**ดวงชะตาทางการเมืองถึงฆาต ตามที่โหรหลายสำนักฟันธงก่อนหน้านี้ หลังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ พร้อมใจกันเขี่ย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พ้นวงจรการเมืองไป 5 ปี แบบขาดกระจุย 190 เสียง
เจอกันอีกทีต้นปี 2563 หากเธอไม่โดนศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองฟันคอ จนต้องเก็บข้าวเก็บของระเห็จตามพี่ชายขี้ฉ้อไปอยู่ที่ดูไบอีกคน
เซอร์ไพร์สเหมือนกันกับมติที่ขาดวิ่นขนาดนี้ หากย้อนกลับไปช่วงแรกๆที่ สนช.รับเรื่องถอดถอนจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ใหม่ๆ สนช. สาย“บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แทบทุกคน นำโดย“บิ๊กกี่”พล.อ.นพดล อินทปัญญา ต่างยืนกรานหนักแน่นว่า ไม่สามารถถอดถอนได้เพราะรัฐธรรมนูญฉบับหน้าแหลมฟันดำ ถูกฉีกไปแล้ว
**ช่วงเดียวกัน มีกระแสข่าวลือหนาหูว่า สนช.สายทหารส่วนใหญ่ถูกล็อบบี้จาก“บิ๊กกี่”ให้ปล่อยผียกพวง หลังเกิด“บิ๊กดีล”ระหว่างนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร กับ “บิ๊กป้อม”เรียบร้อยแล้ว จนทำให้แผนการเด็ดยิ่งลักษณ์พ้นเส้นทางการเมือง แทบเป็นไปไม่ได้
แม้แต่คนในพรรคเพื่อไทยและคนใกล้ชิดอดีตนายกฯหญิง ยังนอนตีพุงสบายใจว่า อย่างไรเสียงใน สนช.ไม่มีวันถึง 132 เสียง อย่างแน่นอน เห็นได้ชัดจากการตัดสินใจไม่มาตอบข้อซักถามของกมธ.ด้วยตัวเอง แล้วตีกินเอาเฉพาะวันแถลงเปิด และปิดคดีเท่านั้น
ลิ่วล้อนักโทษชายทักษิณ เชื่อว่า“บิ๊กดีล”จะคุ้มกะลาหัวได้ แต่กลายเป็นว่า การไม่มาตอบข้อซักถามครั้งนั้น กลับทำให้ทุกอย่างแปรปรวน สัญญาณที่เคยชัดกลับกลายเป็นอีกสิ่งที่ตรงกันข้าม ทุกอย่างไหลไปแนวทางว่า ยิ่งลักษณ์ มีสิทธิ์หัวขาดทางการเมืองสูง ตั้งแต่ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เดินทางแจ้งความกับกองปราบฯ เพื่อให้ดำเนินคดีกับคู่สัญญาของรัฐในโครงการรับจำนำข้าวที่ทำให้เกิดความเสียหาย
ต่อจากนั้น ป.ป.ช.หยิบเอาสำนวน“จีทูเจี๊ยะ”ของ บุญทรง เตริยาภิรมย์ ออกมาเชือดในช่วงสัปดาห์เดียวกันก่อนวันลงมติ หนำซ้ำในวันเดียวกัน ยังซุ่มประชุมคณะทำงานร่วมระหว่างป.ป.ช. กับอัยการสูงสุด (อสส.) แบบด่วนจี๋ หักคอ วุฒิพงษ์ วิบูลย์วงศ์ รอง อสส. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายอสส. คนสนิทยิ่งลักษณ์ ที่พยายามยื้อคดีมาตลอด เพื่อส่งสำนวนให้ นายตระกูล วินิจฉัยภาค อสส. พิจารณาส่งฟ้องคดี
