xs
xsm
sm
md
lg

จักรวรรดินิยม “สั่ง” ไทยให้เป็น “ประชาธิปไตย”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปัญญาพลวัตร
โดย พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต

รัฐบาลชาติตะวันตกและญี่ปุ่นส่งเสียงเรียกร้องและกดดันให้รัฐบาลไทยคืนประชาธิปไตย และจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว พฤติกรรมของพวกเขาเกิดจากแรงปรารถนา ความเชื่อแบบใด มีเป้าหมายและนัยอะไร

รัฐบาลชาติตะวันตกและญี่ปุ่นมีความเชื่อและมองตนเองว่าเป็นประเทศประชาธิปไตย คิดเอาเองว่าเป็นเจ้าของลัทธิประชาธิปไตย และมีความปรารถนาให้ประเทศอื่นๆทั่วโลกต้องกระทำแบบเดียวกับพวกตน ประเทศใดที่คิดนอกลู่นอกทางที่พวกเขากำหนด ก็จะแสดงอาการไม่พอใจบ้าง ข่มขู่เอาบ้าง หรือหนักเข้าก็เข้าไปแทรกแซงโดยใช้กำลังอาวุธ พฤติกรรมแบบนี้ย่อมแสดงถึงความเป็นเผด็จการระดับโลก ที่ไม่ยอมให้เกิดความแตกต่างหลากหลายทางการเมืองแม้แต่น้อย

เหมือนกับกล่าวประโยคที่มีความขัดแย้งในในตัวว่า “ในนามของประชาธิปไตย ด้วยอำนาจของ “จักรวรรดิ” และ “แสนยานุภาพของกองกำลังติดอาวุธที่ข้ามีขอ “สั่ง” ให้เจ้าเป็นประชาธิปไตยและ “เลือกตั้ง” โดยเร็ว

สิ่งที่ชวนขบขันเชิงสะอิดสะเอียนของรัฐบาลสหรัฐมีมากมายดังเช่น ยามที่พวกเขาสนับสนุนการรัฐประหารเพื่อเปลี่ยนแปลงรัฐบาลที่พวกเขาไม่ชอบในบางประเทศ พวกเขาอ้างว่าจำเป็นต้องใช้อาวุธโค่นล้มรัฐบาลนั้นและสถาปนาประชาธิปไตยขึ้นมา แต่หากประชาชนหรือกองทัพของประเทศใดทำการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลของตนเองบ้าง รัฐบาลสหรัฐฯ มีท่าที 2 แบบ แบบแรกคือ กรณีแรกโค่นล้มรัฐบาลที่สหรัฐฯ ไม่ชอบ (ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม) สหรัฐฯ ก็จะสนับสนุนใครก็ตามที่มา ต่อต้าน โค่นล้มและกำจัดรัฐบาลนั้นออกไป

ส่วนแบบที่สองคือ กรณีการโค่นล้มรัฐบาลที่สหรัฐฯ ชอบ (ไม่ว่ารัฐบาลนั้นจะเป็นเผด็จการหรือเลือกตั้งมาก็ตาม) หากประชาชนหรือกองทัพของประเทศใดออกมาต่อต้าน ประท้วง และโค่นล้มรัฐบาลที่สหรัฐฯ ชอบ รัฐบาลสหรัฐฯ ก็จะโกรธจนตัวสั่นและออกอาการอาละวาด ข่มขู่ คุกคาม หลายครั้งจึงดูราวกับเป็นตัวตลกในเวทีโลก

สำหรับประเทศไทย พฤติกรรมและท่าทีของรัฐบาลสหรัฐฯ และญี่ปุ่นในระยะสิบกว่าปีมานี้บ่งบอกให้เราทราบว่า พวกเขาชมชอบรัฐบาลทักษิณและรัฐบาลยิ่งลักษณ์ยิ่งนัก และไม่ชอบประชาชนหรือกลุ่มอื่นๆที่ต่อต้านรัฐบาลอันเป็นที่รักของพวกเขา

ทำไม คงมีเหตุผลอะไรบางอย่างที่อยู่นอกเหนือจากสิ่งที่พวกเขาอ้างต่อประชาคมโลก และไม่ใช่เพียงแค่ว่ารัฐบาลทักษิณและยิ่งลักษณ์มาจากการเลือกตั้ง เพราะหากว่ายึดมั่นกับคัมภีร์ที่พร่ำสอนแต่คน ทั้ง โลกจริง พวกเขาคงเลิกคบกับประเทศแถบตะวันออกกลางนับสิบประเทศไปแล้ว ด้วยประเทศเหล่านั้นแทบไม่มีประเทศใดเลยที่รัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง บางประเทศก็มาจากการรัฐประหารด้วยกองกำลังอาวุธ และบางประเทศยังใช้ระบบสืบสันติวงศ์ในการเข้าสู่อำนาจทางการเมืองด้วยซ้ำไป

