ตร.พิสูจน์หลักฐาน ตรวจพื้นที่ไฟไหม้อาคาร SCB ไม่พบสารเร่ง-น้ำมัน แต่ไม่ตัดทิ้งประเด็นวางเพลิง คาดทราบสาเหตุสัปดาห์หน้า ล่าสุดพบจุดต้นเพลิง เป็นกองเอกสารพร้อมทำลาย เรียกสอบ 4 เจ้าหน้าที่ฉีดยุง ด้านโฆษก สตช.ย้ำไม่ใช่ที่เก็บเอกสาร สจล. ด้านรองอธิการฯลาดกระบังโล่งใจหลัง ธ.ไทยพาณิชย์ ระบุเอกสารเสียหายไม่เกี่ยว สจล. ล่าสุดได้เอกสารเพิ่มอีก 6 รายการ ขณะที่ ธ.ไทยพาณิชย์ช่วยเพิ่ม อปพร.พลีชีพอีก 2 ล้าน
วานนี้ (9 ก.พ.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีเหตุไฟไหม้ชั้น 10 ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ถ.รัชดาภิเษกว่า ต้องรอผลจากทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานว่าสาเหตุที่เกิดเพลิงไหม้เกิดขึ้นเพราะอะไร แล้วความเสียหายที่เกิดขึ้นมีอะไรบ้าง อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าเหตุการณ์นี้มีเจตนาที่ต้องการทำลายข้อมูลหลักฐานอะไร เท่าที่ฟัง นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหารธนาคารไทยพาณิชย์ ชี้แจงว่า ไม่เกี่ยวข้องกับเอกสารที่ของคดียักยอกเงินสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)
“ก็ต้องให้เกียรติท่าน เมื่อท่านบอกว่าไม่เกี่ยวข้อง และผมเชื่อว่าปัจจุบันระบบไอทีมันก้าวหน้าเยอะ การที่จะเก็บข้อมูลหรือสำคัญๆไว้ที่ใดที่หนึ่งโดยเฉพาะคงไม่ใช่ ต้องมีระบบเก็บฐานข้อมูลสำรองไว้ เชื่อว่าตรงนี้คงจะไม่น่าจะเกี่ยวข้อง ต้องรอดูรายละเอียดต่อไป” พล.ต.อ.สมยศ กล่าว
ตร.คาดสัปดาห์หน้ารู้สาเหตุ
ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐ.) เปิดเผยภายหลังการเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ว่า พื้นที่ดังกล่าวมีขนาดประมาณ 10 คูณ 30 เมตร โดยเกิดเพลิงไหม้ขนาด 10 คูณ 15 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่กองเอกสารสัญญาเงินกู้ที่มีการอนุมัติไปแล้ว โดยไฟได้ลุกลามไปยังชั้น 11 เพียงเล็กน้อย แม้การตรวจสอบการลุกลามของเพลิงไหม้ เบื้องต้นจะไม่พบความผิดปกติ ไม่พบสารเร่งหรือน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ตำรวจก็ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งการวางเพลิง ความประมาทของบุคคลที่อยู่ภายในห้องก่อนเกิดเหตุ นอกจากนี้ ได้ตรวจสอบการเข้าออกอาคาร รวมทั้งห้องที่เกิดเพลิงไหม้ เบื้องต้นจากภาพวงจรปิดพบความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ฉีดยากันยุง ซึ่งต้องตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่รายนี้ได้เข้าไปในห้องเกิดเหตุหรือไม่ โดยคาดว่าน่าจะทราบสาเหตุที่แท้จริงภายในสัปดาห์หน้า
“จุดต้นเพลิงมาจากโต๊ะจัดวางเอกสาร ซึ่งมีเครื่องสแกนเอกสารสำหรับใช้สแกนสัญญาที่ไม่ใช้แล้ววางอยู่ เป็นเอกสารพร้อมทำลาย ซึ่งใต้โต๊ะดังกล่าวมีปลั๊กไฟ แต่กำลังสอบพยานอยู่ว่ามีการเสียบปลั๊กไว้หรือไม่ ทั้งนี้ได้สอบปากคำพยานไปแล้วแต่บางคนให้การไม่ตรงกัน เกี่ยวกับการเข้าออกห้องดังกล่าวก่อนเกิดเหตุ” พล.ต.ต.ธวัชชัย ระบุ
รายงานข่าวแจ้งว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน ได้ประสานไปยังบริษัทเอกชนที่รับจ้างฉีดยาฆ่าแมลง ก่อนเกิดเหตุพบบันทึกการเข้า-ออกของตึกระบุว่ามีพนักงาน 4 คนเข้ามาทำหน้าที่ฉีดยาฆ่าแมลง ช่วงเวลาใกล้เคียงกับเวลาที่เกิดเพลิงไหม้ จึงต้องเรียกตัวมาสอบสวนว่าก่อนเกิดเหตุพบสิ่งผิดปกติอย่างไรหรือไม่
