นบข.มอบ “ปลัด พณ.” แจ้งกองปราบฯเอาผิดคู่สัญญาโครงการรับจำนำข้าวสมัย “รบ.ปู” กว่า 100 ราย ฐานลักทรัพย์-ยักยอกทรัพย์-ฉ้อโกง เผยค่าความเสียหายกว่า 6.5 หมื่นล้าน ด้าน “พรเพชร” ประธาน สนช.ชี้ “ยิ่งลักษณ์” ควรมาตอบข้อซักถามเอง เหน็บอย่าเอา “มือปืนรับจ้าง” มาตอบแทน เปิดทางขนอดีต รมต.มาด้วย “ชายจืด” ออกโรงแถจำนำข้าวไร้ความผิด ส่วน สนช.สายตำรวจปัดข่าวเตรียมงดออกเสียง
วานนี้ (12 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่กองบังคับการปราบปราม น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เข้าพบ พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รองผู้บังคับการกองปราบปราม (รอง ผบก.ป.) เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับคู่สัญญาในโครงการรับจำนำข้าว ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดฐานลักทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ และข้อหาฉ้อโกง โดยนำเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน
ปลัด พณ.ฟ้องคู่สัญญาจำนำข้าว
โดย น.ส.ชุติมา เปิดเผยว่า หลังจากคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ได้มีมติในที่ประชุมเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.57 มอบหมายให้ตนในฐานะเลขานุการ นบข.แจ้งผลการประชุมให้กับทางองค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เพื่อดำเนินคดีกับคู่สัญญาในโครงการรับจำนำข้าวที่นำข้าวไม่ได้คุณภาพตามมาตรฐานที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดมาเข้าโครงการดังกล่าว โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.กลุ่มผิดชนิดข้าว 5 ราย รวม 5 จังหวัด 10 โกดังกลาง 2.กลุ่มข้าวเสีย 13 ราย รวม 22 จังหวัด 94 โกดังกลาง และ 3.กลุ่มข้าวไม่ตรงตามมาตรฐาน 59 ราย รวม 51 จังหวัด 652 โกดังกลาง รวมปริมาณข้าวทั้งสิ้นประมาณ 3.6 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 6.5 หมื่นล้านบาท
“เรื่องนี้มีคู่สัญญาที่เกี่ยวข้องกว่า 100 ราย ซึ่งได้ขอให้ทางพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และหากพบว่ามีผู้ใดกระทำความผิดก็ขอให้มีการดำเนินคดีตามกฎหมาย หากมีข้าราชการมีส่วนรู้เห็นหรือร่วมกระทำความผิดก็จะต้องส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการต่อไป” น.ส.ชุติมา กล่าวต่อว่า
ด้าน พ.ต.อ.ณษ กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้รับเรื่องและมอบหมายให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้แทนปลัดกระทรวงพาณิชย์แล้ว ซึ่งหลังจากนี้จะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และ รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
“พรเพชร” เบรก สนช.จ้อถอดถอน
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 15.00 น. ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนระบุว่า ตนรู้สึกไม่สบายใจที่สมาชิก สนช.หลายคนให้สัมภาษณ์กรณีการพิจารณาคดีถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา และนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา ซึ่งเป็นความรู้สึกและความเห็นส่วนตัว เพราะเมื่อเข้าสู่กระบวนการ สมาชิกจะแสดงความเห็นที่อคติหรือเข้าข้างบุคคลใดบุคคลหนึ่งไม่ได้ และขอยืนยันว่า สนช.ไม่ได้รับคำสั่งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือผู้มีอำนาจ จะมายุ่งเกี่ยวกับดุลยพินิจ สนช. ในการดำเนินการถอดถอน ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่าง สนช.และ คสช. เป็นไปตามโรดแมปการทำงานให้บรรลุเป้าหมาย ไม่ใช่การมาคอยรับคำสั่งใดๆ ซึ่งตนไม่อยากให้เกิดแรงกดดันว่า การลงมติจะออกมาเป็นแบบไหน
จี้ 3 จำเลยมาตอบคำถามเอง
สำหรับขั้นตอนการถอดถอนของ สนช.นี่น นายพรเพชรกล่าวว่า ในสัปดาห์นี้จะมีการซักถามคู่กรณี ทั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายสมศักดิ์ และนายนิคม ที่จะต้องมาตอบคำถามต่อกรรมาธิการ ส่วนคู่กรณีจะต้องมาตอบคำถามด้วยตัวเองหรือไม่ ได้เคยแจ้งในหลักการกับคู่กรณีไว้แล้วว่า ถ้าใครมาแถลงเปิดคดีแล้ว ก็ควรมาตอบคำถามเองด้วย หากมาแถลงเปิดคดีเอง แต่ไม่ยอมมาตอบคำถามตามหลักการ ถือว่าไม่ถูกต้อง แต่หากใครไม่มาตอบคำถามเอง ก็เป็นถือเป็นสิทธิ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือในสิ่งที่พูดว่าบริสุทธิ์หรือมีความผิดอย่างไร และยังขัดต่อความรู้สึก และหลักการของกฎหมาย พยานหลักฐาน ซึ่งมีผลต่อความน่าเชื่อ ส่วนวันแถลงปิดคดีคู่กรณีจะมาหรือไม่มาก็ได้ ให้โอกาสทั้งสองฝ่าย แต่ในทางปฏิบัติส่วนใหญ่จะมากัน ขณะนี้ที่กำหนดวันลงมติในวันที่ 23 ม.ค. เป็นเพียงแนวคิดในเบื้องต้น ต้องรอดูว่าจะมีอุปสรรคอะไรหรือไม่
“ถ้าเอามือปืนรับจ้างมาตอบแทน จะมีความน่าเชื่อถือได้อย่างไร จะมาทำไม ใครจะอยากฟัง จะไปรู้เรื่องอะไร และไม่มีความน่าเชื่อถือ” นายพรเพชร กล่าว
