าขั้นตอนจะแล้วเสร็จ โดยให้ลงลายมือชื่อในเอกสารเปล่า ซึ่งไม่ทราบว่าจะนำไปออกโฉนดที่ใด แต่ชาวบ้านก็ยินยอมและรับเงินมา จากนั้นได้มีการโอนสิทธิ์ให้แก่บริษัทเอกชน ทราบชื่อบริษัท บ้านชุมทอง จำกัด (มีชื่อนายบุญธรรม บุญเทพประสิทธิ์ หรือป๋าชื่น เจ้าของอาบอบนวดโคลอนเซ่ และนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นเจ้าของ)
ขณะที่ตัวแทนจากนิคมสร้างตนเองลำตะคอง กล่าวในที่ประชุมว่า จากการตรวจสอบมีการออกโฉนด 47 แปลง พื้นที่ 729 ไร่ หลังเกิดปัญหาตามที่เป็นข่าว ทางนิคมได้ทำหนังสือไปยังกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) เพื่อทำการเพิกถอน เนื่องจากเป็นชะง่อนผาและภูเขา ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งต้องใช้เวลาอีกสักระยะ ยืนยันว่าทางนิคมไม่ได้นิ่งเฉยต่อปัญหาที่เกิดขั้น
ด้านเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ออกโฉนดออกตามที่ นิคมเสนอมา โดยทางเราได้สอบถามทางนิคมถึง 3 ครั้ง ได้รับการยืนยันตามเดิม จึงมีการออกโฉนด หากทางนิคมยืนยันว่าเอกสาร น.ค. 3 ออกโดยมิชอบหรือไม่ถูกต้อง และมีการเพิกถอน ก็พร้อมจะดำเนินการตามขั้นตอนเช่นกัน
พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า หลังจากตำรวจได้รับหนังสือขอความเป็นธรรมจากชาวบ้าน ทางผบ.ตร.สั่งการให้ตนมาพูดคุยกับชาวบ้านและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น จังหวัด ที่ดินจังหวัด นิคมสร้างตนเองลำตะคอง อ.ปากช่อง ทราบว่าน่าจะมีการกระทำผิด โดยผบ.ตร.ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน มีพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร.เป็นประธาน พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รรท.ผบช.ก. เป็นรองประธาน ซึ่งจะต้องสอบสวนชาวบ้านทั้งที่เป็นพยานและผู้เสียหาย ว่ามีการมาหลอกให้ทำนิติกรรมหรือใช้ชื่อหรือยืมชื่อไปใช้สิทธิ์ขอ น.ค.3 แล้วมาแปลงเป็นโฉนดหรือไม่ ใครบ้างที่มาติดต่อ จากนั้นเป็นเรื่องของกระบวนทำทุกอย่างให้ถูกต้อง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดรับไปดำเนินการ มีกรมที่ดินกับพม.รับไปดูแล
"จากนี้คงจะทำทุกอย่างให้ถูกต้อง นำที่ดินที่ควรเป็นที่ของแผ่นดินกลับคืนมา ซึ่งตำรวจจะตั้งจุดปฏิบัติการส่วนหน้าที่สภ.หนองสาหร่าย เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง ส่วนที่หลายฝ่ายเป็นห่วงว่ามีชื่อนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หรืออดีตนายตำรวจใหญ่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการสอบสวนนั้น ตอนนี้เท่าที่ตรวจสอบไม่มี ถ้ามียังไงท่านต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจ และยิ่งสังคมรู้แบบนี้ ท่านยิ่งต้องแสดงความบริสุทธิ์ว่า 1.ไม่มี 2.ถ้ามีต้องเพิกถอนได้ ส่วนที่คิดไปว่าโปร่งใส่หรือไม่ผมว่าอย่าเพิ่งไปคิดเอง ขอให้รอดูก่อนดีกว่า"
พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า คดีนี้มีการแอบอ้างเบื้องสูงด้วย ดังนั้นจะสอบสวนและดำเนินการไปพร้อมกัน เพราะบางคนอาจมีข้อหาแอบอ้างเบื้องสูงและหลอกลวงชาวบ้านด้วย ซึ่งคิดว่าใช้เวลาไม่น่าจะนาน เพราะมีการสืบสวนไปแล้ว คงจะไม่เกิน 1 เดือนจะสรุปได้ ซึ่งขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย