ตำรวจภาค 7 ส่งชุดสืบสวนหาข่าว กรณีมีผู้ไม่ประสงค์ดี ส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือข่มขู่ครอบครัวของนักเรียนนายร้อยตำรวจที่เสียชีวิตระหว่างกระโดดร่มคาดคนร้ายต้องการข่มขู่ให้หวาดกลัว ยันสรุปสำนวนส่งอัยการได้ภายในสัปดาห์นี้
วันนี้ (20 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.วีรพงษ์ ชื่นภักดี รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (รรท.ผบช.ภ.7) กล่าวถึงกรณีมีผู้ไม่ประสงค์ดีส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือข่มขู่ครอบครัวของนักเรียนนายร้อยตำรวจที่เสียชีวิตระหว่างกระโดดร่ม เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ที่ผ่านมา ต่อมามีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้นจนได้ข้อสรุปว่าให้ดำเนินคดีตั้งแต่ผู้เกี่ยวข้องกับการซื้อลวดสลิงไปจนถึงเจ้าหน้าที่ผู้ติดตามการซ่อมเปลี่ยนลวดสลิงนั้น ว่า ขณะนี้ได้ตรวจสอบและพูดคุยกับทั้ง 2 ครอบครัวแล้ว พบว่า ถูกส่ง sms ข่มขู่จริง ขณะนี้ตำรวจภูธรภาค 7 ได้ส่งกำลังเข้าไปตรวจตรา และติดตั้งตู้แดงเพื่อเฝ้าระวังความปลอดภัย โดยให้ตำรวจผู้ใหญ่ลงไปตรวจเยี่ยม และให้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวไว้ให้ผู้เสียหายโทรติดต่อได้ 24 ชั่วโมง พร้อมชี้แจงสาเหตุการสอบสวนคดีที่ล่าช้ากว่า 7 เดือนนั้น เนื่องจากมีการสอบพยานที่เกี่ยวข้องจำนวนมากถึง 45 ปาก และมีผู้ถูกกล่าวหาบางท่านร้องขอความเป็นธรรมจึงต้องสอบพยานเพิ่มเติม ขณะนี้ได้รับผลลายนิ้วมือพยานปากสุดท้ายแล้ว ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของการสรุปสำนวน เชื่อว่าสามารถส่งให้อัยการได้ภายในสัปดาห์นี้
พล.ต.ต.วีรพงษ์ กล่าวว่า เชื่อว่า การข่มขู่ครั้งนี้ เพื่อให้เกิดความหวาดกลัว โดยในส่วนของตำรวจจะสร้างความมั่นใจในความปลอดภัย และให้ชุดสืบสวนตรวจสอบอยู่ โดยพบว่าเป็นเบอร์แบบเติมเงินแต่พอเป็นข่าวได้ปิดเบอร์ไปแล้ว ทั้งนี้ผู้เสียหายไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งหรือเสียผลประโยชน์กับใคร มีแต่เรื่องฟ้องร้องการเสียชีวิตของบุตรชายทั้ง 2 ครอบครัว ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุแท้จริงได้ ขอเวลาตำรวจตรวจสอบ ขณะเดียวกันยืนยันว่าตำรวจไม่กังวลหรือกดดันกับกลุ่มคนเข้ามาเกี่ยวข้องในคดี พร้อมมั่นใจในพยานหลักฐานที่สามารถดำเนินคดีได้ถึงที่สุด