ทำเอาวุฒิพงษ์ ออกอาการเซ็ง โจมตีคณะทำงานฝ่ายป.ป.ช.ว่า รวบหัวรวบหาง แต่สุดท้ายทุกอย่างมาเฉลย ตอน“ตระกูล”อสส. บุคคลที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่งตั้งมากับมือ ไม่อิดออดเออออห่อหมกกับคณะทำงานร่วมฯ ในวันนั้น ตอกลิ่มให้เห็นกันโจ่งแจ้งว่า งานนี้มีใบสั่งจากผู้กุมอำนาจมาร้อยเปอร์เซ็นต์ให้เด็ดหัวยิ่งลักษณ์ “บิ๊กดีล”ก่อนหน้านี้ที่ว่าศักดิ์สิทธิ์ กลายเป็นหมัน จนมีการตั้งคำถามว่า เกิดอะไรขึ้นระหว่างนักโทษชายทักษิณกับพี่ใหญ่จากค่ายบูรพาพยัคฆ์
ว่ากันว่า สัญญาณระหว่าง“บิ๊กป้อม”กับนักโทษชายทักษิณ ต่อกันไม่ค่อยติด ผู้มากบารมีในรัฐบาลชุดปัจจุบันขออะไรไป มักถูกหมางเมินอยู่เสมอทั้งที่ก่อนหน้านี้ดูเหมือนง่าย สวมบทจ่าเฉยอย่างเดียว เหมือนคนจะเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว แต่ไม่ยอมเสีย เลยทำเอาเกิดอาการหมั่นไส้ กระทุ้งกลับกันหลายริกเตอร์
**พี่ใหญ่สั่งมือไม้ทำงานในสนช. อย่าง “บิ๊กกี่”ล็อบบี้สายทหารที่กุมสภาพในสภา จากปล่อยเป็นเชือด เลือกเด็ดหัวยิ่งลักษณ์ คนเดียวแบบท่วมท้น แล้วปล่อยให้ปลาซิวปลาสร้อยสองประธาน นิคม ไวยรัชพานิช สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รอดแหแบบสามล้อถูกหวย เป็นการกระทบชิ่งให้เห็นถึงความไม่พอใจอย่างรุนแรงของ “บิ๊กป้อม” ที่มีต่อนักโทษชายทักษิณ ในครั้งนี้ ผ่านการจัดกันให้เห็น ส่งซิกให้รู้ อย่าคิดว่าไม่กล้าทำอะไร
จาก “บิ๊กดีล”กลายเป็น “ดีลล่ม”นักโทษชายทักษิณ ไม่ยอมดิ้นเคลียร์ให้น้องปูอย่างถึงที่สุด มัวตายใจ สุดท้ายเลยซวย
แม้แต่พรรคเพื่อไทย ก็จับสัญญาณได้ถึงความไม่พอใจที่รุนแรงครั้งนี้ ของฝ่ายกุมอำนาจ ไม่มีใครกล้าออกมาตีโพยตีพาย ปลุกระดม สามเกลอก๊วนแดง เงียบกริบ ขออยู่ในที่ตั้ง ไม่มีสักตัวที่จะกระดิกออกมา ทั้งที่ตามครรลองแล้วต้องมาแบบขาประจำ เพราะรู้อยู่เต็มอกว่า ฝ่ายอำนาจเอาจริง ผ่านกฎอัยการศึก กำลังเข้มขลังขึ้นอีกครั้ง
ใครออกอาการเปรี้ยว ถูกทหารต่อสายขู่ให้หุบปาก หากบ้าดีเดือด ส่อแววโดนเรียกรายงานตัวอีกครั้ง อาจโดนหางเลขไม่ได้ผุดได้เกิดทางการเมือง ตามโปรแกรมเชือดปลาใหญ่ อย่างคนในตระกูลชินวัตร กระทบชิ่งนักโทษชายทักษิณโดยตรง ไม่มีอะไรที่ฝ่ายอำนาจไม่กล้าอีกแล้ว
นักโทษชายทักษิณ อยู่ที่นั่งลำบาก หมดสิ้นยิ่งลักษณ์ หมากใหญ่ในกระดานแทบไม่เหลือหลอ คิดไม่ตกแน่ว่าจะส่งใครมาเป็นของขึ้นห้างแทน เพราะไม่ว่าจะส่งมากี่ราย สุดท้ายโดนบอนไซไม่ให้โตทั้งนั้น ตามปฏิกิริยาในพรรคช่วงนี้ยังนิ่ง ไม่มีใครพูดถึงอนาคตว่าจะส่งใครเข้าประกวด
แต่แน่นอน ต้องมีคิดๆกันไว้บ้าง เพียงแต่ตัวละครเหลือน้อยเต็มทน เหลียวซ้ายแลขวา มองไปทรัพยากรที่ตรงตามสเปกมีจำนวนจำกัด เอาแค่คนในตระกูลชินวัตร ที่นักโทษชายไว้ใจ นาทีนี้ไม่เหลือใครพอเป็นงาน
**“เจ๊แดง”เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวสุดที่รัก บารมีในพรรคพอได้ แต่ภายนอกภาพมีแต่ยี๊ ติดแบรนด์มูมมาม ไม่เหมาะเป็นผู้นำ ขืนเอาขึ้นมาลิ่วล้อส่ายหน้า อาจสะบัดตูดหนีไปเลยก็ได้ พี่ชายไม่น่าจะโง่ส่งมาล่อเป้า และก็เขย่าง่ายกว่ายิ่งลักษณ์ เสียอีก เพราะข่าวฉาวโฉ่เรื่องทุจริตเพียบ
“ชายจืด”สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ผู้อาภัพไม่เคยได้นั่งในตึกไทยคู่ฟ้า สามี“เจ๊แดง”เป็นชื่อแรกๆ ที่คนในพรรคนึกถึง พอถูไถไปได้ ในฐานะอดีตนายกฯ แต่โยนออกมาตอนนี้มีแต่ถูกเชือด เพราะฝ่ายกุมอำนาจคุมกลไกบล็อกได้ตั้งแต่หัววัน โดยเฉพาะคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ผู้กำหนดกติกาของนักการเมืองช่วงนี้
ขณะที่นอมินีภายนอก ตัวเลือกยังมืดมน ตามสเปกต้องไว้ใจได้ กดปุ่มสั่งงานได้ และต้องป๊อปปูล่าระดับหนึ่ง แต่ในพรรคแทบไม่มี พวกบิ๊กเนม มีแต่อีโก้ จาตุรนต์ ฉายแสง เลิกพูดไปเลย นายใหญ่นักโทษไม่เอาแน่ เพราะสิ่งสำคัญเหนืออื่นใดคือ“สั่งได้”
หากจะพลิกเกม เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสเรียกคะแนนสงสารจากประชาชน ก็รีบปล่อยชื่อผู้นำคนใหม่ออกมาล่อเป้าให้ฝ่ายกุมอำนาจเชือด ฉายภาพให้เห็นว่าโดนจองล้างจองผลาญไม่เลิก ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย จะชูใครมาเป็นตัวนำ
**สวมบทดรามา เรียกคะแนนสงสาร สะสมกำลัง รอวันสางแค้นในอนาคต !!!
เจอกันอีกทีต้นปี 2563 หากเธอไม่โดนศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองฟันคอ จนต้องเก็บข้าวเก็บของระเห็จตามพี่ชายขี้ฉ้อไปอยู่ที่ดูไบอีกคน
เซอร์ไพร์สเหมือนกันกับมติที่ขาดวิ่นขนาดนี้ หากย้อนกลับไปช่วงแรกๆที่ สนช.รับเรื่องถอดถอนจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ใหม่ๆ สนช. สาย“บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แทบทุกคน นำโดย“บิ๊กกี่”พล.อ.นพดล อินทปัญญา ต่างยืนกรานหนักแน่นว่า ไม่สามารถถอดถอนได้เพราะรัฐธรรมนูญฉบับหน้าแหลมฟันดำ ถูกฉีกไปแล้ว
**ช่วงเดียวกัน มีกระแสข่าวลือหนาหูว่า สนช.สายทหารส่วนใหญ่ถูกล็อบบี้จาก“บิ๊กกี่”ให้ปล่อยผียกพวง หลังเกิด“บิ๊กดีล”ระหว่างนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร กับ “บิ๊กป้อม”เรียบร้อยแล้ว จนทำให้แผนการเด็ดยิ่งลักษณ์พ้นเส้นทางการเมือง แทบเป็นไปไม่ได้
แม้แต่คนในพรรคเพื่อไทยและคนใกล้ชิดอดีตนายกฯหญิง ยังนอนตีพุงสบายใจว่า อย่างไรเสียงใน สนช.ไม่มีวันถึง 132 เสียง อย่างแน่นอน เห็นได้ชัดจากการตัดสินใจไม่มาตอบข้อซักถามของกมธ.ด้วยตัวเอง แล้วตีกินเอาเฉพาะวันแถลงเปิด และปิดคดีเท่านั้น
