เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่สหรัฐฯในวันพุธ(24ธ.ค.) พยายามสยบความโกรธแค้นที่กระพือขึ้นมาอีกรอบ จากกรณีวัยรุ่นผิวสีมีอาวุธถูกตำรวจผิวขาวยิงเสียชีวิตในย่านเซนหลุยส์ เมืองเฟอร์กูสัน ด้วยยืนยันว่าการใช้กำลังเป็นเรื่องที่ชอบธรรม หลังมันกระตุ้นให้เกิดการประท้วงรอบใหม่และจลาจลย่อมๆในแทบจะทันที
เหตการณ์ล่าสุดนี้เกิดขึ้นที่สถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งในเบิร์กลีย์ ใกล้ย่านเฟอร์สัน มลรัฐมิสซูรี เมื่อช่วงค่ำวันอังคาร(23ธ.ค.) โดยตำรวจเซนต์หลุยส์ กล่าวในถ้อยแถลงว่าเจ้าหน้าที่ลั่นไกหลายนัด หลังจากชายคนดังกล่าว ชักปืนพกออกมาและเล็งมาที่เจ้าหน้าที่รายนี้
คดีนี้เกิดขึ้นไม่นานตามหลังเหตุนายไมเคิล บราวน์ วัยรุ่นผิวสีถูกตำรวจผิวขาวยิงเสียชีวิตในเฟอร์กูสัน เมืองที่เป็นถิ่นพำนักของชาวอเมริกันเชื่อสายแอฟริกัน แต่กองกำลังตำรวจกลับเป็นคนผิวขาวเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการลุกฮือชุมนุมทั่วประเทศ
หลังจากนั้นไม่นาน การชุมนุมก็ขยายวงกว้างขึ้น เพื่อแสดงปฏิกิริยาตอบโต้เหตุวิสามัญผู้ต้องสงสัยผิวดำอีกหลายคนของตำรวจ ในนั้นรวมถึงนายเอริค การ์เนอร์ ซึ่งเสียชีวิตจากการถูกเจ้าหน้าที่ล็อคคอในนิวยอร์กเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ด้วยที่คณะลูกขุนใหญ่ในเซนต์หลุยส์และนิวยอร์ก ตัดสินสั่งไม่ฟ้องนายตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีของนายบราวน์และการ์เนอร์ ได้กระพือข้อกล่าวหาต่างๆนานาว่าระบบยุติธรรมเลือกปฏิบัติกับเหยื่อผิวดำที่ถูกละเมิดโดยตำรวจ
อย่างไรก็ตามตำรวจในย่านเบิร์กลีย์ วิงวอนอย่าเอาเหตุยิงผู้ต้องสงสัยในวันอังคาร(23ธ.ค.) ไปเทียบกับคดีก่อนหน้านี้ โดยยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการเพื่อปกป้องตนเอง "อย่าแม้แต่จะเปรียบเทียบเหตุการณ์นี้กับเฟอร์กูสันหรือคดีของการ์เนอร์ในนิวยอร์ก" ธีโอดอร์ ฮอสกินส์ นายกเทศมนตรีเบิร์กลีย์ กล่าว "แต่ละคนตายไม่เหมือนกัน บางคนตายเพราะตำรวจเป็นฝ่ายเริ่ม บางคนตายเพราะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน และ ณ ตอนนี้ จากที่เราทบทวนสิ่งบ่งชี้ต่างๆ พบว่าตำรวจไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่ม"
เขาบอกกับผู้สื่อข่าวด้วยเมืองแห่งนี้มีประชากร 9,000 คน โดยร้อยละ 85 เป็นคนผิวดำ แต่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ของเมืองเกือบทั้งหมดก็มีเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกันเช่นกัน "ตำรวจของเรามีความอ่อนไหวกว่า เพราะความสัมพันธ์ระหว่างผิวสีกับผิวขาว เพราะพวกเขากระทบกระทั่งกัน แต่ด้วยเหตุนั้นคุณต้องทำความเข้าใจด้วยว่า ทำไมผมถึงเชื่อว่าสถานการณ์ของเราแตกต่างจากเฟอร์กูสัน"
นายกเทศมนตรีรายนี้เผยต่อว่าทั้งเซนต์หลุยส เคาน์ตีและตำรวจท้องถิ่นเบิร์กลีย์ กำลังดำเนินการสืบสวนอิสระต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้
จอห์น เบลมาร์ ผู้บัญชาการตำรวจเซนต์หุยส์ เคาน์ตี บอกว่าผู้ต้องสงสัยวัย 18 ปี ชักปืนพกออกมาและเล็งมาที่เจ้าหน้าที่ที่ได้รับแจ้งว่าเกิดคดีขโมย ทำให้นายตำรวจรายดังกล่าวไม่มีทางเลือกเว้นแต่ลั่นไกออกมา
เบลมาร์ บอกว่าชาย 2 คนเดินตรงไปหารถตำรวจตอนที่ขับเข้าไปจอด ณ สถานีบริการ จากนั้นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยก็จ่อปืน 9มม.เข้าใส่เจ้าหน้าที่ กระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ต้องชักปืนออกมาและยิงใส่เข้าไป 3 นัด จนเสียชีวิต ขณะที่ตำรวจกำลังไล่ล่าผู้ต้องสงสัยอีกคนที่หลบหนีไปจากจุดเกิดเหตุ
ในเวลาต่อมาตำรวจเผยชื่อผู้ต้องสงสัยคือนายอันโตนิโอ มาร์ติน วัย 18 ปี พร้อมบอกว่าเขาเป็นที่รู้จักดีในหมู่เจ้าหน้าที่ หลังจากมีคดีติดตัวหลายคดีไม่ว่าจะเป็นประทุษร้ายและจี้ปล้น
ความพยายามออกมาชี้แจงของเจ้าหน้าที่ มีขึ้นหลังจากมีประชาชนราว 300 คนรวมตัวกันตามหลังเหตุการณ์ดังกล่าว บางส่วนขว้างปาก้อนอิฐและวัตถุระเบิดที่เชื่อว่าน่าจะเป็นพลุไฟเข้าใส่ตำรวจ ส่วนเจ้าหน้าที่ก็ตอบโต้ด้วยสเปรย์พริกไทย ส่งผลให้มีตำรวจได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 1 รายและถูกนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล ขณะเดียวกันพบเห็นผู้ประท้วงกลุ่มเล็กๆกำลังปล้นสะดมร้านค้าแห่งหนึ่งใกล้กับปั๊มน้ำมันจุดยิงกัน
ด้าน โทนี มาร์ติน แม่ของมาร์ติน โต้แย้งคำกล่าวอ้างของตำรวจ ว่า "แฟนสาวของเขาบอกว่าตำรวจเข้ามายุ่งกับพวกเขา และพอเขาพยายามวิ่งหนี ตำรวจก็เริ่มยิง พวกเขาไม่ได้อธิบายอะไรฉันเลย พวกเขาไม่ยอมให้ฉันดูศพด้วยซ้ำ"