กลียุคเกิด-เพราะพวก“ลิงหลอกเจ้า”!

“สอดแนมการเมือง”
โดย “ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”

“ในหลวง”ของผองชนชาวไทย ทรงครองแผ่นดินโดยธรรมมาตลอด..

แต่มีนักการเมือง-พ่อค้า-ข้าราชการ-กลุ่มหนึ่ง ละโมบโลภมากจนมิได้ทำหน้าที่ บริหารชาติโดยธรรมหรือด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อธำรงไว้ซึ่งผลประโยชน์ของชาติและประชาชน โดยได้สมคบกันใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้ง เข้ายึดอำนาจรัฐเพื่อคอร์รัปชั่นโกงชาติ จนเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง เป็นวิกฤตการเมืองอันชั่วร้ายมาจนทุกวันนี้

ที่สำคัญยิ่ง คือ คนชั่วกลุ่มนี้ได้ทำลาย ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และได้สร้างระบอบทุนนิยมสามานย์ที่เลวร้ายเข้ามาแทนที่!!!

บุคคลที่มีอาชีพสำคัญต่อชาติกลุ่มนี้ ทั้งที่”ยึดอำนาจรัฐด้วยเงิน” และ “ยึดอำนาจรัฐด้วยปืน” ก่อนเข้ารับตำแหน่งหน้าที่ ได้ไปถวายสัตย์ปฏิญาณ ต่อหน้าพระพักตร์ของพระเจ้าอยู่หัวฯทั้งสิ้น

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จะกระทำฯในห้องประชุมสภา ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระเจ้าอยู่หัวฯ ว่า

“ข้าพเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอปฏิญาณว่า ข้าพเจ้าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตาม ซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”

คณะรัฐมนตรี จะกระทำการถวายสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าพระพักตร์ของพระเจ้าอยู่หัวฯว่า

“ข้าพระพุทธเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”

ทหารในกองทัพไทย จะกระทำการถวายสัตย์ปฏิญาณ ในวันที่ 18 มกราคมของทุกปี เพราะถือเป็น “วันกองทัพไทย”ว่า

“ข้าพเจ้า (ชื่อและนามสกุล) ขอกระทำสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพเจ้าจักยอมตายเพื่ออิสรภาพและความสงบแห่งชาติ ข้าพเจ้าจักรักษาไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ข้าพเจ้าจักอยู่ในศีลธรรมของศาสนา ข้าพเจ้าจะเชิดชูและรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า ข้าพเจ้าจะเชื่อถือผู้บังคับบัญชาและปฏิบัติตามคำสั่งโดยเคร่งครัด ทั้งจักปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาโดยยุติธรรม ข้าพเจ้าจะไม่แพร่งพรายความลับของทางราชการทหารเป็นอันขาด”

เมื่อคนกลุ่มนี้มีอำนาจอยู่ในกำมือ ก็มักจะอ้างว่า พวกเขามิได้ผิดคำสัตย์ฯแต่ประการใด เพราะถวายคำสัตย์ปฏิญาณไว้ว่า “จะทำ”มิใช่ “ต้องทำ” ดังนั้น บางเรื่องจะทำก็ได้-จะไม่ทำก็ได้ นั่นทำให้ประชาชนคนไทย มักได้นายกรัฐมนตรี-รัฐมนตรี-ข้าราชการ ฯลฯ จำนวนหนึ่ง ที่ทำตัวเป็น “ลิงหลอกเจ้า” โดยถวายสัตย์ปฏิญาณเพียงลมปาก หรือพูดโกหกพระเจ้าอยู่หัวฯแบบซึ่งหน้านั่นเอง