ผมเองและประชาชนไทยจำนวนมาก ไม่เชื่อว่าความชอบหรือการสนับสนุนของรัฐบาลชาติตะวันตกและญี่ปุ่นต่อรัฐบาลประเทศใดๆของประเทศหนึ่ง จะขึ้นอยู่กับที่มาของอำนาจหรืออุดมการณ์ความเชื่อของรัฐบาลในประเทศนั้นๆ

สิ่งที่รัฐบาลชาติตะวันตกและญี่ปุ่นใช้เป็นเกณฑ์ว่าจะสนับสนุนรัฐบาลของประเทศใดก็คือผลประโยชน์ที่พวกเขาได้รับ หรือไม่ก็เป็นรัฐบาลที่ยอมเป็นลูกไล่พวกเขาในเวทีระหว่างประเทศ

พวกเขาชมชอบรัฐบาลของระบอบทักษิณก็เพราะว่าเป็นรัฐบาลที่พวกเขาสามารถพูดด้วยอย่างง่ายดาย สั่งอะไรก็ทำตาม ยอมเป็นลูกไล่ เอื้อประโยชน์แก่พวกเขาอย่างเต็มที่ ทั้งประโยชน์ในเชิงธุรกิจและประโยชน์ทางการเมือง

ตัวอย่างเช่น รัฐบาลสหรัฐอเมริกาคาดหวังว่ารัฐบาลของระบอบทักษิณสามารถเอื้อประโยชน์แก่บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่สัญชาติสหรัฐอย่างบริษัทเชฟรอนให้ได้รับสัมปทานขุดเจาะน้ำมันของประเทศ ไทย ต่อไป โดยปราศจากการขัดขวาง เพราะถึงแม้มีประชาชนจำนวนมากไม่เห็นด้วยกับการให้สัมปทานน้ำมัน พวกเขาก็จะไม่สนใจ ด้วยสามารถอ้างความชอบธรรมได้ว่ารัฐบาลที่ให้สัมปทานแก่ พวก เขาเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง

ต่างจากรัฐบาลประยุทธ์ ที่มาจาก คสช. ถึงแม้คนในรัฐบาลนี้บางส่วนมีท่าทีว่าจะยอมให้มีการเปิดประมูลสัมปทาน แต่ก็ได้รับการต่อต้านจากประชาชน ยิ่งกว่านั้นเสียงส่วนใหญ่ของสมาชิกสภาปฏิรูปประเทศก็แสดงความไม่เห็นด้วยกับการให้เปิดประมูลสัมปทานน้ำมัน รัฐบาลสหรัฐทราบดีว่ารัฐบาลประยุทธ์คงพูดไม่ง่ายเหมือนรัฐบาลระบอบทักษิณ เพราะว่ากลุ่มที่สนับสนุนรัฐประยุทธ์นั้นเป็นประชาชนที่รักชาติและมีความชาตินิยมอยู่ในจิตใจ

ดังนั้นหากรัฐบาลประยุทธ์ยอมให้เปิดประมูลสัมปทาน พวกเขาก็จะสูญเสียความนิยมและสูญเสียการสนับสนุนจากกลุ่มประชาชนผู้รักชาติที่ต้องการสงวนทรัพยากรของประเทศเอาไว้ให้กิดประโยชน์สูงสุดแก่คนไทยทั้งประเทศ รัฐบาลประยุทธ์จึงต้องคิดหนักและอาจไม่กล้าที่จะตัดสินใจทำร้ายจิตใจกลุ่มผู้รักชาติที่สนับสนุนพวกเขา และหากรัฐบาลประยุทธ์ใช้เกณฑ์ผลประโยชน์ของประเทศไทยเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจ ก็ย่อมทำให้รัฐบาลและบริษัทสหรัฐฯ เสียประโยชน์อย่างมหาศาล

ลักษณะสองหน้าอีกประการของรัฐบาลสหรัฐฯ และญี่ปุ่นคือ ด้านหนึ่งพวกเขายึดถือและใช้ลัทธิชาตินิยมในการดำเนินนโยบายต่างประเทศทั้งเปิดเผยและแอบแฝง แต่อีกด้านหนึ่งกลับแสดงท่าทีตำหนิบ้าง ข่มขู่บ้าง หากประชาชนหรือรัฐบาลของประเทศใดประเทศหนึ่งใช้อุดมการณ์ชาตินิยมเป็นแนวทางในการดำเนินการนโยบายต่างประเทศ เพราะลักษณะหนึ่งของความคิดแบบชาตินิยมคือการคำนึงถึงผลประโยชน์และศักดิ์ศรีของประเทศเป็นหลัก ซึ่งทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ และญี่ปุ่นฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบได้ยาก

และนี่เป็นคำตอบว่า ทำไมรัฐบาลสหรัฐฯ และชาติตะวันตกจึงไม่ชอบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และมวลมหาประชาชนของ กปปส. ด้วยความที่ประชาชนกลุ่มนี้จำนวนไม่น้อยมีแนวคิดแบบชาตินิยมและยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นหลักในการเคลื่อนไหวนั่นเอง แตกต่างจากมวลชนส่วนใหญ่ของ นปช. ซึ่งถูกชี้นำและครอบงำให้เชื่อในสิ่งที่เป็นนามธรรมของแนวคิดตะวันตกพวกเขาเองก็ไม่เข้าใจ และถูกสั่งการได้จากเครือข่ายระบอบทักษิณ รัฐบาลสหรัฐฯ ก็ชอบมวลชนประเภทนี้เพราะสามารถชักจูงได้ง่าย

