ASTVผู้จัดการรายัวน -ภาคเอกชนชี้สังหาฯ ปี 58 ทรงตัว หรือโตไม่เกิน 5% แนะผู้ประกอบการลงทุนระมัดระวังในทำเลเสี่ยงสินค้าเยอะ ยอดขายช้า ระบุพัทยากระทบหนักจากนักท่องเที่ยวรัสเซียเศรษฐกิจชะลอค่ารูเบิลอ่อนค่า ด้านสถาบันการเงินแนะจับตาเศรษฐกิจโลกเปาะบาง การเงินผันผวนกระทบเศรษฐกิจไทย
วานนี้ (28 ม.ค.58) 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่สมาคมอาคารชุดไทย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยและสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร จัดงานสัมมนาใหญ่ประจำปี 58 ภายใต้หัวข้อ "อสังหาริมทรัพย์ ดัชนีหลักชี้เศรษฐกิจ 2015" โดย นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ภาคธุรกิจอสังหาฯปี58 ฟื้นตัวดีขึ้นกว่าปี57โดยคาดว่าจะขยายตัว 5-7% เพราะได้ปัจจัยหนุนจาก การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ช่วยเปิดทำเลใหม่ๆ ความต้องการที่อยู่อาศัยที่ยังมีต่อเนื่อง กำลังซื้อที่เริ่มฟื้นตัว สถาบันการเงินแข่งปล่อยสินเชื่อ และดอกเบี้ยที่ยังต่ำ ร่วมถึงการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) ที่ส่งให้ความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่ม ทั้งนี้ ราคาน้ำมันที่ลดลงจะส่งผลให้ เกิดชะลอการขึ้นราคา
ส่วนปัจจัยเสี่ยง ในปีนี้ คือปัญหาขาดแรงงาน การเปลี่ยนระเบียบและผังเมืองในปลายปี 2558-2559 และต้นทุนการพัฒนาโครงการที่สูงขึ้น จากค่าก่อสร้างและที่ดิน ทั้งนี้ การขยายตัวของตลาดอสังหาฯในปีนี้จะถูกขับเคลื่อนโดยโครงการคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า ในกรุงเทพฯและปริมณฑล อย่างไรก็ตามจะต้องพิจารราซัพพลายในพื้นที่และศึกษาคู่แข่งในทำเลนั้น ๆ ด้วย ส่วนโครงการแนวราบ มองว่ายังสามารถขยายได้ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดในหัวเมืองหลัก เป็นสินค้าที่ปลอดภัยเพราะสามารถชะลอการพัฒนาได้ หากมีปัจจัยอื่นมากระทบ
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ตลาดอสังหาฯปีนี้จะเติบโตเพียง 2-5% มีมูลค่ารวมประมาณ 3 แสนล้านบาท หากแบ่งตามประเภทที่อยู่อาศัย คอนโดมิเนียม เติบโตเพียง 4% จากมูลค่า 1.4 แสนล้านบาทในปี 57 ส่วนบ้านเดี่ยวคาดว่าจะทรงตัว มีมูลค่ารวมเท่ากับปีที่แล้ว 7.5 หมื่นล้านบาท เช่นเดียวกับทาวน์เฮ้าส์ มีมูลค่ารวม 5.6 หมื่นล้านบาทเท่ากับปีที่ผ่าน โดยคอนโดฯราคา 3 ล้านบาทขึ้นไปจะเป็นตลาดหลัก เพื่อหลีกเลี่ยงกลุ่มลูกค้าที่มีปัญหาหนี้ครัวเรือน
"ส่วนตลาดต่างจังหวัดยังคงชะลอตัวต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยในปี 56 ตลาดติดลบ 40% แต่ปีนี้คาดว่าจะติดลบลดลงเหลือ 20% ปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการหลายรายที่ไปลงทุนในต่างจังหวัดถอยกลับมาบางรายชะลอการก่อสร้าง บางรายคืนเงินจองลูกค้าพร้อมดอกเบี้ยเมื่อรู้ว่ายอดขายไม่ได้ตามเป้า ซึ่งถือว่าเป็นการปรับตัวที่ดี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง" นายประเสริฐ กล่าว
**พัทยากระทบหนักหลังรัสเซียเศรษฐกิจทรุด ค่าเงินอ่อน
นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัทไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปีนี้ผู้ประกอบการควรระมัดระวังในการลงทุนแม้ว่าจะยังไม่เห็นภาวะฟองสบู่ แต่จากเทรนด์การลงทุนของผู้ประกอบการหันมาเน้นห้องชุดขนาดเล็ก ทำให้จำนวนยูนิตมีมากขึ้นแม้ว่าจะพัฒนาโครงการออกมาในจำนวนเท่าเดิม ขณะที่ดีมานด์มีจำกัด ตลาดในเมืองท่องเที่ยวโดยเฉพาะพัทยาที่ปีนี้จะต้องเหนื่อยมากในแง่ของยอดยอดขาย เพราะตลาดหลักต่างชาติคือรัสเซีย มีปัญหาเศรษฐกิจค่าเงินรูเบิลอ่อนค่า อาจมีผู้ซื้อบางส่วนไม่รับโอนห้องชุด เพราะต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเท่าตัว และเป็นโอกาสของนักลงทุนในการซื้อห้องชุดราคาถูกจากลูกค้ากลุ่มนี้ ส่วนตลาดภูเก็ตในบางพื้นที่ยังไปได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับระดับราคาและทำเลที่ตั้ง เช่น หาดป่าตอง กเตะ กะรนเป็นต้น
ด้านนายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังผันผวน คือปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะมีโอกาสเกิดปัญหาที่จะมากระทบกับไทยเศรษฐกิจไทยโดยตรง เพราะการลงทุนอสังหาฯ ต้องมีระยะเวลาในการลงทุน การตัดสินใจอะไรจะต้องมั่นใจ รายเล็กต้องดูผู้ประกอบการรายใหญ่ อาจไม่ไปในทำเลเดียวกัน หรือเลือกทำเลที่มีความมั่นใจและกลุ่มลูกค้าที่เหมาะสม ทั้งนี้ต้องดูความพร้อมตัวเองในแง่เงินทุนและผู้รับเหมาด้วย
**ลงทุนภาครัฐพระเอกหนุนเศรษฐกิจปี 58
นายทองอุไร ลิ้มปิติ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ภาคธุรกิจอสังหาฯ พบว่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยในปี 2557 เติบโตในระดับชะลอตัว เนื่องจากเร่งตัวมากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา โดยสถาบันการเงินยังปล่อยสินเชื่ออยู่ ซึ่งสินเชื่อโครงการ ธนาคารพาณิชย์ยังเน้นกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ และระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการรายใหม่ ส่วนโพสต์ไฟแนนซ์ พบว่า สถาบันการเงินอนุมัติสินเชื่อ 69% ส่วนอีก 30% ถูกปฏิเสธสินเชื่อ เนื่องจาก ระดับหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตามหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ของสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านเพิ่มขึ้นจาก 2.3% สิ้นปี 56 เป็น 2.5% ณ สิ้นกันยายน ปี 57
"เริ่มเห็นการปรับตัวของผู้ประกอบการปรับตัว โดยมีการคืนเงินจองพร้อมดอกเบี้ย ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ดี อย่างไรก็ตามปัจจัยเสี่ยงคือภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน อาจกระทบเศรษฐกิจไทยได้ รวมทั้งราคาสินค้าเกษตรที่ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก ราคาที่ดินที่อยู่ในระดับสูง และหนี้ครัวเรือนที่ยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ในส่วนของผู้ประกอบการรายย่อย ควรมีการประเมินความเสี่ยงธุรกิจ เลือกทำเลและกำหนดกลุ่มลูกค้าใหม้เหมาะสม หรืออาจจะร่วมทุนกับกับผู้ประกอบการรายอื่นเพื่อกระจายความเสี่ยง"
วานนี้ (28 ม.ค.58) 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่สมาคมอาคารชุดไทย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยและสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร จัดงานสัมมนาใหญ่ประจำปี 58 ภายใต้หัวข้อ "อสังหาริมทรัพย์ ดัชนีหลักชี้เศรษฐกิจ 2015" โดย นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ภาคธุรกิจอสังหาฯปี58 ฟื้นตัวดีขึ้นกว่าปี57โดยคาดว่าจะขยายตัว 5-7% เพราะได้ปัจจัยหนุนจาก การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ช่วยเปิดทำเลใหม่ๆ ความต้องการที่อยู่อาศัยที่ยังมีต่อเนื่อง กำลังซื้อที่เริ่มฟื้นตัว สถาบันการเงินแข่งปล่อยสินเชื่อ และดอกเบี้ยที่ยังต่ำ ร่วมถึงการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) ที่ส่งให้ความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่ม ทั้งนี้ ราคาน้ำมันที่ลดลงจะส่งผลให้ เกิดชะลอการขึ้นราคา
ส่วนปัจจัยเสี่ยง ในปีนี้ คือปัญหาขาดแรงงาน การเปลี่ยนระเบียบและผังเมืองในปลายปี 2558-2559 และต้นทุนการพัฒนาโครงการที่สูงขึ้น จากค่าก่อสร้างและที่ดิน ทั้งนี้ การขยายตัวของตลาดอสังหาฯในปีนี้จะถูกขับเคลื่อนโดยโครงการคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า ในกรุงเทพฯและปริมณฑล อย่างไรก็ตามจะต้องพิจารราซัพพลายในพื้นที่และศึกษาคู่แข่งในทำเลนั้น ๆ ด้วย ส่วนโครงการแนวราบ มองว่ายังสามารถขยายได้ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดในหัวเมืองหลัก เป็นสินค้าที่ปลอดภัยเพราะสามารถชะลอการพัฒนาได้ หากมีปัจจัยอื่นมากระทบ