เพราะการกระทำที่เป็นจริงนั้น นักการเมืองกับข้าราชการที่ตระบัดสัตย์ ได้สมคบกับนายทุนสามานย์กลุ่มหนึ่ง ใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้งเข้ายึดอำนาจรัฐ เพื่อใช้กลไกรัฐไปโกงชาติ ครั้นโดนจับผิดได้และโดนศาลฯตัดสินให้ติดคุก ก็หอบเงินโกงชาติหนีไปอยู่ต่างแดน แล้วให้ร้ายศาลยุติธรรมว่า เป็น “ศาลอยุติธรรม” แถมยังใช้สภาฯออกกฎหมายนิรโทษกรรม ความผิดให้ตนและพวกพ้องอีกด้วย

เรียกว่า..คนชั่วกลุ่มนี้สุมหัวกันปล้นชาติ และทำลายนิติรัฐนิติธรรม ฯลฯ ของชาติไทยพังยับเยิน! อีกทั้งทำให้ชาติไทยจมปลักอยู่ในวิกฤตเลวร้ายทุกมิติ! ที่สำคัญ..ยังเหิมเกริมถึงขนาด ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งลับและเปิดเผยต่อเนื่องมาจนทุกวันนี้!

ต้นเหตุ-เริ่มจากมีรัฐบาล “เหลี่ยม”โกงชาติ ตามด้วยขบวนการล้มเจ้าที่เหลี่ยมสนับสนุน ทำให้กลุ่มพันธมิตรฯต้องเสี่ยงชีวิตต่อสู้ขับไล่คนชั่ว ที่ทำผิดกฎหมายอาญาและรัฐธรรมนูญ จนเกิดการรัฐประหารโค่นล้ม รัฐบาล”โคตรโกง-โกงทั้งโคตร”ลง ในปี 2549

แต่รัฐประหารของ”บิ๊กบัง-เยี่ยวไม่สุด” โดยไม่มีการปฏิรูปชาติไทยทุกมิติ ขบวนการโกงชาติเหลี่ยมจึงยังอยู่ยั้งยืนยง และสร้างกลุ่มอันธพาลการเมืองเสื้อแดง มากดดันรัฐบาลของคณะรัฐประหาร จัดให้มีการเลือกตั้งสกปรกขึ้นอีกครั้ง

เหลี่ยมได้ใช้เงินสกปรกซื้อเสียงเลือกตั้ง นำพานายกฯ“จมูกชมพู่” กับ นายกฯ”ชายกระโปรงแดง” เข้ามาโกงชาติกันอย่างต่อเนื่อง จึงถูกประชาชนขับไล่อีกครั้ง จนเกิดพลิกขั้วทางการเมือง นายกฯ“สมชาย”ตก“อภิสิทธิ์”ขึ้นเป็นนายกฯแทน ในปี 2551 แต่รัฐบาลอภิสิทธิ์ก็ถูกพลพรรคเหลี่ยม ปฏิบัติการจลาจล-เผาเมือง-ฆ่าทหาร-โดย “ชายชุดดำ” ในปี 2552-2553 จนต้องยุบสภา

หลังการเลือกตั้งสกปรก “พริ้ตตี้ปู”ได้เป็นนายกฯ ทำโครงการ“พี่คิด-น้องโกง” เฉพาะโครงการ“จำนำข้าว” ก็ผลาญและโกงเงินชาติ 6-7 แสนล้านบาท จนเกิดการชุมนุมของชาวไทยหลายล้านคน และลงท้ายด้วย “คสช.”ทำรัฐประหารยึดอำนาจรัฐ ในปี 2557

คนไทยจึงได้นายกฯ ชื่อ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” และได้ฟังเพลง “ขอเวลา-ขอให้ไว้ใจ-ขอให้ศรัทธา-อีกไม่นานจะคืนความสุขให้เธอ..ประชาชน” เป็นของแถม
การถวายสัตย์ปฏิญาณฯต่อหน้าพระพักตร์นั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเคยมีพระราชดำรัส เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2553 ดังนี้

