xs
xsm
sm
md
lg

การสร้างวีรสตรีประชาธิปไตย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปัญญาพลวัตร
โดย พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต

เครือข่ายระบอบทักษิณมีการกำหนดยุทธศาสตร์เพื่อบรรลุเป้าหมายในการหวนกลับคืนสู่อำนาจการเมืองโดยเร็ว การบรรลุเป้าหมายได้ตามระยะเวลาที่พวกเขาต้องการคือการเร่งให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด ซึ่งหมายถึงว่าต้องทำให้คณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมเขียนรัฐธรรมนูญให้เสร็จโดยเร็วด้วย และหากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นสิ่งหนึ่งที่จะเพิ่มความมั่นใจในชัยชนะคือการสร้างยิ่งลักษณ์ ชินวัตรให้เป็นวีรสตรีประชาธิปไตย

ในช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาจึงเกิดปรากฎการณ์ที่รัฐบาลของประเทศจักรวรรดินิยมทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศในยุโรป รวมหัวกันแบบผิดสังเกตโดยประสานเป็นเสียงเดียวกันเรียกร้องให้รัฐบาลไทยคืนประชาธิปไตยและการเลือกตั้งโดยเร็ว

การประสานเสียงที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างต่อเนื่องกันเช่นนี้ย่อมไม่ใช่ความบังเอิญอย่างแน่นอน หากแต่มีการสมคบคิดและมีการจัดตั้งเชื่อมโยงโดยผ่านกลไกทางการเมืองบางอย่าง และกลุ่มที่มีความปรารถนาและทรัพยากรมากเพียงพอที่จะดำเนินการให้เกิดปรากฎการณ์นี้ได้ก็เห็นจะมีอยู่เครือข่ายเดียวในประเทศไทยนั่นคือเครือข่ายของระบอบทักษิณ

ปรากฏการณ์ประสานเสียงของประเทศจักรวรรดินิยมทำให้เรามองเห็นว่า รัฐบาลของประเทศเหล่านั้นหาได้มีความฉลาดรอบรู้อะไรมากนัก เพราะว่าดูเหมือนจะถูกจูงจมูกอย่างง่ายดายและทำตัวให้กลายมาเป็นเครื่องมือทางการเมืองของเครือข่ายระบอบทักษิณ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์จากทั่วทุกสารทิศทั้งจากคนไทยและสื่อมวลชนภายในประเทศของพวกเขาเอง หากยังไม่รู้ตัวและสำนึกก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร

ฝ่ายยุทธศาสตร์ของเครือข่ายระบอบทักษิณ นอกจากวางแผนใช้รัฐบาลของประเทศจักรวรรดินิยมสร้างความปั่นป่วนแก่รัฐบาลไทยให้สั่นไหวระดับหนึ่งแล้ว ก็ยังกำหนดยุทธศาสตร์เชื่อมโยงเพื่อหวังใช้เป็นแนวทางในการเอาชนะการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า โดยใช้ยุทธศาสตร์การสร้างยิ่งลักษณ์ ชินวัตรให้เป็นวีรสตรีประชาธิปไตย เทียบเท่านางอองซาน ซูจี แห่งประเทศพม่า

เรื่องนี้ได้ถูกเปิดเผยโดยนายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดกระบี่ โดยนายพิเชษ ได้เขียนในเฟซบุ๊คของตนเองว่า “บนโต๊ะฝ่ายยุทธศาสตร์ของพรรคการเมืองหนึ่งประเมินว่าหลังจากมีการรัฐประหารเมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 คะแนนความนิยมของยิ่งลักษณ์เพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ ในกระแสฝ่ายเสื้อแดง และบุคคลที่เป็นกลางทั่วไป" "สิ่งที่ต้องทำคือ เอาความเป็นผู้หญิงของยิ่งลักษณ์เป็นอาวุธ เอารัฐบาลทหารเป็นเป้าหมาย เอากระแสประชาธิปไตยโลกเป็นสิ่งแวดล้อม เอาสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปเป็นแนวร่วมพยายามสร้างผู้หญิงคนนี้ให้เป็นอองซาน ซูจีเมืองไทยให้ได้"