สจล.ได้เอกสารเพิ่ม 6 รายการ
ด้าน รศ.ดร.จำรูญ เล้าสินวัฒนา รักษาการแทนรองอธิการบดี สจล.ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบบัญชีเงินฝากธนาคาร (เงินออม) ของ สจล. กล่าวว่า เท่าที่ได้ฟังคำชี้แจงของผู้ใหญ่จากธนาคารไทยพาณิชย์พบว่า เอกสารที่เสียหายไม่น่าจะมีเอกสารที่เกี่ยวข้องกับทาง สจล. ทำให้เรามีความเชื่อมั่นมากขึ้น โดยเมื่อวันที่ 9 ก.พ. เจ้าหน้าที่ของธนาคารไทยพาณิชย์ก็ได้นำเอกสาร ซึ่ง สจล.ได้ร้องขอไป มาเพิ่มให้แล้วจำนวน 6 รายการ แต่ก็ยังไม่ครบถ้วน ยังมีเอกสารสำคัญที่ขาดอยู่อีกหลายรายการ ส่วนทางธนาคารจะจัดส่งเอกสารเข้ามาเพิ่มให้อีกเมื่อไรนั้น ยังไม่ได้มีการพูดคุย เข้าใจว่าน่าจะทยอยส่งเอกสารมาเร็วๆนี้
ขณะที่ นายอาทิตย์ นันทวิทยา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่าล่าสุดข้อมูลที่ส่งให้เพิ่มเติมเป็นข้อมูลที่เพิ่งขอมาเมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งการรวบรวบเอกสารเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา เพราะมีขั้นตอนการทำงาน และที่ผ่านมา สจล.ขอมาหลายครั้งก็ทยอยส่งให้มาตลอด ส่วนที่ระบุว่าเอกสารแตกต่างจากให้กับตำรวจนั้น เพราะตำรวจขอเอกสารที่แตกต่างกัน
ช่วยเพิ่ม อปพร.พลีชีพอีก 2 ล้าน
นายอาทิตย์ กล่าวอีกว่า การเบิกถอนเงินสดของลูกค้า หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้การทำธุรกรรมของลูกค้ายังปกติ และให้สาขาในแต่ละแห่งรายงานการเคลื่อนไหวธุรกรรมทางการเงินหากมีความผิดปกติเกิดขึ้น ขณะที่ความเสียหายที่เกิดขึ้นภายในอาคารคิดเป็นมูลค่าเท่าใดนั้น คาดว่าในอีก 1-2 วันจะรู้ผล นอกจากนี้ธนาคารได้ช่วยเหลือเพิ่มเติมด้วยการมอบเงิน 2 ล้านบาทให้กับครอบครัว นายเดชา ด้วงชนะ อายุ 31 ปี เจ้าหน้าที่ดับเพลิง อปพร.เขตหลักสี่ที่เสียชีวิตจากเพลิงไหม้ครั้งนี้ จากที่ก่อนหน้านี้ได้ช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว 200,000 บาท และพร้อมออกค่าใช้จ่ายพิธีกรรมทางศาสนา รวมถึงมอบประกันชีวิตครอบคลุมโรคร้ายให้กับมารดาของผู้เสียชีวิตอีกด้วย
วสท.คาดระบบไล่ควันไม่ทำงาน
อีกด้าน ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) แถลงผลการวิเคราะห์สาเหตุเพลิงไหม้ว่า ปกติระบบป้องกันอัคคีภัยภายในอาคารสูงตามมาตรฐานจะมีระบบควบคุมควันไฟในบันไดหนีไฟ และโถงลิฟต์ดับเพลิง โดยเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้พัดลมจะทำงานอัตโนมัติป้องกันไม่ให้ควันไฟเข้าไปสู่บันไดหนีไฟ เพื่อช่วยให้ผู้ที่ใช้อาคารอพยพ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัย แต่ขณะเกิดเหตุมีควันกระจายไปทั่วอาคารจนถึงชั้นใต้ดิน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงต้องใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจตั้งแต่ช่วงแรกที่เข้ามายังอาคาร ทำให้มีเวลาผจญเพลิงเพียง 10-15 นาทีก็ต้องออกมา ทั้งที่ตามมาตรฐานถึงอัดอากาศจะอยู่ได้ 40-50 นาที การเข้าพื้นที่จึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก
“ในวันนี้ (10 ก.พ.) ทีมวิศวกร วศท. จะเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดใช้เวลา 1 สัปดาห์ จากนั้นจะมีการทำรายงานและคาดว่าจะทราบผลไม่เกิน 2 สัปดาห์” ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าว
วานนี้ (9 ก.พ.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีเหตุไฟไหม้ชั้น 10 ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ถ.รัชดาภิเษกว่า ต้องรอผลจากทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานว่าสาเหตุที่เกิดเพลิงไหม้เกิดขึ้นเพราะอะไร แล้วความเสียหายที่เกิดขึ้นมีอะไรบ้าง อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าเหตุการณ์นี้มีเจตนาที่ต้องการทำลายข้อมูลหลักฐานอะไร เท่าที่ฟัง นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหารธนาคารไทยพาณิชย์ ชี้แจงว่า ไม่เกี่ยวข้องกับเอกสารที่ของคดียักยอกเงินสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)
“ก็ต้องให้เกียรติท่าน เมื่อท่านบอกว่าไม่เกี่ยวข้อง และผมเชื่อว่าปัจจุบันระบบไอทีมันก้าวหน้าเยอะ การที่จะเก็บข้อมูลหรือสำคัญๆไว้ที่ใดที่หนึ่งโดยเฉพาะคงไม่ใช่ ต้องมีระบบเก็บฐานข้อมูลสำรองไว้ เชื่อว่าตรงนี้คงจะไม่น่าจะเกี่ยวข้อง ต้องรอดูรายละเอียดต่อไป” พล.ต.อ.สมยศ กล่าว
ตร.คาดสัปดาห์หน้ารู้สาเหตุ
ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐ.) เปิดเผยภายหลังการเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ว่า พื้นที่ดังกล่าวมีขนาดประมาณ 10 คูณ 30 เมตร โดยเกิดเพลิงไหม้ขนาด 10 คูณ 15 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่กองเอกสารสัญญาเงินกู้ที่มีการอนุมัติไปแล้ว โดยไฟได้ลุกลามไปยังชั้น 11 เพียงเล็กน้อย แม้การตรวจสอบการลุกลามของเพลิงไหม้ เบื้องต้นจะไม่พบความผิดปกติ ไม่พบสารเร่งหรือน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ตำรวจก็ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งการวางเพลิง ความประมาทของบุคคลที่อยู่ภายในห้องก่อนเกิดเหตุ นอกจากนี้ ได้ตรวจสอบการเข้าออกอาคาร รวมทั้งห้องที่เกิดเพลิงไหม้ เบื้องต้นจากภาพวงจรปิดพบความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ฉีดยากันยุง ซึ่งต้องตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่รายนี้ได้เข้าไปในห้องเกิดเหตุหรือไม่ โดยคาดว่าน่าจะทราบสาเหตุที่แท้จริงภายในสัปดาห์หน้า
“จุดต้นเพลิงมาจากโต๊ะจัดวางเอกสาร ซึ่งมีเครื่องสแกนเอกสารสำหรับใช้สแกนสัญญาที่ไม่ใช้แล้ววางอยู่ เป็นเอกสารพร้อมทำลาย ซึ่งใต้โต๊ะดังกล่าวมีปลั๊กไฟ แต่กำลังสอบพยานอยู่ว่ามีการเสียบปลั๊กไว้หรือไม่ ทั้งนี้ได้สอบปากคำพยานไปแล้วแต่บางคนให้การไม่ตรงกัน เกี่ยวกับการเข้าออกห้องดังกล่าวก่อนเกิดเหตุ” พล.ต.ต.ธวัชชัย ระบุ
รายงานข่าวแจ้งว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน ได้ประสานไปยังบริษัทเอกชนที่รับจ้างฉีดยาฆ่าแมลง ก่อนเกิดเหตุพบบันทึกการเข้า-ออกของตึกระบุว่ามีพนักงาน 4 คนเข้ามาทำหน้าที่ฉีดยาฆ่าแมลง ช่วงเวลาใกล้เคียงกับเวลาที่เกิดเพลิงไหม้ จึงต้องเรียกตัวมาสอบสวนว่าก่อนเกิดเหตุพบสิ่งผิดปกติอย่างไรหรือไม่
สจล.ได้เอกสารเพิ่ม 6 รายการ