“..การปฏิญาณนั้นมิใช่ของเล่น เป็นของจริง ถ้าท่านปฏิญาณ ท่านทำกฎหมาย และท่านจะได้ทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติอย่างดี..ท่านจะมีความเจริญรุ่งเรืองด้วย ถ้าปฏิบัติตามที่ท่านพูด แล้วเป็นการปฏิบัติตามคำปฏิญาณนั้น เป็นเรื่องของความดี และท่านสามารถจะปฏิบัติสำเร็จเรียบร้อย คนเราถ้าปฏิบัติตามที่ตั้งใจ ก็จะเจริญรุ่งเรือง ถ้าท่านไม่สามารถปฏิบัติตามที่ปฏิญาณไว้ ท่านก็ต้องระวังตัว ฉะนั้น ขอให้ท่านสามารถปฏิบัติตามหน้าที่ตามที่ท่านได้ปฏิญาณ..”

วันนี้..นักการเมือง-พ่อค้า-ข้าราชการ-กลุ่มหนึ่ง ยังคงสุมหัวกันสร้างวัฏจักรการเมืองอุบาทว์ นั่นคือ ใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้ง-ใช้อำนาจรัฐโกงชาติ เพื่อสะสมเงินทองและอำนาจ หากความชั่วในการคอร์รัปชั่นโกงชาติถูกแฉโพย นักการเมืองชั่วก็จะใช้ทางออกที่”ซ้ำซาก” ดังนี้

เปลี่ยนนายกฯ-ปรับครม.-ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ แล้วใช้เงินสกปรกซื้อเสียงเลือกตั้งอีกครั้ง เพื่อตั้งรัฐบาลโกงชาติกันซ้ำแล้วซ้ำอีก..

แต่บางครั้งวงจรอุบาทว์อาจสะดุดลงชั่วคราว เพราะโดนกองทัพทำรัฐประหาร ล้มรัฐบาลคอร์รัปชั่นโกงชาติลง ทว่า..สุดท้าย-รัฐบาลของคณะรัฐประหาร ที่ไม่ได้ปฏิรูปประเทศไทยทุกภาคส่วนนั่นแหละ คือผู้จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ขึ้น เปิดช่องให้นักการเมืองชั่ว ใช้เงินยึดอำนาจรัฐไปไว้ในกำมืออีก จนการเมืองไทยหวนคืนกลับสู่วงจรอุบาทว์เช่นเดิม

นั่นต้นเหตุที่ทำให้ชาติไทย ได้คนชั่วที่โกงชาติขึ้นปกครองบ้านเมืองมาโดยตลอด!

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเคยมีพระบรมราโชวาท เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2512 ว่า

“ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้คนทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้คนทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้”

งานนี้..ต้องถามตรงถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีต”ผบ.ทบ.” ที่นำกองทัพทำรัฐประหาร โค่นล้มรัฐบาลโกงชาติ “พริ้ตตี้ปู” ที่กำลังเป็น”หัวหน้าคสช.” และเป็น ”นายกรัฐมนตรี” ของรัฐบาลเผด็จการทหาร ซึ่งมีอำนาจบริหารชาติเต็ม 100 อยู่ในขณะนี้ว่า

ภารกิจที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด คือ ต้องทำทุกวิถีทางให้พระบรมราโชวาทข้างต้น ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงดำรัสมานานกว่า 46 ปี-เป็นจริงให้ได้..ใช่ไหม?

รัฐประหารครั้งนี้..หากคนชั่วยังครองเมือง-ยังกลับมายึดอำนาจรัฐได้อีก หรือ “บิ๊กตู่”ยังกำจัดคนชั่วไม่ได้ แถมปฏิรูปชาติไทยทุกภาคส่วนไม่ได้ งานนี้..เท่ากับ”บิ๊กตู่”กำลังจะทำให้ ชาติไทยเดินไปสู่”กลียุค”ทั้งทางตรงและทางอ้อมเสียแล้วสิ?