เปิดทาง “ปู” หนีบลิ่วล้อมาด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาจมอบหมายให้อดีตรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวมาตอบคำถามแทนได้หรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า เอาเข้ามาได้ หากเรื่องใดที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่แน่ใจ ก็อาจจะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องตอบแทน แต่ต้องขออนุญาตตนก่อนว่า จะอนุญาตหรือไม่
นายพรเพชร กล่าวอีกว่า ส่วนตัวเห็นว่าแนวคำถามในคดีถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ป.ป.ช.กล่าวหาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ยับยั้งความเสียหายโครงการรับจำนำข้าว เกิดการทุจริต และความเสียหายแก่ประเทศ ก็คงถาม ป.ป.ช.ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ยับยั้งอย่างไร มีหลักฐานใดชี้ชัดว่าไม่มีการยับยั้ง ส่วนคำถามที่จะถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์อาจจะถามว่า การที่ระบุว่าไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น แล้วตัวเลขขาดทุนมาได้อย่างไร ซึ่งเป็นเพียงการยกตัวอย่าง ทั้งนี้ จะถามนอกเหนือประเด็นที่กล่าวหาไมได้ และเมื่อคู่กรณีตอบไปแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ สนช.ว่าจะพิจารณาอย่างไร
สนช.สีกากีปัดข่าวนัดงดออกเสียง
ทางด้าน พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ในฐานะสมาชิก สนช. กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่า สมาชิก สนช.สายทหาร และตำรวจ เตรียมจะงดออกเสียงในการลงมติพิจารณาถอดถอนผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 รายว่า ไม่เป็นความจริง สมาชิก สนช.แต่ละคนมีอิสระในการตัดสินใจ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาของ สนช. ยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ โดยจะต้องรอฟังจากการซักถามผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหาก่อน
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงาน สนช.ฝ่ายรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวภายหลังการประชุมวิปรัฐบาลว่า ในที่ประชุมวิปรัฐบาล ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าทุกเรื่องมันจะมีทางออกของตัวเอง ทุกอย่างขอให้ยึดตามกฎหมาย และไม่คิดว่าจะทำให้การทำงานของรัฐบาลสะดุดลง หากชี้แจงคำอธิบายได้ และประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินทั้งหมด
“ตู่” วอนสื่ออย่าชี้นำถอดถอน
ขณะที่ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกําเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่มีความละเอียดอ่อนและมีความสำคัญ จึงอยากให้สื่อมวลชนเสนอข่าวอย่างรอบคอบและระมัดระวัง อย่าชี้นำต้องให้สังคมตระหนักถึงข้อเท็จจริงว่าที่มีการร้องให้มีการถอดถอนในขณะนี้ ร้องกันในประเด็นอะไร และฝ่ายที่ตอบคำถามนั้น ตอบตรงหรือไม่ หากตอบตรง สนช.ก็เทคะแนนให้ แต่ถ้าไม่ตรงก็เทคะแนนให้อีกฝั่ง ต้องการให้ดูว่าการทำงานของแต่ละฝ่ายนั้นเป็นอย่างไร
“ชายจืด” ช่วยแถไร้ความผิด
อีกด้าน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในระหว่างเปิดบ้านให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยเข้าอวยพรปีใหม่ว่า ได้ติดตามกระบวนการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ มองว่าไม่น่าเป็นห่วงอะไร เพราะเชื่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์สามารถชี้แจงได้ ส่วนตัวก็ไม่เห็นมีอะไรที่เป็นความผิด ความจริงเป็นเรื่องที่ชี้แจงไม่ยาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นคนมีหลักมีเกณฑ์อยู่แล้ว
ส่วน นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวเช่นเดียวกันว่า เท่าที่ได้ฟังเห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ชี้แจงได้เป็นอย่างดี ทำให้สังคมเข้าใจกระบวนการการทำงานในโครงการดังกล่าว และชี้ให้เห็นว่า ไม่ได้ขาดทุน แต่เป็นการช่วยเหลือเกษตรกร โดยหลักการก็เห็นว่า ไม่ควรมีปัญหาถึงขั้นถูกถอดถอน เพราะสังคมก็จับตาดูอยู่
“ทนายปู” ขอความชัดเจนขั้นตอนซักถาม
ขณะที่ นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เปิดเผยถึงผลการประชุมของคณะที่ปรึกษากฎหมายและทีมทนายต่อกรณีการพิจารณาถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ของ สนช.ว่า ที่ประชุมเห็นตรงกันว่าถ้อยแถลงจากการเปิดคดีของ ป.ป.ช.ไม่มีอะไรใหม่ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ได้แถลงคัดค้านโต้แย้งข้อกล่าวหาครบถ้วนได้ทุกมิติ โดยในวันที่ 13 ม.ค.ทีมทนายจะทำหนังสือถึง ประธาน สนช.เพื่อขอทราบถึงกระบวนการซักถามของกรรมาธิการที่ชัดเจน เนื่องจากมีกระแสข่าวว่า ยังไม่มีการกำหนดรูปแบบ และมีมีข้อถกเถียงในส่วนของข้อบังคับการประชุม สนช. ก่อนที่ทีมทนายจะนัดประชุมกันอีกครั้งในวันที่ 14 ม.ค.นี้ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุม สนช.เพื่อซักถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ในวันที่ 16 ม.ค.ต่อไป