ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -กฎแห่งกรรมยังคงเดินหน้าไล่ล่ายิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไม่เลิก ตั้งแต่ถูกถอดถอนพ้นกระดานการเมือง อัยการสูงสุด (อสส.) ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จ่อติดคุกติดตารางอยู่วันนี้วันพรุ่ง
ล่าสุดยังเตรียมจะโดนกระทรวงการคลังฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายกรณีบริหารโครงการรับจำนำข้าวเจ๊งยับขั้นต่ำแน่ๆ 6 แสนล้านบาท
วิบากกรรมต่อจากนี้นอกจากคดีอาญาในชั้นศาลฎีกาฯที่ต้องขึ้นจนกระไดไม่แห้ง ยังต้องแวะเวียนไปศาลแพ่งต่อสู้คดีเพื่อรักษาทรัพย์ เอากันตามหลักฐานและสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบัน โอกาสชนะหายากยิ่งกว่าแสงที่ปลายอุโมงค์ ส่อคาที่ทั้งศาลแพ่ง ทั้งศาลฎีกาฯ
ชะตากรรมนับวันชักคล้ายพี่ชายหนีคุกทักษิณ ชินวัตร เข้าไปทุกที โดนตัดสิทธิ์ทางการเมืองจากการยุบพรรคไทยรักไทย แล้วยังโดนคดีอาญาข้อหาทุจริตโกงบ้านโกงเมืองอีกเป็นกระบุงโกย แถมตอนจบยังโดนยึดทรัพย์ให้ตกเป็นของแผ่นดินอีก 4.6 หมื่นล้านบาท สุดท้ายลงเอยเผ่นแน่บไปปากดีอยู่เมืองนอก
ยิ่งลักษณ์วันนี้ใกล้เคียงจนเกือบเหมือนกันทุกอย่าง โดนสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เขี่ยกระเด็นต้องเว้นวรรคการเมือง 5 ปี ก่อนจะโดนอสส.สั่งฟ้องต่อศาลฎีกาฯ เหมือนเอาขาแหย่คุกไว้แล้วหนึ่งข้าง ซ้ำยังมามีสิทธิ์จะเสียทรัพย์เพื่อเซ่นความพินาศในโครงการรับจำนำข้าวถึง 6 แสนล้านบาท มากกว่าพี่ชายหนีคุกไม่รู้กี่เท่าตัว เหลือแค่จะจบแบบเดียวกันหรือไม่เท่านั้นคือ
เตลิดเปิดเปิงออกนอกประเทศไปเป็นสัมภเวสี
สถานการณ์ของพี่กับน้องวันนี้แทบจะเจริญรอยตามกันแบบลอกข้อสอบกันมา
แต่ยิ่งลักษณ์น่าจะหนักหนาสาหัสกว่า เพราะวันนี้ยังติดหนึบอยู่ในประเทศ กระดิกไปไหนมาไหนไม่ได้ ขอออกนอกประเทศโดนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เซย์โน ครั้นตะลอนทัวร์อยู่ภายใน ก็มีแต่ทหารตามประกบแจไม่ให้คลาดสายตา ชะตาชีวิตไม่ได้เป็นผู้กำหนดเองอีกต่อไป ฝ่ายคุมอำนาจปัจจุบันจะเป็นผู้กำหนดให้
แล้วมันก็ล้อกับสถานการณ์ใหม่ๆ ร้อนๆ ในปัจจุบันที่กระแสเจรจากลับมาให้โจษจันกันอีกครั้ง หลังวันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จุดพลุให้ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ถ่อสังขารบินไปพบนักโทษชายหนีคดีเพื่อเจรจาหย่าศึกเบิกร่องความปรองดอง จนโดนก้อนอิฐเขวี้ยงใส่แทบวิ่งหลบไม่ทัน
แต่ก็มีปฏิกิริยาที่น่าสนใจจากฝ่ายพรรคเพื่อไทยออกมาเหมือนกัน เพราะในขณะที่กปปส. พรรคประชาธิปัตย์ และแนวร่วมกำลังรุมสวดแนวคิด แต่ลิ่วล้อนักโทษชายทักษิณส่วนใหญ่กลับยกมือหนุนแนวทางนี้ หนำซ้ำยังมีสัญญาณตอกกลับจาก “คนแดนไกล” เสียด้วยว่า พร้อมเจรจา แต่ขอผู้มีอำนาจจริงๆ เพราะโดนหลอกมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
เด้งรับแนวทางเจรจาทันควัน อย่างน้อยมันก็สะท้อนให้เห็นชัดอย่างหนึ่งว่า สถานะของนักโทษชายทักษิณในปัจจุบันไม่ได้อยู่ในโซนที่มีอำนาจต่อรองอะไรมากมายเหมือนแต่ก่อน กลับกันยังอยู่ในภาวะแค่จะยอมหรือไม่ยอมทำตามกับสิ่งที่ฝ่ายกุมอำนาจปัจจุบันเปิดประตูให้
ไพ่ในมือตอนนี้มีน้อย
การเล่นเกมมวลชนปลุกระดมคนเสื้อแดงให้ออกมาเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กแทบจะปิดตายไปได้ เป็นมุกเก่าที่คสช.รู้ทัน เห็นไส้เห็นพุงทุกขด จัดการสกัดทุกช่องทาง ใครปากดีเรียกเข้าค่ายปรับทัศนคติ มีการส่งทหารตามประกบแกนนำคนสำคัญอย่างกับเงาตามตัว บรรดาท่อน้ำเลี้ยงทั้งหลายถูกติดตามทุกความเคลื่อนไหว โดยมีกฎอัยการศึกคอยกดเอาไว้
ฝ่ายอำนาจปัจจุบันส่งสัญญาณถอนรากถอนโคนชัด ไล่บี้ลิ่วล้อตัวเล็กตัวใหญ่จนฝ่อไปหลายคน แม้แต่คดี “ชายจืด” สมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องเขย ยังถูกปัดฝุ่นมาเช็กบิลกันใหม่ คสช.มีแต่ใช้ไม้แข็งหวดไม่ใส่ ไม่มีหยุดตั้งแต่วันที่ยิ่งลักษณ์ถูกสนช.ถอดถอนเป็นต้นมา
ขณะที่พวกนักเลงโซเชียล นักเลงคีย์บอร์ดสายแดง สายหมิ่น องคาพยพหนึ่งในขบวนการ ทุกวันนี้ชักเริ่มหงอ ใครยังเคลื่อนไหวโดนตำรวจไทยยุคนี้ลากคอได้ในเวลาแปบเดียว
ที่สำคัญ เหตุที่ใดนักโทษชายทักษิณไม่สามารถแหกปากแหกคออะไรได้มาก ส่วนหนึ่งเพราะน้องสาวในไส้กำลังเป็นลูกไก่ในกำมือของคสช. ที่จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด ยิ่งพรรคเพื่อไทยเคลื่อนไหวอะไรมากมาย พยายามปั่นกระแสอะไรเท่าไหร่ในปัจจุบัน ผลลัพธ์ที่ออกมามักจะไปลงกับยิ่งลักษณ์อยู่เสมอ ตั้งแต่ถอดถอน คดีอาญา และมาคดีแพ่งที่สดๆ ใหม่ๆ โดนจนอ่วมอรทัยไปหมด
อย่าลืมว่า คดีความของยิ่งลักษณ์ในมือองค์กรอิสระต่างๆ ไม่ได้มีอยู่เพียงแค่โครงการรับจำนำข้าว แต่ยังมีเรื่องพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และอื่นๆ อีกเกือบสิบคดีในมือป.ป.ช.ที่สามารถขุดเอามาเชือดอดีตนายกรัฐมนตรีหญิงรายนี้ตอนไหนก็ได้
เช่นเดียวกับความอยู่รอดของพรรคเพื่อไทย และยิ่งลักษณ์ คดีทัวร์นกขมิ้นที่ใช้เครื่องมือและงบประมาณของรัฐในการหาเสียงในมือคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
ขืนพี่ชายหนีคุกทำเปรี้ยว มีแต่น้องสาวที่จะซวย วันนี้คิดอยากจะหนีก็ไปไหนไม่ได้ โดนอุดทุกช่องทาง คสช.มีอำนาจแทบจะเบ็ดเสร็จ เมื่อถึงชั้นศาลฎีกาฯ ต่อให้ศาลอนุญาตออกนอกประเทศได้ แต่สุดท้ายก็ต้องฝ่าด่านคสช. ที่มีลิสต์รายชื่ออยู่ว่า บุคคลใดบ้างจะไปไหนมาไหนต้องบอกก่อนอยู่ดี ง่ายๆ คือ ศาลให้ แต่คสช.ไม่ให้ ยิ่งลักษณ์ก็ต้องขลุกอยู่กับประเทศไทยนี่แหละ
นักโทษชายทักษิณช่วยน้องได้ตอนนี้ได้ดีที่สุดก็คือ ช่วยให้น้องสาวในไส้ออกนอกประเทศได้แทนการติดคุก เพราะว่ากันตามเนื้อผ้าและกฎหมายยิ่งลักษณ์ในชั้นศาลฎีกาฯ เปอร์เซ็นต์รอดแทบหาไม่เจอ
ดังนั้น ไม่จำเป็นที่ “บิ๊กตู่” หรือ คสช.จะต้องลดตัวไปให้ราคามากมายกับนักโทษชายรายนี้เลย ต่อให้รู้ทั้งรู้ว่าเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลและมีอำนาจตัดสินใจมากที่สุดของพรรคเพื่อไทยก็ตาม
สิ่งที่รัฐบาลและคสช.ต้องทำคือ คงจุดยืนไว้เพื่อไม่ให้กองเชียร์เปลี่ยนเป็นศัตรู อย่าคิดว่าเกี้ยะเซี๊ยะปรองดองกับโจรแล้วจะสำเร็จ อย่าให้อภิสิทธิ์คนทำผิดกฎหมายลอยนวลเพราะความเชื่อว่าสันติภาพจะกลับคืนมา การเปิดประตูรอนักโทษชายทักษิณด้วยการให้กลับมาสู้ตามกระบวนการยุติธรรมนั้นถูกต้องที่สุด
จะให้กลับแบบเท่ๆ เหมือนไม่เคยโกงบ้านโกงเมืองมันง่ายไป ไม่มีใครยอม
เชื่อขนมรอเลย ฝันกลางวัน ทักษิณเหรอจะกลับมาสู้คดี ดีลล่มเหมือนเดิม!!!