xs
xsm
sm
md
lg

สภาวะ “หวานอม ขมกลืน” แต่ “กลืนไม่เข้า คายไม่ออก”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ป้อมพระอาทิตย์
โดย โสภณ องค์การณ์

อากาศหนาวเย็นเดือนกว่ากำลังจะจากไป เมืองไทยเริ่มเข้าสู่สภาวะอากาศร้อน จะอ้าวระอุขึ้นเรื่อยๆ ถึงจุดขีดสุดเดือนเมษายน จากนั้นฤดูฝนจะมาเยือน สร้างความชุ่มฉ่ำต้นไม้เขียวขจีมีชีวิตชีวา แต่ถ้าน้ำมามากเกินไปพื้นที่ลุ่ม รับ ไม่ไหว ผู้รับผิดชอบไร้ฝีมืออาจทำให้ประวัติศาสตร์ปี 2554 ซ้ำรอยได้

ทว่า บรรยากาศการเมืองกลับร้อน เร่งเร้า เร็วกว่า ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และความสัมพันธ์ระหว่างคนไทยด้วยกันเอง ทำให้สภาวะการปรองดองสมานฉันท์ภาคบังคับฟ้องให้เห็นว่าไม่มีหนทางเป็นจริงแบบถาวรยั่งยืนได้ ที่ผ่านมาเป็นเพียงการจำยอมต่ออำนาจกฎอัยการศึก

ดังคำพูดที่ว่า ท่านสามารถจูงวัวควายไปแอ่งน้ำได้ แต่ไม่สามารถบังคับ ให้มันกินน้ำได้ หรือ น้กับน้ำมันย่อมไม่มีวันประสานกันได้ น้ำกับไฟไม่มีวัน ได้ อยู่คู่กันในพื้นที่เดียวกัน

แล้วจะให้ทำอย่างไร ก็ต้องใช้วาทกรรมสวยหรู “อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด”

การเมืองระหว่างประเทศโดยปกติแล้วประเทศไทยไม่ใช่พวกเรื่องเยอะ “ไทยนั้นรักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด” ยิ่งถ้าต้องรบกับพวกเดียวกัน เหม็นหน้ากัน รู้ทางรู้เหลี่ยมคูกัน ก็ยิ่งทำให้ดูไม่จืด

ช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา คนไทยรักชาติออกอาการเลือดขึ้นหน้าอย่างแรงเมื่อได้ฟังผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ นายแดเนียล รัสเซล มาพูดไม่เข้าหูคนไทยช่วงมาเยือนพบปะกับรองนายกฯ และรัฐมนตรีต่างประเทศ พล.อ. ธนะศักดิ์ ปฏิมาปกรณ์ ถามไถ่เรื่องเหตุการณ์บ้านเมืองไทย

เป็นเจ้าหน้าที่สหรัฐตำแหน่งใหญ่สุดที่มาเยือนหลังการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557

มีคำพูดหลายเรื่องที่คนไทยฟังแล้วเกิดปฏิกิริยา ขึ้นอยู่กับตัวเองว่าเป็นฝ่ายใด พวกไม่ชอบขี้หน้าไอ้กันจอมจุ้นก็ยัวะจัด หาว่ามายุ่มย่ามในกิจการภายในประเทศไทย ปัญหาตัวเองก็แก้ไม่ได้ ส่วนพวกที่ต้องการใช้การเยือนของนายรัสเซลทำประโยชน์ก็ชอบใจ นำไปขยายความต่อยอด กลายเป็นสภาวะแห่ง “โอษฐ์ภัย” ส่งผลต่อเนื่องถึงการติวเข้มสำหรับคนพูดไม่ระวัง

แกนนำเสื้อแดง สมุนรับใช้คนหลายเหลี่ยมถูกทหารเรียกตัวไปปรับแนวคิด ทัศนคติ ในกองทัพภาคที่ 1 เพื่อให้คล้องจองเข้าใจความจำเป็นของสถานการณ์ปัจจุบัน ถ้าเข้าใจช้าสมองไว อาจต้องใช้เวลานาน

เชื่อเถอะ การติวเข้มไม่ได้ผล เข้าตำราไม้แก่ดัดยาก ความเชื่อฝังลึกเข้ากระดูกดำแล้ว

ยิ่งพวกถูกมองว่าสู้เพื่อรวย ถือว่าป่วยการเสียเวลาเปล่าที่จะพูดถึงอุดมการณ์ ความรักชาติ ความมั่นคง เพราะรักชาติแล้วไม่ได้เงิน หลายคนทิ้งอุดมการณ์เพื่อเงิน มีพวกเก็บอุดมการณ์ไว้ในลิ้นชัก ซื้อตู้เซฟ ตู้เย็นไว้ใส่เงินเห็นผลตอบแทนเร็วกว่า สู้จนรวยแล้วเริ่มไม่อยากเสี่ยง มุ่งดิ้นขอหลุดคดี
เรื่องนายรัสเซลพูดไม่เข้าหูคนไทยนั้นแท้ที่จริงไม่มีอะไรใหม่ คนไทยรู้ดีไม่ต้องให้ฝรั่งมาบอก

นายรัสเซลไปปาฐกถาให้นักศึกษาจุฬาฯ ฟัง ไม่ได้พูดเรื่องความเป็นไปในสหรัฐฯ เริ่มด้วยการเกริ่นว่าถ้าคนไทยคิดถึงห่วงใยชีวิตทูตสหรัฐประจำกรุงเทพฯ คนก่อน นางคริสตี้ เคนนี่ เชิญติดตามความเคลื่อนไหวของเธอผ่านหน้าเฟซบุ๊กได้ หลายคนได้ฟังแล้วมองว่าเป็นตลกฝืดหรือเปล่า

คนไทยพวกรักชาติ เหม็นขี้หน้านาง พยายามลืมนางไปแล้ว นายรัสเซลดันมากระตุ้นต่อมความทรงจำให้นึกถึงบทบาทความเป็นจอมจุ้นไม่เข้าเรื่องของนาง โดยเฉพาะกรณีมาตรา 112

ยิ่งทำให้มองว่านายรัสเซลพูดเรื่องนี้ทำไม น่าจะบอกว่าทูตคนใหม่เป็นใคร จะมาเมื่อไหร่ หรือจะให้แช่เย็นความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐในระดับอุปทูตดังเช่นปัจจุบันเพราะสหรัฐฯ ไม่เอากับรัฐบาลนี้

นายรัสเซลบอกนักศึกษาจุฬาฯ ว่า…

ประเทศไทยมีรัฐประหาร มีรัฐบาลไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง

ประเทศไทยมีกฎอัยการศึก จำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การชุมนุม

ประเทศไทยไม่มีเลือกตั้ง ไม่เป็นประชาธิปไตย

ถูกต้อง!! นี่เป็นความจริงที่ใครๆ ก็รู้ ไม่ต้องให้ฝรั่งมังค่ามาเตือนให้กระเทือนซาง


ประเด็นสำคัญ เรื่องพวกนี้คนไทยเองยังพูดไม่ได้ ไม่มีสิทธิพูดดังๆ แหกปากป่าวร้องให้ใครฟังก็ไม่ได้ จะถูกเรียกไปเข้าค่ายทหาร รับการติวเข้ม แล้วมันเรื่องอะไรของชาวอเมริกันจะมาตอกย้ำโดยที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้ จนถูกมอง ว่านายรัสเซลพูดเพื่อย้ำเรื่องแม่นางปูเป็นการเฉพาะหรือไม่

พูดแล้วก็เป็นเรื่อง ทำให้อุปทูตสหรัฐฯ นายแพทริก เมอร์ฟี่ ถูกเรียกตัวไปรับการชี้แจงจากรัฐมนตรีช่วยฯ ต่างประเทศ ดอน ปรมัตถ์วินัยตั้งแต่เช้า หลังจากรัฐมนตรีคนอื่นๆ แสดงอาการไม่ปลื้ม

