ตร.ฝากขัง “ป๋าชื่น” แอบอ้างสถาบันฯ กว้านซื้อที่ดินเขาใหญ่

ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ป๋าชื่น” ฝากขัง-ค้านประกันคดีแอบอ้างซื้อที่ดินเขาใหญ่ ขณะที่ญาติยื่นเงินสด 3 ล้านบาทขอประกันแต่ศาลพิจารณาแล้วไม่อนุญาต ชี้คดีเป็นความผิดร้ายแรง

ที่ศาลอาญา เมื่อเวลา 09.50 น. วันนี้ (28 ก.พ.) พนักงานสอบสวนกองปราบปรามคุมตัวนายบุญธรรม หรือป๋าชื่น บุญเทพประทาน อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 ถนนเทศบาล 26 ตำบลปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ผู้ต้องหาในคดีหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ไปฝากขังครั้งแรก

คำร้องฝากขังระบุว่า ระหว่างปี 2550-2551 ต่อเนื่องกัน นายบุญธรรม หรือป๋าชื่น เป็นกรรมการผู้มีอำนาจในบริษัท บ้านชุมทอง และบริษัทเขาใหญ่ เบเวอร์ลี่ฮิลล์ ได้ให้นายเสฏฐวุฒิ เพ็งดิษฐ์ ได้เข้ามอบตัวและถูกฝากขังต่อศาลไปแล้วเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2558 ซึ่งเป็นนายหน้าที่ดินติดต่อหาซื้อที่ดินบริเวณเขาหนองเชื่อม และมีที่ดินบางส่วนทับซ้อนของที่ทหารหน่วยรบพิเศษหนองตะกู วันเวลาเกิดเหตุนายเสฏฐวุฒิได้ติดต่อชาวบ้านซึ่งเป็นผู้ครอบครองที่ดินในนิคมสร้างตนเองลำตะคองเพื่อซื้อที่ดินบริเวณดังกล่าว โดยนายเสฏฐวุฒิได้แจ้งกับชาวบ้านและผู้ครอบครองที่ดิน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับที่ดิน แอบอ้างว่านายบุญธรรมหรือป๋าชื่นจะมอบที่ดินบริเวณดังกล่าวให้กับหม่อมศรีรัศมิ์ ซึ่งไม่เป็นความจริง และชาวบ้านที่ได้ครอบครองที่ดินบริเวณที่เกิดเหตุ ได้ขายที่ดินให้กับบริษัทฯ ของนายบุญธรรมในราคาถูก แล้วนายบุญธรรมกับพวกยังได้แอบอ้างเรื่องดังกล่าวเพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับที่ดินออกโฉนดที่ดิน แล้วนำที่ดินดังกล่าวมาจัดสรรขายให้กับบุคคลทั่วไปในราคาสูง เป็นการอาศัยอำนาจและอิทธิพล การกระทำดังกล่าวทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติ และทำให้ประชาชนหมิ่นประมาท ดูหมิ่น รัชทายาท เหตุเกิดที่ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

ต่อมาวันที่ 27 ก.พ. 2558 เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามร่วมจับกุมนายบุญธรรมตามหมายจับศาลอาญาที่ 377/2558 ลงวันที่ 19 ก.พ. 2558 ได้ที่ลานจอดรถในปั๊มน้ำมัน ปตท. ถนนวิภาวดีรังสิต กทม. นำส่งคณะพนักงานสอบสวนตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 64/2558 ลงวันที่ 3 ก.พ. 2558 เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ทั้งนี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากต้องสอบสวนพยานอีก 10 ปาก รอผลตรวจสอบพิมพ์มือผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร และรวบรวมเอกสารอื่นๆ และท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน จึงขอฝากขังผู้ต้องหาผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน นับตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. - 11 มี.ค. 2558

ศาลสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้ ต่อมาญาติได้ยื่นหลักทรัพย์เงินสดจำนวน 3 ล้านบาทขอประกันตัว ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าคดีเป็นความผิดร้ายแรงมีอัตราโทษสูง และพฤติการณ์แห่งคดีเป็นการออกเอกสารสิทธิที่ดินของรัฐ เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยการอ้างสถาบันเบื้องสูง เกรงว่าหากปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาจะหลบหนีจึงให้ยกคำร้อง

ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวนายบุญธรรม หรือป๋าชื่น ผู้ต้องหาขึ้นรถไปควบคุมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร