อาจารย์ ดร. อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
สาขาวิชาการวิเคราะห์ธุรกิจและการวิจัย
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
สาขาวิชาการวิเคราะห์ธุรกิจและการวิจัย
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ผมทำนายว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะรอดพ้นจากการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองโดย สนช แต่ท้ายที่สุดผมทำนายได้ผิดพลาด ซึ่งเป็นความผิดพลาดที่ผมดีใจเต็มใจที่จะพลาด คนในตระกูลชินวัตรคงคิดไปว่าตัวเองเป็นตระกูลเคนเนดี้ของประเทศไทยหรืออย่างไร ถึงได้เริ่มส่งสมาชิกในครอบครัวมาดำรงตำแหน่งบริหารบ้านเมืองเป็นทอดๆ ใครถูกถอดถอนก็ส่งตัวตายตัวแทนมา ตั้งแต่ตัวนักโทษชายทักษิณเอง มาเป็นน้องเขย มาเป็นน้องสาว แว่วๆ ว่าจะส่งลูกชายหรือลูกเขยมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนถัดไป
แต่ว่าคนคำนวณอาจจะไม่เท่าฟ้าลิขิตก็เป็นได้นางสาวยิ่งลักษณ์จึงไม่รอดพ้นจากการถอดถอน ข่าวจากสำนักข่าวอิศรา http://www.isranews.org/isranews-scoop/item/36042-yingluck01_36042.html ที่มีคุณประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์เป็นหัวเรือใหญ่นั้นออกมาในทำนองว่า เบื้องแรก สนช ส่วนใหญ่ตั้งใจว่าไม่ถอดถอนยิ่งลักษณ์ แต่เมื่อได้ฟังการข่มขู่จากประดาขี้ข้าขุนพลอยพยักพรรคเพื่อไทยแล้วกลับทนไม่ได้ เกิดเปลี่ยนใจกันหมด เพราะรู้สึกว่าถูกข่มขู่ ลิดรอนสิทธิ์ และเหยียดหยามศักดิ์ศรี จึงต้องถอดถอนเป็นการแสดงปฏิกิริยาทางจิตออกมาตอบโต้ ว่ากันว่าขี้ข้าทนายถุงขนมนี่แหละเป็นคนทำให้ประดา สนช หมดความอดทน และเปลี่ยนใจกลับมาถอดถอนยิ่งลักษณ์กันเสียหมด เรียกว่าเพราะขี้ข้าพลอย ขี้ข้าโง่ๆ ทำงานสอพลอเชลียร์เอาใจนายแท้ๆ เลยทำให้นายพาลซวย เรือหาย ไปด้วย ตั้งแต่หิ้วถุงขนมใส่สตางค์เป็นล้านๆ บาทไปศาลก็ทีแล้ว นี่ยังมาพูดจาป่าวประกาศขู่ สนช โครมโครม คนระดับเคยเป็นใหญ่เป็นโตมีอำนาจวาสนามาแล้วทั้งนั้น ก็อาจจะต้องมีศักดิ์ศรีกันบ้างไม่มากก็น้อย เมื่อเจออย่างนั้นเข้าก็รับไม่ได้ ผลก็เลยออกมาอย่างที่เห็น
ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด ในจิตวิทยาสังคมมีการศึกษาการเปลี่ยนแปลงทัศนคติ (Attitude formation) อย่างพลิกผันจากด้านหนึ่งไปเป็นอีกด้านหนึ่งกันมานานและมีการตั้งทฤษฎีดังที่ว่าไว้หลายทฤษฎี หนึ่งในทฤษฎีนั้นคือทฤษฎีปฏิกิริยาทางจิต (Psychological reactance theory) โดยแจ๊ค เบร็ห์ม (Jack Brehm) ทฤษฎีนี้มีใจความสำคัญว่าเมื่อมนุษย์ถูกลิดรอนเสรีภาพ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งห้าม การถูกข่มขู่ ถ้าหากเสรีภาพในประเด็นที่ถูกห้ามหรือถูกข่มขู่คุกคาม จะทำให้เกิดปฏิกิริยาทางจิต (Psychological reactance) ทำให้เกิดความไม่พอใจ และอาจจะทำให้เกิดการพลิกผันของทัศนคติจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง และอาจจะทำให้มนุษย์เราทำพฤติกรรมอย่างที่ถูกห้ามหรือถูกข่มขู่ไม่ให้ทำมากยิ่งกว่าเดิม เรียกว่ายิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ทฤษฎีปฏิกิริยาทางจิตนี้ อาจารย์ ดร. ทิพวัลย์ สุทิน แห่งมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ผู้ล่วงลับ ได้ทำการทดลองและทดสอบทฤษฎีนี้ในประเทศไทยในขณะศึกษาระดับปริญญาโทที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซึ่งก็ได้ผลตามทฤษฎี
อันที่จริง Brehm คนตั้งทฤษฎีนี้คงไม่เคยอ่านนิทานชาดกเรื่องโคนันทิวิสาลมาก่อน ที่มีกำลังเข้มแข็งมาก แต่หากใครไปข่มขู่ ดูถูก พูดจาไม่ดีด้วยก็จะไม่ยอมทำตาม ไม่ยอมเชื่อฟัง จะพาลพาโลทำในสิ่งตรงกันข้ามกับที่ต้องการให้ทำ แต่ถ้าพูดดีด้วยพูดจาอ่อนหวาน ขอร้องให้ช่วยดีๆ โคนันทิวิสาลก็เต็มใจช่วยอย่างดียิ่ง ชะรอยทนายถุงขนมคงไม่ได้คิดว่า สนช จะเป็นโคนันทิวิสาล และความขยันสอพลอเอาใจนายโดยวิธีการโง่ๆ เลยพาลทำให้นายเดือดร้อนไปด้วย แต่นับว่าเป็นโชคดีของประเทศไทย ที่หลักนิติรัฐยังคงดำรงอยู่ได้
ข้อที่น่าคิดคือ การลิดรอนเสรีภาพ บางประการที่คนไทยได้เจอภายใต้การปกครองในระบอบเผด็จการทหารนั้นจะนำไปสู่ปฏิกิริยาทางจิต (Psychological reactance) ตามทฤษฎีดังกล่าวหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลิดรอนเสรีภาพของคนที่ค่อนข้างสนับสนุนคสช เอง โดยเฉพาะมวลมหาประชาชนที่ออกมาต่อต้านระบอบทักษิณ จะก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางจิตหรือไม่ และจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทัศนคติอย่างพลิกผันคือจากการสนับสนุนไปเป็นการต่อต้าน (ซึ่งข้าพเจ้าเห็นมากขึ้น ๆ ทุกที) ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง การปกครองโดยระบบเผด็จการทหารที่ลิดรอนเสรีภาพของประชาชนที่สนับสนุนตนในการรัฐประหารจะก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางจิตหรือไม่ และนำไปสู่การต่อต้านหรือไม่ ถ้าหากเป็นไปตามทฤษฎีที่ว่านี้ คสช กำลังผลักมิตรออกไปเป็นศัตรู อย่างไม่ได้ตั้งใจตามทฤษฎีปฏิกิริยาทางจิตได้ทำนายเอาไว้ทุกประการหรือไม่?