ลิ่วล้อนักโทษชายทักษิณ เชื่อว่า“บิ๊กดีล”จะคุ้มกะลาหัวได้ แต่กลายเป็นว่า การไม่มาตอบข้อซักถามครั้งนั้น กลับทำให้ทุกอย่างแปรปรวน สัญญาณที่เคยชัดกลับกลายเป็นอีกสิ่งที่ตรงกันข้าม ทุกอย่างไหลไปแนวทางว่า ยิ่งลักษณ์ มีสิทธิ์หัวขาดทางการเมืองสูง ตั้งแต่ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เดินทางแจ้งความกับกองปราบฯ เพื่อให้ดำเนินคดีกับคู่สัญญาของรัฐในโครงการรับจำนำข้าวที่ทำให้เกิดความเสียหาย
ต่อจากนั้น ป.ป.ช.หยิบเอาสำนวน“จีทูเจี๊ยะ”ของ บุญทรง เตริยาภิรมย์ ออกมาเชือดในช่วงสัปดาห์เดียวกันก่อนวันลงมติ หนำซ้ำในวันเดียวกัน ยังซุ่มประชุมคณะทำงานร่วมระหว่างป.ป.ช. กับอัยการสูงสุด (อสส.) แบบด่วนจี๋ หักคอ วุฒิพงษ์ วิบูลย์วงศ์ รอง อสส. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายอสส. คนสนิทยิ่งลักษณ์ ที่พยายามยื้อคดีมาตลอด เพื่อส่งสำนวนให้ นายตระกูล วินิจฉัยภาค อสส. พิจารณาส่งฟ้องคดี
ทำเอาวุฒิพงษ์ ออกอาการเซ็ง โจมตีคณะทำงานฝ่ายป.ป.ช.ว่า รวบหัวรวบหาง แต่สุดท้ายทุกอย่างมาเฉลย ตอน“ตระกูล”อสส. บุคคลที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่งตั้งมากับมือ ไม่อิดออดเออออห่อหมกกับคณะทำงานร่วมฯ ในวันนั้น ตอกลิ่มให้เห็นกันโจ่งแจ้งว่า งานนี้มีใบสั่งจากผู้กุมอำนาจมาร้อยเปอร์เซ็นต์ให้เด็ดหัวยิ่งลักษณ์ “บิ๊กดีล”ก่อนหน้านี้ที่ว่าศักดิ์สิทธิ์ กลายเป็นหมัน จนมีการตั้งคำถามว่า เกิดอะไรขึ้นระหว่างนักโทษชายทักษิณกับพี่ใหญ่จากค่ายบูรพาพยัคฆ์
ว่ากันว่า สัญญาณระหว่าง“บิ๊กป้อม”กับนักโทษชายทักษิณ ต่อกันไม่ค่อยติด ผู้มากบารมีในรัฐบาลชุดปัจจุบันขออะไรไป มักถูกหมางเมินอยู่เสมอทั้งที่ก่อนหน้านี้ดูเหมือนง่าย สวมบทจ่าเฉยอย่างเดียว เหมือนคนจะเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว แต่ไม่ยอมเสีย เลยทำเอาเกิดอาการหมั่นไส้ กระทุ้งกลับกันหลายริกเตอร์
**พี่ใหญ่สั่งมือไม้ทำงานในสนช. อย่าง “บิ๊กกี่”ล็อบบี้สายทหารที่กุมสภาพในสภา จากปล่อยเป็นเชือด เลือกเด็ดหัวยิ่งลักษณ์ คนเดียวแบบท่วมท้น แล้วปล่อยให้ปลาซิวปลาสร้อยสองประธาน นิคม ไวยรัชพานิช สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รอดแหแบบสามล้อถูกหวย เป็นการกระทบชิ่งให้เห็นถึงความไม่พอใจอย่างรุนแรงของ “บิ๊กป้อม” ที่มีต่อนักโทษชายทักษิณ ในครั้งนี้ ผ่านการจัดกันให้เห็น ส่งซิกให้รู้ อย่าคิดว่าไม่กล้าทำอะไร
จาก “บิ๊กดีล”กลายเป็น “ดีลล่ม”นักโทษชายทักษิณ ไม่ยอมดิ้นเคลียร์ให้น้องปูอย่างถึงที่สุด มัวตายใจ สุดท้ายเลยซวย