แต่มีเรื่องหนึ่งที่นายรัสเซลพูดถูกบางส่วน คือกระบวนการยุติธรรมเรื่องการถอดถอน ดำเนินคดีแม่นางปูนั้นมีปัญหาด้านความน่าเชื่อถือ ไม่แฟร์ มีวาระทางการเมืองแน่นอน

กระบวนการยุติธรรมประเทศไทยมีปัญหาความน่าเชื่อถืออย่างแรงระดับต้นน้ำและกลางน้ำคือตำรวจและอัยการ สภาวะแห่งพฤติกรรมเป็นอย่างไรเหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นตัวบ่งชี้ชัด แต่ระบบสถาบันตุลาการ ศาลนั้นเป็นที่น่าเชื่อถือ ศรัทธาของประชาชน เป็นที่พึ่งสุดท้าย

เว้นแต่บางองค์กร บางกรณี บางคดีความซึ่งตุลาการบางคนมีพฤติกรรมน่าสงสัยในความเที่ยงธรรม มีเบื้องหน้าเบื้องหลังในการวินิจฉัยคดี มีเงื่อนงำ ความฉาวโฉ่ แต่ดิ้นเอาตัวรอดไปได้ ผลสุดท้ายชีวิตจมปลักอยู่กับความมัวหมอง ไร้ความศรัทธา น่าเชื่อถือ คนรู้ทันดูหมิ่นเหยียดหยาม

จากนั้น คนไทยผู้รักชาติก็ออกอารมณ์เดือดปุดๆ ท่านผู้นำเม้งแตก ตอกหน้าสหรัฐฯ ว่ามายุ่งอะไร เมืองไทยของท่าน ท่านดูแลเองได้ ประเทศไทยมีอธิปไตยเป็นของตัวเอง แล้วท่านยังล้งเล้งกับผู้สื่อข่าวพวกถามคำถามไม่เข้าหู ถึงขั้น “วะ”... “ไอ้ห่า” ออกแนวห่ามห้าวแบบทหารกล้าเผชิญริปูสลาย

ถ้านายรัสเชลไม่มาเมืองไทย มีอะไรอยากบ่นในบ้านตัวเอง คงไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน นี่ทำให้พวกขาใหญ่สมุนท่านเหลี่ยมต้องทนฟังการติวเข้มจากนายทหาร ต้องกล้ำกลืนเลือดข้นแค้นฝังหุ่นรอวันหวนคืนสู่อำนาจ แม่นางปู โฉม สคราญได้รับการยกเว้น ท่านผู้นำบอกว่าต้องให้เกียรติแม่นาง

ท่านผู้นำโกยคะแนนจากมาดเข้มปกป้องเกียรติภูมิของชาติ คนไทยรักชาติยังว้าวุ่นกับสภาวะกลืนไม่เข้าคลายไม่ออก ไม่รู้ว่าอนาคตของบ้านเมืองเป็นอย่างไร จำต้องผะอืดผะอมจมในห้วงทุกข์

เห็นแววแล้วว่า ต่อให้คุณพ่ออเมริกาของนายรัสเซลมาพูดย้ำอีกกี่ครั้ง เมืองไทยก็จะยังห่างไกลจากวันยกเลิกกฎอัยการศึก ท่านผู้นำประกาศว่าขนาดมีกฎอัยการศึก พวกมันยังไม่กลัว ถ้าไม่มีมิยิ่งกว่านี้เรอะ ป่านนี้นักการเมืองต้องรู้แล้วว่าการเลือกตั้งเป็นเรื่องรอคอยอีกนานหลายปี

ก็บอกแล้วว่าการปรองดองสมานฉันท์เอาเด็กมาร้องเพลงให้ฟังทุกเย็นนั้นไม่ได้เรื่อง พวกสงบนิ่งนั้นแกล้งตายชัดๆ นายรัสเซลมาปลุกให้ตื่นแล้ว ถ้าเอาไม่อยู่ ท่านผู้นำนั่นแหละจะไม่ได้อยู่

เมืองไทยยุคอยู่ยาก...ท่านแยกแยะออกหรือยังว่าใครรักชาติจริง ใครตีกิน...


กำลังโหลดความคิดเห็น