“ประยุทธ์” นั่งหัวโต๊ะ คสช. อ้างรัฐธรรมนูญชั่วคราวให้อำนาจเซ็นเอกสารแทนจนกว่าจะได้นำ ครม.เข้าเฝ้าฯ ยันยังนั่ง ปธ.บอร์ดทุกชุด แต่ คสช.ให้ใช้อำนาจเรื่องความมั่นคง และรักษาความสงบ ขอกองกำลังปฏิบัติละมุนละม่อม ใช้กฎอัยการศึกเมื่อจำเป็น ย้ำปราบโกงแก้ปัญหาเร่งด่วน น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียงควบคู่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สร้างเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ลั่นไม่มีโควตาโซลาร์เซลล์ เผยส่งทีมเจรจาไฟใต้กับมาเลเซียแล้ว ขณะที่ “ป๋าเปรม” ไม่เปิดบ้านให้อวยพรวันเกิด
วันนี้ (26 ส.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อเวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ชุดใหญ่ ครั้งที่ 12/2557 โดยมีรองหัวหน้า คสช.ประกอบด้วย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฎิมาประกร ผบ.สูงสุด พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทร. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เลขาธิการ คสช. เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างเพรียง
โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวก่อนการประชุมว่า แม้ขณะนี้จะรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว พุทธศักราช 2557 มาตรา 43 วรรค 2 ได้ระบุไว้ว่า ก่อนที่คณะรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญจะเข้ารับหน้าที่ ให้บรรดาอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเป็นอำนาจของหัวหน้า คสช. ดังนั้น การลงนามในเอกสารต่างๆ จะยังคงเป็นไปในรูปแบบเดิมจนกว่าจะได้นำคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตนแล้ว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวยืนยันว่า ตนยังคงปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานบอร์ดทุกชุดตามคำสั่งของ คสช. เหมือนเช่นที่ผ่านมาแม้จะมีรัฐบาลแล้ว และจากนี้ คสช.จะใช้อำนาจเท่าที่จำเป็นในเรื่องของความมั่นคง การรักษาความสงบเรียบร้อย คำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก และขอให้ทุกกองกำลังปฏิบัติงานด้วยความละมุนละม่อม การบังคับใช้กฎหมายจะเน้นใช้กฎหมายปกติ ส่วนกฎอัยการศึกจะใช้เมื่อมีความจำเป็น และอยากให้ทุกฝ่ายได้ยึดมั่นและปฎิบัติตามแนวทางการทำงานที่ตนได้กล่าวไว้ในพิธีสำนึกพระมหากรุณาธิคุณ ภายหลังจากรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ (25 ส.ค.) ทั้งในเรื่องการตรวจสอบการทุจริต การบริหารราชการแต่ละด้านที่ยังมีปัญหา รวมถึงเรื่องการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในแต่ละด้านโดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ เช่น เรื่องยางพารา การช่วยเหลือสินค้าเกษตร การแก้ไขปัญหาสังคม
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า สำหรับการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นั้นจะเน้นให้มีการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปปฏิบัติควบคู่กับทำการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน การบริหารจัดการน้ำ การจัดพื้นที่เกษตรกรรม การแก้ไขปัญหาสินค้า การฟื้นฟูรัฐวิสาหกิจ การปรับโครงสร้างภาษี การปรับโครงสร้างพลังงาน นอกจากนี้ ในการวางยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาหรือขับเคลื่อนประเทศด้วยการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษนั้นไม่ใช่การป้องกันไม่ให้แรงงานเข้ามาในพื้นที่ แต่เป็นการตั้งพื้นที่เขตอุตสาหกรรม พื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่การค้าขาย เพื่อลดปัญหาด้านแรงงาน การขนส่ง เพื่อเพิ่มความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนกรณีที่มีผู้แอบอ้างได้โควตาจาก คสช.ในเรื่องของน้ำ พลังงานโซลาร์เซลล์ ยืนยันว่า คสช.ไม่มีโควตาใดๆ ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง หากมีข้อสงสัย
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงการเจรจาสันติสุข 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าขณะนี้ได้มีการส่งผู้แทนไปเจรจากับทางประเทศมาเลเซียแล้ว โดยมาเลเซียมีท่าทีต้องการให้ฝ่ายทหารหรือฝ่ายความมั่นคงเป็นแกนนำในการเจรจาในฐานะผู้รับผิดชอบปัญหาโดยตรง
สำหรับการประชุม คสช.วันนี้มีวาระเรื่องเพื่อทราบที่จะพิจารณาจำนวน 12 เรื่อง แบ่งเป็นเรื่องเพื่อทราบปกติ 6 เรื่อง เรื่องเพื่อทราบถือเป็นมติเห็นชอบหรืออนุมติ 6 เรื่อง ขณะที่วาระเรื่องเพื่อพิจารณามีจำนวน 27 เรื่อง
ส่วนความเคลื่อนไหวที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อเวลา 07.30 น. ได้มีสื่อมวลชนติดตามความเคลื่อนไหวตั้งแต่ช่วงเช้า เนื่องด้วยเป็นวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 94 ปี แต่ในปีนี้ไม่มีการเปิดบ้าน เพื่อให้คณะบุคคลเข้าพบอวยพร อย่างไรก็ตาม พล.อ.เปรมยังอยู่ในบ้านพัก ไม่ได้ออกเดินทางไปไหน ส่วนในช่วงบ่ายคาดว่าจะมีผู้บัญชาการเหล่าจะส่งตัวแทนนำกระเช้าดอกไม้มาอวยพรเนื่องในวันเกิด