xs
xsm
sm
md
lg

“คุณสมชาย”จะปราบคอร์รัปชั่นว่ะ? ตอน.. “ความศักดิ์สิทธิ์ของการถวายสัตย์ฯ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“สอดแนมการเมือง”
โดย“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”

“ในหลวง”ของผองชนชาวไทย ทรงครองแผ่นดินโดยธรรมมาตลอด..

พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสอันเปี่ยมคุณค่ามากมายนับไม่ถ้วน สอนคนไทยให้ทำความดี แต่การนำไปใช้อ้างอิงหรือนำไปปฏิบัติ จะต้องเลือกใช้ให้ถูกต้องสอดคล้อง กับสภาพการณ์ปัญหาที่เป็นจริง จึงจะแก้ปัญหาและก่อเกิดผลดีอย่างยิ่งยวด ทั้งต่อตน-ครอบครัว-ส่วนรวม-ชาติบ้านเมือง

โดยเฉพาะนักการเมืองและข้าราชการ ก่อนจะปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งสำคัญๆ ซึ่งจะส่งได้ทั้งผลดีและผลเสียต่อชาติ คนเหล่านี้จะต้องถวายสัตย์ปฏิญาณ ต่อหน้าพระพักตร์พระเจ้าอยู่หัวฯก่อน ทั้งนี้ไม่ละเว้นนักการเมืองที่มาจาก การ “ใช้เงินยึดอำนาจรัฐ” หรือ การ“ใช้ปืนยึดอำนาจรัฐ”

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสมาชิกฯ จะกระทำฯในห้องประชุมสภา ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระเจ้าอยู่หัวฯ ว่า

“ข้าพเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอปฏิญาณว่า ข้าพเจ้าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตาม ซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”

คณะรัฐมนตรี
จะกระทำการถวายสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าพระพักตร์ของพระเจ้าอยู่หัวฯ ว่า

“ข้าพระพุทธเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”

ทหารในกองทัพไทย
จะกระทำการถวายสัตย์ปฏิญาณ ในวันที่ 25 มกราคมของทุกปี เพราะถือเป็น “วันกองทัพไทย”ว่า

“ข้าพเจ้า (ชื่อและนามสกุล) ขอกระทำสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพเจ้าจักยอมตายเพื่ออิสรภาพและความสงบแห่งชาติ ข้าพเจ้าจักรักษาไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ข้าพเจ้าจักอยู่ในศีลธรรมของศาสนา ข้าพเจ้าจะเชิดชูและรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า ข้าพเจ้าจะเชื่อถือผู้บังคับบัญชาและปฏิบัติตามคำสั่งโดยเคร่งครัด ทั้งจักปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาโดยยุติธรรม ข้าพเจ้าจะไม่แพร่งพรายความลับของทางราชการทหารเป็นอันขาด”

ทว่า ผู้มีอำนาจกะล่อนมักอ้างว่า พวกเขามิได้ผิดคำสัตย์ฯแต่ประการใด เพราะถวายคำสัตย์ปฏิญาณว่า “จะทำ”มิใช่ “ต้องทำ” ดังนั้น จะทำก็ได้-จะไม่ทำก็ได้ นั่นทำให้ชาวไทยได้นายกรัฐมนตรี-รัฐมนตรี-ข้าราชการ ฯลฯ จำนวนหนึ่ง จึงทำตัวเป็น “ลิงหลอกเจ้า” ด้วยการ “ถวายสัตย์ปฏิญาณ”เพียงลมปาก หรือพูดโกหกพระเจ้าอยู่หัวฯ แบบซึ่งหน้า

เพราะในทางเป็นจริงนั้น นักการเมืองกับข้าราชการที่ตระบัดสัตย์ ได้สมคบกับนายทุนสามานย์กลุ่มหนึ่ง ใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้งเข้ายึดอำนาจรัฐ เพื่อใช้กลไกรัฐโกงชาติ ครั้นโดนจับผิดได้และโดนศาลฯตัดสินให้ติดคุก ก็หอบเงินโกงชาติหนีไปอยู่ต่างแดน แล้วให้ร้ายศาลยุติธรรมว่า เป็น “ศาลอยุติธรรม” แถมยังใช้สภาฯออกกฎหมายนิรโทษกรรมความผิดให้ตนและพวกพ้องอีกด้วย

เรียกว่า..คนชั่วกลุ่มนี้ทั้งปล้นชาติ และทำลายนิติรัฐนิติธรรม ฯลฯ ของชาติไทยพังยับเยิน! อีกทั้งทำให้ชาติไทยจมปลักอยู่ในวิกฤตเลวร้ายทุกมิติ! ที่สำคัญ..ยังเหิมเกริมถึงขนาด ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งลับและเปิดเผยต่อเนื่องมาจนทุกวันนี้!