แม้แต่พรรคเพื่อไทย ก็จับสัญญาณได้ถึงความไม่พอใจที่รุนแรงครั้งนี้ ของฝ่ายกุมอำนาจ ไม่มีใครกล้าออกมาตีโพยตีพาย ปลุกระดม สามเกลอก๊วนแดง เงียบกริบ ขออยู่ในที่ตั้ง ไม่มีสักตัวที่จะกระดิกออกมา ทั้งที่ตามครรลองแล้วต้องมาแบบขาประจำ เพราะรู้อยู่เต็มอกว่า ฝ่ายอำนาจเอาจริง ผ่านกฎอัยการศึก กำลังเข้มขลังขึ้นอีกครั้ง
ใครออกอาการเปรี้ยว ถูกทหารต่อสายขู่ให้หุบปาก หากบ้าดีเดือด ส่อแววโดนเรียกรายงานตัวอีกครั้ง อาจโดนหางเลขไม่ได้ผุดได้เกิดทางการเมือง ตามโปรแกรมเชือดปลาใหญ่ อย่างคนในตระกูลชินวัตร กระทบชิ่งนักโทษชายทักษิณโดยตรง ไม่มีอะไรที่ฝ่ายอำนาจไม่กล้าอีกแล้ว
นักโทษชายทักษิณ อยู่ที่นั่งลำบาก หมดสิ้นยิ่งลักษณ์ หมากใหญ่ในกระดานแทบไม่เหลือหลอ คิดไม่ตกแน่ว่าจะส่งใครมาเป็นของขึ้นห้างแทน เพราะไม่ว่าจะส่งมากี่ราย สุดท้ายโดนบอนไซไม่ให้โตทั้งนั้น ตามปฏิกิริยาในพรรคช่วงนี้ยังนิ่ง ไม่มีใครพูดถึงอนาคตว่าจะส่งใครเข้าประกวด
แต่แน่นอน ต้องมีคิดๆกันไว้บ้าง เพียงแต่ตัวละครเหลือน้อยเต็มทน เหลียวซ้ายแลขวา มองไปทรัพยากรที่ตรงตามสเปกมีจำนวนจำกัด เอาแค่คนในตระกูลชินวัตร ที่นักโทษชายไว้ใจ นาทีนี้ไม่เหลือใครพอเป็นงาน
**“เจ๊แดง”เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวสุดที่รัก บารมีในพรรคพอได้ แต่ภายนอกภาพมีแต่ยี๊ ติดแบรนด์มูมมาม ไม่เหมาะเป็นผู้นำ ขืนเอาขึ้นมาลิ่วล้อส่ายหน้า อาจสะบัดตูดหนีไปเลยก็ได้ พี่ชายไม่น่าจะโง่ส่งมาล่อเป้า และก็เขย่าง่ายกว่ายิ่งลักษณ์ เสียอีก เพราะข่าวฉาวโฉ่เรื่องทุจริตเพียบ
“ชายจืด”สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ผู้อาภัพไม่เคยได้นั่งในตึกไทยคู่ฟ้า สามี“เจ๊แดง”เป็นชื่อแรกๆ ที่คนในพรรคนึกถึง พอถูไถไปได้ ในฐานะอดีตนายกฯ แต่โยนออกมาตอนนี้มีแต่ถูกเชือด เพราะฝ่ายกุมอำนาจคุมกลไกบล็อกได้ตั้งแต่หัววัน โดยเฉพาะคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ผู้กำหนดกติกาของนักการเมืองช่วงนี้
ขณะที่นอมินีภายนอก ตัวเลือกยังมืดมน ตามสเปกต้องไว้ใจได้ กดปุ่มสั่งงานได้ และต้องป๊อปปูล่าระดับหนึ่ง แต่ในพรรคแทบไม่มี พวกบิ๊กเนม มีแต่อีโก้ จาตุรนต์ ฉายแสง เลิกพูดไปเลย นายใหญ่นักโทษไม่เอาแน่ เพราะสิ่งสำคัญเหนืออื่นใดคือ“สั่งได้”
หากจะพลิกเกม เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสเรียกคะแนนสงสารจากประชาชน ก็รีบปล่อยชื่อผู้นำคนใหม่ออกมาล่อเป้าให้ฝ่ายกุมอำนาจเชือด ฉายภาพให้เห็นว่าโดนจองล้างจองผลาญไม่เลิก ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย จะชูใครมาเป็นตัวนำ
**สวมบทดรามา เรียกคะแนนสงสาร สะสมกำลัง รอวันสางแค้นในอนาคต !!!