xs
xsm
sm
md
lg

ลากคอผู้ร้ายมาตรา 112

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทักษิณ ชินวัตร
ริมฝั่งเจ้าพระยา
โดย...สุนันท์ ศรีจันทรา

กระทรวงการต่างประเทศเริ่มบทบาทที่ควรจะดำเนินการก่อนหน้าแล้ว โดยเชิญอุปทูตนิวซีแลนด์เข้าพบ เพื่อขอความชัดเจนเกี่ยวกับสถานะของ นายเอกภพ เหลือรา หรือ “ตั้ง อาชีวะ” และกำลังทำความเข้าใจกับอีกหลายประเทศ เกี่ยวกับผู้ต้องหาหลบหนีคดีความผิดตามมาตรา 112 เพื่อขอความร่วมมือส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย

การเคลื่อนไหวตามตัวผู้ร้ายที่หนีความผิดมาตรา 112 ของกระทรวงต่างประเทศ ไม่น่าจะเป็นความสูญเปล่า เพราะจะต้องมีปฏิกิริยาตอบรับในเชิงบวกกลับมา อย่างน้อยจะทำให้ผู้ที่หนีความผิดคดีจาบจ้วงหรือหมิ่นสถาบัน ต้องอยู่ต่างประเทศอย่างหัวหด ต้องหลบๆซ่อนๆ ไม่สามารถโผล่หน้ามาเยาะเย้ยถากถางประชาชนคนไทยทั้งประเทศได้เหมือนที่ผ่านมา

เพราะประเทศที่ยอมให้ผู้ต้องหาเหล่านี้ซุกหัวอยู่ ต้องรู้สึกเกรงใจประเทศไทยขึ้นมาบ้าง ต้องกลัวผลกระทบด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และต้องกำราบผู้ต้องหาปากมอมให้อยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว อย่าสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้เจ้าของประเทศที่ขอเข้าไปหลบหนีกฎหมาย

“ตั้ง อาชีวะ”ป่านนี้คงจะหายบ้าไปแล้ว เพราะเมื่ออุปทูตนิวซีแลนด์ถูกกระทรวงต่างประเทศเรียกพบ และขอคำชี้แจงสถานะของ “ตั้ง” ซึ่งนิวซีแลนด์จะต้องตอบ แต่ต้องกระอักกระอ่วนที่จะตอบ

คนเพียงคนเดียวจากประเทศไทย และไม่มีหัวนอนปลายเท้า แต่กลับทำให้นิวซีแลนด์ทั้งประเทศเดือดร้อน รัฐบาลนิวซีแลนด์ต้องคิดบ้างละ

อุ้ม “ตั้ง อาชีวะ” เข้ามา ไม่คุ้มเสียแล้ว เพราะคนนิวซีแลนด์ไม่ค่อยพอใจที่รัฐบาลรับผู้ต้องหาหนีคดีสำคัญจากประเทศไทยไว้เลี้ยงดู

คนไทยในนิวซีแลนด์ก็ลุกออกมาเคลื่อนไหว เรียกร้องให้รัฐบาลขับ “ตั้ง อาชีวะ” ออกจากประเทศ

ถ้า “ตั้ง อาชีวะ” หลบไปอยู่ในนิวซีแลนด์อย่างเงียบๆ ไม่ทำตัวเป็นข่าว อาจได้อยู่อย่างสุขสบาย เพราะไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ไหน แต่ “ตั้ง อาชีวะ” เป็นคนอยู่ไม่สุข ชอบอวดศักดา และคุยโวจงใจเยาะเย้ยประเทศไทย โดยเผยแพร่คลิปอวด “พาสปอร์ต” จนรัฐบาลนิวซีแลนด์ต้องแบกรับแรงกดดันจากคนไทยและประเทศไทย

กระทรวงต่างประเทศอาจจะดำเนินขั้นตอนชี้แจงความเข้าใจเกี่ยวกับผู้ต้องหาความผิดตามมาตรา 112 ช้าไปหน่อย แต่ก็ดีกว่า ไม่ยอมทำอะไรเสียเลย เพราะการขอความร่วมมือไปยังนานาประเทศที่ให้ที่พักพิงผู้ร้ายหนีคดีร้ายแรงครั้งนี้ จะผลตอบรับที่ดีกลับมาแน่

เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้เฉยชากับกลุ่มคนที่กระทำความผิดตามมาตรา 112 และหนีคดีไปต่างประเทศ ซึ่งมีอยู่จำนวนมาก และเป็นเครือข่ายกลุ่มคนเสื้อแดงทั้งสิ้น

และการตามล่าคนหนีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ อาจขยายผลไปถึงนักโทษหนีคดีอื่นๆด้วย แม้ว่าจะยังไม่ถูกหยิบยกมาพูดถึงมากนักก็ตาม โดยเฉพาะนักการเมืองที่ถูกพิพากษาลงโทษคดีทุจริต ไม่ว่าจะเป็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายวัฒนา อัศวเหม และนายประชา มาลีนนท์

ผู้ต้องการและนักโทษที่รัฐบาลไทยต้องการตัว ส่วนใหญ่ไม่มีใครรู้ว่า แอบซุกหัวอยู่ในประเทศใดบ้าง แต่สำหรับ “ตั้ง อาชีวะ” มีที่พักพิงชัดเจน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ จะต้องพุ่งเป้า เริ่มต้นโดยการนำตัว “ตั้ง” กลับมาติดคุกประเดิมเป็นคนแรก ก่อนขยายผลไปสู่ผู้ที่หนีความผิดคนอื่นๆ

รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์จะต้องไม่ละเว้นหรือเลือกปฏิบัติกับนักโทษและผู้ต้องหาคนใด ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่เพียงใดก็ตาม เพราะเวลานี้ ไม่มีใครใหญ่เกินกว่า พล.อ.ประยุทธ์แล้ว

จะปล่อยให้นักโทษที่กระทำความผิด และไม่ยอมสำนึกในความผิด แต่กลับป้วนเปี้ยนวนเวียน สร้างความปั่นป่วนให้ประเทศ เดินลอยนวลอยู่นอกประเทศได้อย่างไร

ไม่มีความจำเป็นต้องรอฤกษ์รอชัยต่อไปแล้ว เริ่มกระบวนการตามลากคอกลับมาลงโทษได้ทันที และจะเป็นอีกบทพิสูจน์หนึ่งในผลงานของ พล.อ.ประยุทธ์

ประกาศจับผู้ร้ายหนีคดีไปต่างประเทศออกมาแล้ว ประชาชนมีหน้าที่ติดตามดูต่อไปว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์จะลากคอใครกลับมาติดคุกชดใช้ความผิดได้สักคนหรือไม่


ตั้ง อาชีวะ
ประชา มาลีนนท์
วัฒนา อัศวเหม
กำลังโหลดความคิดเห็น