คุณ“สมชาย”จะปราบคอร์รัปชั่นว่ะ? ตอน..สิ่งที่ “คณะราษฎร”ไม่ต้องการ!

“สอดแนมการเมือง”
โดย“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”

เรื่องคอร์รัปชั่นโกงชาติที่จะเขียนถึงในยุค “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ขณะมีอำนาจในกำมือเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ต้องแลกเปลี่ยนกันด้วยหลักการ และเป็นหลักการ “คำถาม”อันมี “คำตอบ”ครบถ้วนอยู่ในตัว ซึ่งทุกคนเห็นตรงกันแน่นอน นั่นคือ

ทุกศาสนาสอนให้คนทำความดี-ไม่ทำความชั่ว

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้นำที่ทำรัฐประหาร ล้มรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และให้กำเนิดรัฐธรรมนูญชั่วคราว ฉบับปี 2557 เป็น หัวหน้าคสช. เป็น นายกรัฐมนตรีชาติไทยคนที่ 29 เป็นคนตั้ง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ตั้ง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ทั้งกำลัง “ทำคลอด-รัฐธรรมนูญฉบับใหม่” ด้วยการตั้ง 36 ผู้ทรงความรู้ มายกร่าง รธน “ฉบับจริง” ที่มีโอกาสจะโดนฉีกอีกในอนาคต

โอ๊ย..ท่านยังเป็นอีกสารพัดจนจาระไนไม่หมด แต่สรุปสั้นๆว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็น ชาวพุทธ ที่มีอำนาจยิ่งใหญ่มั่กมากของชาติไทยในห้วงนี้

ชาวพุทธทุกคน-นับถือ-พระพุทธเจ้า-ยึดคำสอนแห่ง-ธรรม-เป็น-มรรค-เพื่อนำไปสู่-ผลดี-หรือ-เพื่อการทำความดี

“มโน”เองนะว่าอย่างน้อย “นายกฯตู่”ที่เป็นผู้นำคนไทยทั้งชาติ ท่านต้องรู้และน่าจะปฏิบัติศีลอย่างน้อยๆ 5 ข้อ นั่นคือ

1.งดเว้นจากการทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไป 2.งดเว้นจากการถือเอาของที่เจ้าของมิได้ให้ 3.งดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม 4.งดเว้นจากการกล่าวเท็จ 5.งดเว้นจากการดื่มสุราและเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท

“นายกฯตู่”ฉลาด-จึงเหมือนคนไทยทุกคนที่รู้ว่า ทุกชาติมี คนดี-มี-คนชั่ว มี ผู้ปกครอง-มี-ผู้ถูกปกครอง มี ผู้ปกครองดี-มี-ผู้ปกครองชั่ว ชาติใด-ได้ ผู้ปกครองดี ประชาจะอยู่เย็นเป็นสุข..ชาติเจริญ ชาติไหน-ได้ ผู้ปกครองชั่ว ประชาจะทุกข์ยากแสนสาหัส..ชาติจะล่มจม..

“มโน”ด้วยเชื่อมั่นว่า “นายกฯตู่”กับ “คสช.”ทุกคน ต้องอยากเป็น “ผู้ปกครองดี”แน่นอน แต่จะดี-หรือ-เลว อยู่ที่ “ผลงาน” ซึ่งประชาชนคนส่วนใหญ่จะเป็นผู้ตัดสิน!

หากย้อนอดีต“นายกฯตู่”กลับสู่วัยเยาว์ เด็กชายตู่-นักเรียนชายตู่-นักเรียนนายร้อย จปร.ตู่ คงเหมือนเด็กและคนไทยทุกคนแน่ๆ นั่นคือ พ่อ-แม่-ปู่-ย่า-ตา-ยาย ฯลฯ ครู-อาจารย์-ผู้หลักผู้ใหญ่ รวมทั้งพระสงฆ์องค์เจ้าที่รู้จัก จะสั่งจะสอนให้ทำความดี ให้คบบัณฑิต (คนดี) อย่าคบคนพาล (คนชั่ว) เด็ดขาด ฯลฯ

ที่สำคัญ-ถูกสั่งถูกสอนให้แยกชั่วแยกดีให้ได้ และต้องมีจิตสำนึกเพื่อส่วนรวมก่อนส่วนตัว ฯลฯ ยิ่งเป็นนักเรียนนายร้อยและทหารหาญด้วยแล้ว จะยิ่งเข้มทั้งกายใจในความเสียสละชีวิต เพื่อปกป้องชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ และ ประชาชนคนส่วนใหญ่ เหนือสิ่งอื่นใด