ด้าน รศ.ดร.จำรูญ เล้าสินวัฒนา รักษาการแทนรองอธิการบดี สจล.ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบบัญชีเงินฝากธนาคาร (เงินออม) ของ สจล. กล่าวว่า เท่าที่ได้ฟังคำชี้แจงของผู้ใหญ่จากธนาคารไทยพาณิชย์พบว่า เอกสารที่เสียหายไม่น่าจะมีเอกสารที่เกี่ยวข้องกับทาง สจล. ทำให้เรามีความเชื่อมั่นมากขึ้น โดยเมื่อวันที่ 9 ก.พ. เจ้าหน้าที่ของธนาคารไทยพาณิชย์ก็ได้นำเอกสาร ซึ่ง สจล.ได้ร้องขอไป มาเพิ่มให้แล้วจำนวน 6 รายการ แต่ก็ยังไม่ครบถ้วน ยังมีเอกสารสำคัญที่ขาดอยู่อีกหลายรายการ ส่วนทางธนาคารจะจัดส่งเอกสารเข้ามาเพิ่มให้อีกเมื่อไรนั้น ยังไม่ได้มีการพูดคุย เข้าใจว่าน่าจะทยอยส่งเอกสารมาเร็วๆนี้
ขณะที่ นายอาทิตย์ นันทวิทยา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่าล่าสุดข้อมูลที่ส่งให้เพิ่มเติมเป็นข้อมูลที่เพิ่งขอมาเมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งการรวบรวบเอกสารเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา เพราะมีขั้นตอนการทำงาน และที่ผ่านมา สจล.ขอมาหลายครั้งก็ทยอยส่งให้มาตลอด ส่วนที่ระบุว่าเอกสารแตกต่างจากให้กับตำรวจนั้น เพราะตำรวจขอเอกสารที่แตกต่างกัน
ช่วยเพิ่ม อปพร.พลีชีพอีก 2 ล้าน
นายอาทิตย์ กล่าวอีกว่า การเบิกถอนเงินสดของลูกค้า หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้การทำธุรกรรมของลูกค้ายังปกติ และให้สาขาในแต่ละแห่งรายงานการเคลื่อนไหวธุรกรรมทางการเงินหากมีความผิดปกติเกิดขึ้น ขณะที่ความเสียหายที่เกิดขึ้นภายในอาคารคิดเป็นมูลค่าเท่าใดนั้น คาดว่าในอีก 1-2 วันจะรู้ผล นอกจากนี้ธนาคารได้ช่วยเหลือเพิ่มเติมด้วยการมอบเงิน 2 ล้านบาทให้กับครอบครัว นายเดชา ด้วงชนะ อายุ 31 ปี เจ้าหน้าที่ดับเพลิง อปพร.เขตหลักสี่ที่เสียชีวิตจากเพลิงไหม้ครั้งนี้ จากที่ก่อนหน้านี้ได้ช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว 200,000 บาท และพร้อมออกค่าใช้จ่ายพิธีกรรมทางศาสนา รวมถึงมอบประกันชีวิตครอบคลุมโรคร้ายให้กับมารดาของผู้เสียชีวิตอีกด้วย
วสท.คาดระบบไล่ควันไม่ทำงาน
อีกด้าน ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) แถลงผลการวิเคราะห์สาเหตุเพลิงไหม้ว่า ปกติระบบป้องกันอัคคีภัยภายในอาคารสูงตามมาตรฐานจะมีระบบควบคุมควันไฟในบันไดหนีไฟ และโถงลิฟต์ดับเพลิง โดยเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้พัดลมจะทำงานอัตโนมัติป้องกันไม่ให้ควันไฟเข้าไปสู่บันไดหนีไฟ เพื่อช่วยให้ผู้ที่ใช้อาคารอพยพ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัย แต่ขณะเกิดเหตุมีควันกระจายไปทั่วอาคารจนถึงชั้นใต้ดิน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงต้องใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจตั้งแต่ช่วงแรกที่เข้ามายังอาคาร ทำให้มีเวลาผจญเพลิงเพียง 10-15 นาทีก็ต้องออกมา ทั้งที่ตามมาตรฐานถึงอัดอากาศจะอยู่ได้ 40-50 นาที การเข้าพื้นที่จึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก
“ในวันนี้ (10 ก.พ.) ทีมวิศวกร วศท. จะเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดใช้เวลา 1 สัปดาห์ จากนั้นจะมีการทำรายงานและคาดว่าจะทราบผลไม่เกิน 2 สัปดาห์” ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าว