พรรคการเมืองหนึ่งที่นายพิเชษ พันธุ์วิชาติกุลเขียนเอาไว้ คงหมายถึงพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นพรรคของเครือข่ายระบอบทักษิณ การประเมินของฝ่ายยุทธศาสตร์ของพรรคนี้ที่ว่าคะแนนนิยมของยิ่งลักษณ์ ชินวัตรสูงขึ้นหลังการรัฐประหาร คงประเมินโดยนำมาจากผลโพลล์ของบางสำนัก แต่ความเป็นจริงจะเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องที่ต้องวิเคราะห์กันต่อไป

การสร้างกระแสว่ายิ่งลักษณ์ถูกรังแกในกลุ่มคนเสื้อแดงมีขึ้นอย่างกว้างขวาง และมีการกระทำอย่างเป็นกระบวนการต่อเนื่องโดยอาศัยสื่อมวลชนและเครือข่ายนักการเมืองของระบอบทักษิณเป็นกลกไกหลัก ซึ่งคงทำให้บรรดาเสื้อแดงที่อยู่ในระบบอุปถัมภ์ของเครือข่ายระบอบทักษิณน้ำตาไหลพรากๆ ด้วยความสงสารยิ่งลักษณ์จับใจ ความนิยมต่อตัวยิ่งลักษณ์ ในกลุ่มเสื้อแดงคงมีมากขึ้นตามกระแสที่ถูกปั่นขึ้นมา แต่ทว่าเสื้อแดงกลุ่มนั้นเป็นเพียงเสื้อแดงกลุ่มเดิมๆที่หัวจิตหัวใจฝังแน่นอยู่กับระบอบทักษิณโดยไม่เปลี่ยนแปลงเท่านั้นเอง

แต่สำหรับบุคคลที่เป็นกลางทั่วไป ผมคิดว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง คนกลุ่มนี้เริ่มเห็นพิษร้ายของระบอบทักษิณ พวกเขารับรู้และเกิดความตระหนักถึงความเสียหายจากการดำเนินนโยบายประชานิยม ความรุนแรงและการทุจริตของนักการเมืองในเครือข่ายของระบอบทักษิณมากขึ้น ดังนั้นจากเดิมที่อาจเคยชอบอยู่บ้างก็เริ่มวางเฉยและในท้ายที่สุดก็จะไม่เอากับระบอบทักษิณ

ผมคาดว่าพิษร้ายของระบอบทักษิณคงได้รับการนำออกมาเสนอต่อสาธารณะมากขึ้นและเป็นไปอย่างต่อเนื่องระหว่างการดำเนินคดีกับยิ่งลักษณ์และพวกพ้อง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นแล้วความนิยมต่อยิ่งลักษณ์และพรรคการเมืองในเครือข่ายระบอบทักษิณคงถูกกระทบกระเทือนเป็นอันมาก

การพยายามสร้างให้ยิ่งลักษณ์เป็นวีรสตรีประชาธิปไตยเหมือนนางอองซาน ซูจี ถือว่าเป็นยุทธศาสตร์การลอกเลียนแบบตื้นๆของเครือข่ายระบอบทักษิณ การอาศัยความเป็นผู้หญิงซึ่งเป็นคุณลักษณะประการเดียวเท่านั้นที่เหมือนกันระหว่างนางอองซาน ซูจีกับนางยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเป็นประเด็นในการสร้างความเป็นวีรสตรี ขณะที่คุณสมบัติอื่นๆแตกต่างราวกับฟ้าดิน ดูจะเป็นเรื่องตลกขบขันระดับโลกเสียมากกว่า