โชคดีนะ..ที่คำสัตย์ปฏิญาณ ไม่เปลี่ยนจาก “จะทำ” เป็น “ต้องทำ”และ “เพิ่ม” ว่า..

“หากข้าพระพุทธเจ้า (ชื่อ-ยศ-ตำแหน่ง) ไม่ประพฤติปฏิบัติตามคำสัตย์ปฏิญาณนั้น ขอให้ข้าพระพุทธเจ้าและตระกูล มีอันเป็นไป ประสบแต่ความวิบัติ ตายด้วยคมหอกคมดาบคมกระสุน หรือโรคภัยร้ายแรงเทอญ..”

ถ้ามีข้อความนี้เพิ่ม..นายกฯ-รัฐมนตรี-สส.-สว.-ข้าราชการชั่วๆ ฯลฯ คงยกโขยงตายและตกนรกไปนานแล้ว โดยเฉพาะ “มหาโจรการเมืองเหลี่ยม” ที่กระทำผิดต่อคำถวายสัตย์ปฏิญาณอย่างชัดแจ้ง!

หากไม่มี “มหาโจรการเมืองเหลี่ยม” ก็ไม่มีรัฐบาล “เหลี่ยม”โกงชาติ ไม่มีขบวนการ “ล้มเจ้า”ของ “เหลี่ยม” กลุ่มคนดีก็ไม่ต้องเสี่ยงชีวิตออกมาต่อสู้กับคนชั่ว ที่ทำผิดกฎหมายอาญาและรัฐธรรมนูญ ไม่มีอันธพาลการเมืองเสื้อแดง ไม่มีพันธมิตร ไม่มี “คมช.”ทำรัฐประหาร “เยี่ยวไม่สุด”ของ “บิ๊กบัง” ในปี 2549

ไม่มีนายกฯ “นอมีนี-จมูกชมพู่” กับ “นายกฯชายกระโปรงแดง” ไม่มีการพลิกขั้วการเมืองในปี 2551 และไม่มีการเผาเมือง-ฆ่าทหารกับประชาชน โดย “เหลี่ยม”กับพวก “ชายชุดดำ” ในปี 2552-2553

ไม่มี “พริ้ตตี้”โง่ๆเป็นนายกฯ ไม่มี “พี่คิด-น้องโกง” ไม่มี “จำนำข้าว”ผลาญและโกงเงินชาติ 7-8 แสนล้านบาท ไม่มีกปปส. ไม่มี “คสช.”รัฐประหารในปี 2557

ไม่มีการหาวเรอทนฟังเพลง “ขอ” นั่นคือ “ขอเวลา-ขอให้ไว้ใจ-ขอให้ศรัทธา-อีกไม่นานจะคืนความสุขให้เธอ..ประชาชน” เพราะไม่มีนายกฯ ชื่อ “พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา”ไงล่ะ

เพราะคนชั่วที่โกงชาติทั้งหลาย ได้ตายและตกนรกไปนานแล้ว คนดีก็ได้ขึ้นปกครองบ้านเมืองแทน เพราะผองคนชั่วทำผิดต่อคำสัตย์ปฏิญาณนั่นเอง

ขอยกส่วนหนึ่งของพระราชดำรัส พระเจ้าอยู่หัวฯในวโรกาสให้ นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด ฯลฯ ที่เข้าถวายคำสัตย์ปฏิญาณตน ก่อนเข้ารับหน้าที่ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2553 ณ ห้องประชุมชั้น 14 โรงพยาบาลศิริราช ดังนี้

..การปฏิญาณนั้นมิใช่ของเล่น เป็นของจริง ถ้าท่านปฏิญาณ ท่านทำกฎหมาย และท่านจะได้ทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติอย่างดี..ท่านจะมีความเจริญรุ่งเรืองด้วย ถ้าปฏิบัติตามที่ท่านพูด แล้วเป็นการปฏิบัติตามคำปฏิญาณนั้น เป็นเรื่องของความดี และท่านสามารถจะปฏิบัติสำเร็จเรียบร้อย คนเราถ้าปฏิบัติตามที่ตั้งใจ ก็จะเจริญรุ่งเรือง ถ้าท่านไม่สามารถปฏิบัติตามที่ปฏิญาณไว้ ท่านก็ต้องระวังตัว ฉะนั้น ขอให้ท่านสามารถปฏิบัติตามหน้าที่ตามที่ท่านได้ปฏิญาณ..

ผู้มีอำนาจคนไหน บังอาจไปยืนโกหก ต่อหน้าพระพักตร์พระเจ้าอยู่หัวฯ คือ “อภิมหาคนโคตรชั่ว”! พิสูจน์ง่ายมากด้วยการใช้สูตร “ระยะทางพิสูจน์-ม้า ‘ผลงาน’พิสูจน์คน” ครับ..!!!


กำลังโหลดความคิดเห็น