ที่ต้อง “เน้น” ประชาชนคนส่วนใหญ่ แม้เชื่อมั่นว่าสังคมไทยต้องมีคนดีมากกว่าคนชั่ว เพราะถ้าคนดีน้อยกว่าคนชั่ว..ชาติไทยคงเกิดกลียุคไปนานแล้ว

เพราะหากคนชั่วมีอำนาจรัฐและจำนวนมากกว่าในสังคม คนชั่วคงไม่ใจดีนั่ง “ปรองดอง”กับทุกฝ่าย โดยเฉพาะกับฝ่ายคนดีที่ขัดขวางโกงชาติ ยิ่งในชาติไทย-แค่คนชั่วยึดอำนาจรัฐได้ และข้าราชการยอมตนเป็นขี้ข้าให้ ชาติไทยกว่าทศวรรษต้องจมปลักในวิกฤติ กับขบวนการคนชั่วที่ไม่เคยลังเล กับการไล่ล่าฆ่าทหารกับประชาชน ที่รักชาติรักพระมหากษัตริย์ให้เห็นคาตา

แถมทหารหาญที่เสียสละชีวิต จนนำความสงบกลับคืนสู่ชาติได้ ยังโดนรัฐบาลคนชั่วกล่าวหาให้เป็น “ฆาตกร”อีก เรื่องบ้าๆไม่น่าเชื่อแบบนี้เกิดขึ้นในชาติไทยแล้ว ยุค “มหาโจรเหลี่ยม”ครองเมือง จึงเป็นยุค“คนชั่ว(ลวงหลอก)เป็นคนดี ส่วนคนดี(ถูกป้ายสี)ให้กลายเป็นคนชั่ว” นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม..แม้คนส่วนใหญ่แทบทุกชาติ จะมีคนดีมากกว่าคนชั่ว แต่หลายชาติในโลกที่ได้ผู้นำชั่วครองเมือง ผู้นำชั่วจะใช้อำนาจแต่งตั้งขบวนการคนชั่วทั้งหลาย เข้ายึดตำแหน่งใหญ่น้อยในรัฐทันที เพื่อใช้เป็น “มือเท้า”ในการคอร์รัปชั่นโกงชาติ

ในอดีต..ทำชั่วกันทั้งผู้ปกครอง ที่มาจากการเลือกตั้งสกปรก และมาจากการทำรัฐประหาร จนทำให้บางชาติเกือบเกิดกลียุค และบางชาติเกิดกลียุคฆ่าฟันกันจนทุกวันนี้

ชาติไทยเคยมีทั้งผู้นำดีและผู้นำชั่ว ทั้งที่มาจากการใช้ “เงิน”ยึดอำนาจรัฐ กับ รัฐประหารใช้ “ปืน”ยึดอำนาจรัฐ ทำเอาชาติเสียหายอย่างใหญ่หลวงมิใช่น้อย เช่น

ระบอบ “พระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ” ถูก “ทำคลอด”ด้วยวิธี “รัฐประหาร” โดย ขบวนการ “คณะราษฎร” เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 ซึ่งเรียกกันมาจนทุกวันนี้ว่า “ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”

นั่นเป็น “ต้นน้ำ”ของการเลือกตั้งสกปรก ที่ยิ่งเลือกตั้งยิ่งเน่ากันทั้ง “ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ” สส.ส่วนใหญ่ชนะเลือกตั้งด้วยการโกงและใช้เงินซื้อเสียง ฯลฯ

การซื้อเสียงและโกงเลือกตั้ง ระบาดไปทั่วทุกหย่อมหญ้า ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาติและประชาชนคนไทย ได้“ผู้ปกครอง”ที่ชั่วช้าสามานย์ และคอร์รัปชั่นโกงชาติมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ความชั่วที่มนุษย์ใจร้ายกระทำต่อชาติเช่นนี้แหละ ทำให้ “เงิน”กลายเป็น “พระเจ้า” นายทุนสามานย์เข้ายึดพรรคการเมืองไว้ในกำมือ แข่งกันซื้อตัวสส.และซื้อเสียงเลือกตั้งทุกครั้ง ตั้งแต่ราคา 5 ล้านบาท เพิ่มเป็น 10-15 ล้านบาท ต่อหนึ่งเขตเลือกตั้ง

แต่นั่นเป็นความชั่วร้ายก่อน “มหาโจรเหลี่ยม” จะเข้ามาทำธุรกิจการเมืองด้วยเงินล้นฟ้า!