แต่ก็ดูจะมีความพยายามในการสร้างเงื่อนไขให้เหมือน โดยให้นางยิ่งลักษณ์ เดินทางไปโน่นไปนี้ ในภาคเหนือ และพบปะผู้คนที่สนับสนุน ยุทธวิธีเช่นนี้ดูเหมือนจะคาดหวังการตอบสนองจากรัฐบาลอย่างน้อย 3 อย่าง อย่างแรกให้รัฐบาลไทยเข้าใจผิดว่าจะหนีไปต่างประเทศ จะได้สั่งคนไปตรวจสอบ ดังที่มีการตรวจค้นรถยนต์ที่นางยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนั่ง จากนั้นก็สร้างภาพให้เป็นข่าวลำไปโฆษณาชวนเชื่อต่อไป อย่างที่สองชั้นคือการสร้างสถานการณ์ให้รัฐบาลไทยมีมาตรการกักตัวนางยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเอาไว้ในบ้าน ให้เหมือนกับที่รัฐบาลทหารพม่ากักตัวนางอองซาน ซูจี เอาไว้ ก็ต้องจับตาดูว่ารัฐบาลไทยจะหลงกลหรือไม่ และอย่างที่สามคือ หากรัฐบาลไทยถูกกดดันจนไม่กล้าทำอะไร ก็จะอาศัยจังหวะเผลอ หนีออกนอกประเทศไปเลย

ผมคิดว่ารัฐบาลไทยคงไม่ใช้มาตรการกักตัวนางยิ่งลักษณ์ ชินวัตรไว้ที่บ้าน แต่จะปล่อยให้เดินทางไปที่ใดภายในประเทศไทยได้อย่างเสรี ขณะเดียวกันก็จับตาเฝ้าระวังเอาไว้ ไม่เปิดโอกาสให้หนีไปต่างประเทศ เพราะหากนางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หนีไปต่างประเทศได้ ใครบางคนในรัฐบาลก็คงต้องปี๊ปมาคลุมหัวหรือไม่ก็เอาหน้าไปซุกดินเอาไว้ และมาตรการที่รัฐบาลต้องทำให้ได้ก็คือการนำตัวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรให้ไปปรากฏตัวที่ศาลในวันเปิดคดี และจัดระบบให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินต่อไปได้อย่างไม่ติดขัดจนกว่าจะมีการตัดสินคดี

ส่วนนางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยากเป็นวีรสตรีเหมือนนางอองซาน ซูจีหรือไม่ อันนี้ไม่ทราบ แต่หากดูจากที่เธอเคยประกาศเอาไว้ว่าจะขอตายคาประชาธิปไตย ก็มีความเป็นไปได้เหมือนกันว่าเธอจะยอมติดคุก โดยไม่หนีไปไหน และดูเหมือนนักการเมืองในเครือข่ายระบอบทักษิณ อย่างนายเชิดชัย ตันติศิรินทร์” อดีต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย อดีตประธาน นปช. 17 จังหวัดภาคอีสาน ก็ประสงค์ให้เป็นเช่นนั้นโดยประกาศชัดว่านางยิ่งลักษณ์ ชินวัตรต้องยอมติดคุก และหากเป็นเช่นนั้นจริงเธอก็จะกลายมาเป็นวีรสตรีของคนเสื้อแดง

แต่คนแบบยิ่งลักษณ์ ชินวัตรจะเลือกติดคุกตามเสียงเรียกร้องของนักการเมืองเสื้อแดงที่ต้องการใช้เธอเป็นบันไดทางการเมืองหรือ เพราะที่ผ่านมามีแต่เธอและเครือญาติจะใช้คนอื่นเสียมากกว่า ดูอย่างพี่ชายของเธอ ทักษิณ ชินวัตรก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเขาเลือกแบบไหน ระหว่างการเป็นคนหนีคุกกับการเป็นวีรบุรุษประชาธิปไตย

ส่วนยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อเห็นพี่ชายเป็นแบบอย่างแล้ว และสถานภาพของคนหนีคุกก็ดูเหมือนสบายกว่าคนติดคุก อย่างน้อยก็ได้บินไปซื้อสินค้าราคาแพงตามห้างหรูๆของนาๆประเทศได้ เช่นนี้แล้วเธอจะเลือกแบบใดก็พอจะมองกันออก ดังนั้นฝันของฝ่ายยุทธศาสตร์ของเครือข่ายระบอบทักษิณที่จะสร้างยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเป็นวีรสตรีประชาธิปไตย คงจะเป็นฝันสลายเสียมากกว่า


กำลังโหลดความคิดเห็น