ริมฝั่งเจ้าพระยา
โดย...สุนันท์ ศรีจันทรา
การมาเยือนของนายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตอกย้ำความรู้สึกที่เป็นลบของคนไทยต่อมหาอำนาจตะวันตกประเทศนี้อย่างรุนแรง
เพราะการเดินทางมาของนายแดเนียล ไม่ได้มาอย่างแขกบ้านแขกเมืองทั่วไป แต่เข้ามาแสดงความเสียมารยาทอย่างรุนแรง โดยแทรกแซงกิจการภายใน ก้าวก่ายการบริหารประเทศของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดูหมิ่นดูแคลนกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย
และเหยียดหยามสติปัญญาของคนไทยทั้งประเทศ
นายแดเนียลสะเออะวิจารณ์การเมืองภายในประเทศ ระบุว่าการถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นประเด็นการเมือง ทำมาเป็นห่วงประชาธิปไตยของไทย และเรียกร้องให้ยกเลิกกฎอัยการศึก
ไม่รู้ว่า นายแดเนียลถูกใครปั่นหัวให้มาพูด ไม่รู้ว่า นายแดเนียลโง่ไปฟังใครป้อนข้อมูลเท็จมาจากไหน และไม่มีปัญญาคิดเลยหรือว่า ถ้าการถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์เป็นประเด็นการเมือง ทำไมคนไทยส่วนใหญ่จึงไม่ลุกขึ้นประท้วง แต่กลับชอบใจในชะตากรรมของอดีตนายกรัฐมนตรี
ถ้าการประกาศกฎอัยการศึก สร้างความเดือดร้อน ส่งผลกระทบรุนแรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ ทำไมประชาชนคนไทยไม่ออกมาต่อต้าน
จึงมีคำถามว่า กฎอัยการศึกที่มีผลบังคับใช้อยู่ หนักหัวใครกันแน่ และผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาสะเออะอะไรด้วย
ท่าทีของสหรัฐฯ ต่อประเทศไทยแสดงชัดมาหลายปีแล้ว สหรัฐฯไม่ได้สนใจความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ แต่สนใจว่า ประเทศไทยใครจะเข้ามามีอำนาจ และผู้มีอำนาจเอื้อประโยชน์ให้สหรัฐขนาดไหนเท่านั้น
เรื่องประชาธิปไตย เรื่องสิทธิมนุษยชน เป็นข้ออ้างในการโจมตีประเทศต่างๆเท่านั้น เพราะถ้าสหรัฐฯ เคร่งครัดยึดมั่นระบบประชาธิปไตย เคารพสิทธิมนุษยชนจริง คงไม่มีปัญหาการเหยียดผิว ไม่มีปัญหาตำรวจผิวขาวสังหารวัยรุ่นผิวดำ จนเกิดการจลาจลในประเทศ
สหรัฐฯ ไม่ได้สนใจประชาชนคนไทยว่ารู้สึกอย่างไรกับสถานการณ์การเมือง แต่เสียดายที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยล่มสลาย ห่วงตระกูลชินวัตรที่หลุดจากขั้วอำนาจ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อข้อต่อรองหรือข้อตกลงทางผลประโยชน์ของสหรัฐฯ จึงแสดงท่าทีแทรกแซงการเมืองภายในของไทยอย่างไร้มารยาท
เป็นถึงผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แต่แสดงพฤติกรรมไม่แตกต่างจากลูกสมุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือม้าใช้ของพรรคเพื่อไทย
อย่างไรก็ตาม แม้นายแดเนียลจะพูดจากวนความรู้สึกคนไทย แต่ก็เป็นแค่คนต่างชาติ ถ่มน้ำลายลดประเทศไทยแล้วก็ไป อย่างมากก็ถูกคนไทยด่าไล่หลัง ฐานแสดงความทางการเมืองไทย เพราะไม่รู้จริง แต่ทำเป็นอวดเก่ง-แต่คนที่ต้องร่วมกันประณามมากว่าคือ คนไทยที่ออกมายกก้นผู้ช่วยทูตสหรัฐ โดยเฉพาะคนในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์
อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ไม่เก็บอาการไว้เลย ออกมาสนับสนุนดำพูดของนายแดเนียลเป็นปี่เป็นขลุ่ย เหมือนเป็นพ่อคนที่สาม ต่อจาก พ.ต.ท.ทักษิณ
นายสุรพงษ์ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศมาอย่างไร คนไทยทั้งประเทศย่อมรู้ โดยเป็นรางวัลจากการทำหน้าที่คนรับใช้ที่ดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ
แค่ดูแลอำนวยความสะดวกให้พ.ต.ท.ทักษิณในต่างประเทศ ก็ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศแล้ว
การที่นายแดเนียลพูดจาที่เป็นผลร้ายต่อประเทศไทย เป็นไปได้หรือไม่ว่า นายสุรพงษ์เป็นคนสั่งสอน ป้อนข้อมูลผิดๆ ทำให้ประเทศเสียหาย เพียงเพื่อปกป้องความผิดของนางสาวยิ่งลักษณ์และรัฐบาลเพื่อไทย
ประเทศไทยจะมีภาพพจน์ด้านลบ ถูกใครโจมตี คนในพรรคเพื่อไทยอาจไม่เดือดเนื้อร้อนใจ ไม่มีสำนึกถึงความรักชาติก็ได้ ขอเพียงให้ตัวเองดูดี มีผลงานเข้าตานายใหญ่ และมีโอกาสได้มาเป็นรัฐมนตรีใหม่เท่านั้น
ท่าทีของนายแดเนียลที่ก้าวก่ายการเมืองภายใน สมควรที่ต้องร่วมกันประณามแล้ว แต่คนที่จะต้องถูกประณามมากกว่าคือ บรรดาลูกหาบในพรรคเพื่อไทยที่ออกมายกหางนายแดเนียล
โดยเฉพาะนายสุรพงษ์ เป็นอดีตรัฐมนตรีของประเทศไทยแท้ๆ แต่ทำตัวเหมือนสุนัขรับใช้สหรัฐฯ
แต่คนอย่างสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ด่ากันไปก็เท่านั้น เพราะไม่มี “ยาง”เหลืออยู่แล้ว