ความชั่วร้ายของการเมืองไทยวิกฤตยิ่งขึ้น ในยุค “มหาเศรษฐีเหลี่ยม”เข้าสู่เวทีการเมือง การซื้อเสียงเลือกตั้งแต่ละเขตไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท บางเขตที่ “เจ้าพ่อ”สู้ “เจ้าแม่” หรือ “เจ้าพ่อ”สู้ “เจ้าสัว” มิเพียงกระสุนปืนจะปลิวว่อน เงินยังสะพัดกันกว่า 100 ล้านบาท เพราะเดิมพันด้วยตำแหน่งใหญ่ในรัฐสภา-รัฐบาลนั่นเอง

การโกงทำให้สส.ดีแต่เงินน้อย แพ้การเลือกตั้งแทบเกลี้ยงสภา ในสภาเต็มไปด้วยเสือ-สิงห์-กระทิง-แรด-วัว-ควาย-สุนัข ฯลฯ หรือผู้มีอิทธิพลชั่วร้ายๆสารพัด ฯลฯ ทำให้สภาฯเป็น “สภาทาส” ยกมือตามทุนสามานย์เจ้าของพรรคต้องการ โดยไม่แยกแยะดีชั่วและถูกผิด ไม่สนใจแม้การทำชั่วในสภาในรัฐบาล จะเป็นมหันตภัยทุกมิติชาติและประชาชน

เรียกว่า.. “มหาโจรเหลี่ยม”สร้างยุค ทุนสามานย์เผด็จการเลือกตั้ง-รัฐสภา-รัฐบาล ที่โคตรโกง-โกงทั้งโคตร-โกงทั้งระบบได้สำเร็จเกือบเต็มร้อย!

ความชั่วมหันต์เช่นนี้..ทำให้การเมืองไทยไม่พัฒนา มีแต่ถอยหลังลงคลอง-แม่น้ำ-ทะเล เดี๋ยวทุนสามานย์เผด็จการรัฐสภา ใช้เงินยึดอำนาจรัฐแล้วตั้งวงโกงชาติ ถูกสื่อเปิดโปงผู้คนในสังคมขับไล่ “ผู้นำทหาร”ก็ลากปืนและรถถัง ล้มรัฐบาลโกงชาติขึ้นเป็น “ผู้นำชาติ” ใช้ระบอบเผด็จการครองชาติและโกงชาติต่อ

“วงจรอุบาทว์”ทางการเมืองนี้ เกิดขึ้นก่อนยุค “เหลี่ยม”กับพวก แต่ยุค “มหาโจรเหลี่ยม”เข้ามาทำธุรกิจการเมืองนั้น มีการใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้งเพิ่มขึ้นมโหฬาร มีการนโยบายผลาญเงินชาติ ไป “ลด-แลก-แจก-แถม”ทางการเมือง หรือ “ประชานิยม”ที่โกงได้อีกสารพัด

กว่าทศวรรษของในยุค “เหลี่ยม” ทำให้ระบบการเลือกตั้งและการโกงชาติ เน่าเฟะทั้ง “ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ”กันแบบ “บูรณาการ”เลย

“เหลี่ยม”กับพวกที่ถนัดใช้เงินยึดอำนาจรัฐ จึงชอบท้าทาย “นักรัฐประหาร”และ “ผู้ถูกปกครอง”ที่แข็งข้อกับคนชั่ว ให้กระโดดลงมาเลือกตั้งแข่งกัน อีกทั้งประกาศด้วยความอหังการว่า

“เลือกตั้งอีกกี่ครั้ง-พวกกูก็ชนะ” และ “เมื่อไหร่มีเลือกตั้ง..พวกกูกลับมาเป็นรัฐบาลแน่นอน”

แต่เป็นคำพูดที่ยังไม่จบ..ที่ครบถ้วนคือ “กูได้เป็นรัฐบาลกี่ครั้ง-พวกกูก็จะโกงชาติว่ะ”!

การเลือกตั้งที่โกงและใช้เงินซื้อเสียงได้ รัฐบาลที่โกงชาติ-รัฐสภาเผด็จการ มิใช่สิ่งที่ “คณะราษฎร์”ต้องการ และเสี่ยงชีวิตทำรัฐประหาร ในปี 2475 เพราะมิใช่ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง!!

อ้อ..พวกกูคนไทยยิ่งไม่เคยต้องการ เลือกตั้งโกง-รัฐสภาโกง-รัฐบาลโกง..โว้ย”!!!