ส่วนรัฐบาลประเทศญี่ปุ่นที่ชอบรัฐบาลระบอบทักษิณก็เพราะว่าได้รับประโยชน์เต็มๆ จากนโยบายรถคันแรก ซึ่งทำให้บริษัทรถยนต์ของประเทศญี่ปุ่นร่ำรวยๆอย่างมหาศาล ขณะที่คนไทยหลายแสนคนถูกยึดรถยนต์ เสียเงินเปล่าๆ และแบกหนี้จนหลังแอ่น

เช่นเดียวกันกับสหรัฐฯ ประเทศญี่ปุ่นได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ยึดมั่นในลัทธิชาตินิยมถึงระดับใกล้เคียงกับคลั่งชาติด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่ชอบหากประเทศใดดำเนินนโยบายชาตินิยม นั่นคือพวกเขาจะคำนึงถึงประโยชน์ของชาติตนเองเป็นที่ตั้ง แต่หากประเทศอื่นคำนึงถึงชาติตนเองบ้าง พวกเขาก็จะโวยวายขึ้นมาทันที

เมื่อเปรียบเทียบระดับสำนึกของความเป็นชาตินิยม ผมคิดว่ารัฐบาลประยุทธ์มีความเชื่อและแนวทางที่ใกล้ชิดกับความคิดและนโยบายชาตินิยมมากกว่ารัฐบาลของระบอบทักษิณ

นัยของการที่รัฐบาลตะวันตกและญี่ปุ่นแสดงออกมาในเวลานี้ก็คือ การแสดงสัญลักษณ์ของความเป็นประเทศจักรวรรดินิยม เป็นการแสดงอำนาจต่อประเทศที่พวกเขาคิดว่าเป็นเมืองขึ้นหรือเป็นลูกไล่ของพวกเขา คำว่าเมืองขึ้นนี้ผมไม่ได้หมายถึงเมืองขึ้นแบบโบราณ แต่เป็นเมืองขึ้นยุคใหม่ซึ่งประเทศจักรวรรดินิยมครอบงำความคิด ความเชื่อ วัฒนธรรม เศรษฐกิจ และการเมือง เอาไว้ให้อยู่ในกรอบที่พวกเขากำหนด

เมื่อประเทศไทยไม่เดินไปตามกรอบหรือถนนที่พวกเขากำหนดเอาไว้ พวกเขาจึงสำแดงอำนาจของจักรวรรดิออกมา เพื่อให้ประเทศไทยที่พวกเขาว่าเป็นเมืองขึ้น กลัว ลนลาน ยอมหงอและรีบเดินกลับเข้าไปอยู่ในเส้นทางที่พวกเขากำหนดโดยเร็ว เช่น เมื่อพวกเขาชี้นิ้วว่า ต้องคืนประชาธิปไตยและรีบจัดให้มีการเลือกตั้ง แต่อย่าคิดว่าพวกเขาต้องการประชาธิปไตยจริงๆ สิ่งที่พวกเขาต้องการคือรัฐบาลที่เป็นลูกไล่ เชื่องๆ ว่าง่าย และพร้อมเปิดประตูให้พวกเขาเข้ามาฉกฉวยประโยชน์ ครอบงำและใช้ประโยชน์ทางการเมืองแบบอื่นๆ

ผมคิดว่าในปัจจุบันสังคมไทยมีพลังของประชาชนที่มีความรักชาติและใช้แนวคิดชาตินิยมเชิงสร้างสรรค์เพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นจำนวนมากพอที่จะต่อกรกับอำนาจจักรวรรดิของชาติตะวันตกหรือชาติใดก็ตามที่จะเข้ามาเอารัดเอาเปรียบเราได้แล้ว

ประชาชนกลุ่มนี้แหละครับที่จะเป็นฐานพลังทางการเมืองที่สำคัญแก่รัฐบาลในปัจจุบันและอนาคต หากรัฐบาลนั้นมีแนวนโยบายที่ยึดประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง ในทางกลับกันประชาชนกลุ่มนี้ก็พร้อมที่จะยกเลิกการสนับสนุนรัฐบาลที่พวกเขาคิดว่าไม่พิทักษ์ผลประโยชน์ของชาติ ไม่ว่ารัฐบาลนั้นจะมีแหล่งที่มาของอำนาจแบบใดก็ตาม

ดังนั้นใครที่อ้างว่าตัวเองเป็นความหวังเดียวของประเทศ โปรดตระหนักเอาไว้นะครับ และทำตัวเองให้เหมาะสมกับสิ่งที่ประชาชนคาดหวัง เพราะหากหลอกลวงหรือทรยศประชาชน อำนาจใดก็ตามเอาไม่อยู่หรอกครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น