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ตลาดอสังหาฯปีนี้จะเติบโตเพียง 2-5% มีมูลค่ารวมประมาณ 3 แสนล้านบาท หากแบ่งตามประเภทที่อยู่อาศัย คอนโดมิเนียม เติบโตเพียง 4% จากมูลค่า 1.4 แสนล้านบาทในปี 57 ส่วนบ้านเดี่ยวคาดว่าจะทรงตัว มีมูลค่ารวมเท่ากับปีที่แล้ว 7.5 หมื่นล้านบาท เช่นเดียวกับทาวน์เฮ้าส์ มีมูลค่ารวม 5.6 หมื่นล้านบาทเท่ากับปีที่ผ่าน โดยคอนโดฯราคา 3 ล้านบาทขึ้นไปจะเป็นตลาดหลัก เพื่อหลีกเลี่ยงกลุ่มลูกค้าที่มีปัญหาหนี้ครัวเรือน
"ส่วนตลาดต่างจังหวัดยังคงชะลอตัวต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยในปี 56 ตลาดติดลบ 40% แต่ปีนี้คาดว่าจะติดลบลดลงเหลือ 20% ปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการหลายรายที่ไปลงทุนในต่างจังหวัดถอยกลับมาบางรายชะลอการก่อสร้าง บางรายคืนเงินจองลูกค้าพร้อมดอกเบี้ยเมื่อรู้ว่ายอดขายไม่ได้ตามเป้า ซึ่งถือว่าเป็นการปรับตัวที่ดี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง" นายประเสริฐ กล่าว
**พัทยากระทบหนักหลังรัสเซียเศรษฐกิจทรุด ค่าเงินอ่อน
นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัทไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปีนี้ผู้ประกอบการควรระมัดระวังในการลงทุนแม้ว่าจะยังไม่เห็นภาวะฟองสบู่ แต่จากเทรนด์การลงทุนของผู้ประกอบการหันมาเน้นห้องชุดขนาดเล็ก ทำให้จำนวนยูนิตมีมากขึ้นแม้ว่าจะพัฒนาโครงการออกมาในจำนวนเท่าเดิม ขณะที่ดีมานด์มีจำกัด ตลาดในเมืองท่องเที่ยวโดยเฉพาะพัทยาที่ปีนี้จะต้องเหนื่อยมากในแง่ของยอดยอดขาย เพราะตลาดหลักต่างชาติคือรัสเซีย มีปัญหาเศรษฐกิจค่าเงินรูเบิลอ่อนค่า อาจมีผู้ซื้อบางส่วนไม่รับโอนห้องชุด เพราะต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเท่าตัว และเป็นโอกาสของนักลงทุนในการซื้อห้องชุดราคาถูกจากลูกค้ากลุ่มนี้ ส่วนตลาดภูเก็ตในบางพื้นที่ยังไปได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับระดับราคาและทำเลที่ตั้ง เช่น หาดป่าตอง กเตะ กะรนเป็นต้น
ด้านนายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังผันผวน คือปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะมีโอกาสเกิดปัญหาที่จะมากระทบกับไทยเศรษฐกิจไทยโดยตรง เพราะการลงทุนอสังหาฯ ต้องมีระยะเวลาในการลงทุน การตัดสินใจอะไรจะต้องมั่นใจ รายเล็กต้องดูผู้ประกอบการรายใหญ่ อาจไม่ไปในทำเลเดียวกัน หรือเลือกทำเลที่มีความมั่นใจและกลุ่มลูกค้าที่เหมาะสม ทั้งนี้ต้องดูความพร้อมตัวเองในแง่เงินทุนและผู้รับเหมาด้วย
**ลงทุนภาครัฐพระเอกหนุนเศรษฐกิจปี 58
นายทองอุไร ลิ้มปิติ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ภาคธุรกิจอสังหาฯ พบว่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยในปี 2557 เติบโตในระดับชะลอตัว เนื่องจากเร่งตัวมากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา โดยสถาบันการเงินยังปล่อยสินเชื่ออยู่ ซึ่งสินเชื่อโครงการ ธนาคารพาณิชย์ยังเน้นกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ และระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการรายใหม่ ส่วนโพสต์ไฟแนนซ์ พบว่า สถาบันการเงินอนุมัติสินเชื่อ 69% ส่วนอีก 30% ถูกปฏิเสธสินเชื่อ เนื่องจาก ระดับหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตามหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ของสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านเพิ่มขึ้นจาก 2.3% สิ้นปี 56 เป็น 2.5% ณ สิ้นกันยายน ปี 57
"เริ่มเห็นการปรับตัวของผู้ประกอบการปรับตัว โดยมีการคืนเงินจองพร้อมดอกเบี้ย ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ดี อย่างไรก็ตามปัจจัยเสี่ยงคือภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน อาจกระทบเศรษฐกิจไทยได้ รวมทั้งราคาสินค้าเกษตรที่ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก ราคาที่ดินที่อยู่ในระดับสูง และหนี้ครัวเรือนที่ยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ในส่วนของผู้ประกอบการรายย่อย ควรมีการประเมินความเสี่ยงธุรกิจ เลือกทำเลและกำหนดกลุ่มลูกค้าใหม้เหมาะสม หรืออาจจะร่วมทุนกับกับผู้ประกอบการรายอื่นเพื่อกระจายความเสี่ยง"