พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมประกาศแล้ว จะติดตามผู้กระทำความผิดมาตรา 112 ที่หนีไปต่างประเทศ นำตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศ โดยไม่ได้ระบุถึงนักโทษที่หนีคดีอื่นๆ ด้วยหรือไม่
การไล่ล่าผู้ที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพและหลบหนีไปต่างประเทศนั้น เกิดขึ้นพร้อมกับข่าว นายเอกภพ เหลือรา หรือ “ตั้ง อาชีวะ” เพิ่งโพสต์ภาพอยู่ในประเทศนิวซีแลนด์ อ้างว่า ได้เป็นพลเมืองนิวซีแลนด์แล้ว และมีหนังสือเดินทางของนิวซีแลนด์ ซึ่งจะเดินทางไปไหนได้อย่างอิสระเสรี
“ตั้ง อาชีวะ” ได้เป็นพลเมืองนิวซีแลนด์จริงหรือไม่ ยังไม่เป็นที่ยืนยัน นอกจากราคาคุยโวของ “นายตั้ง” เท่านั้น และแม้จะเป็นพลเมืองนิวซีแลนด์ไปแล้ว แต่ความผิดที่ก่อไว้ยังคงอยู่ และรัฐบาลสามารถยื่นข้อเรียกร้องไปยังนิวซีแลนด์ ขอให้ส่งตัวกลับมาดำเนินคดีได้
“ตั้ง อาชีวะ” ชอบส่งข้อความมาเยาะเย้ย ส่งภาพมาถากถางความรู้สึกของคนไทย โดยไม่สำนึกความผิดตัวเอง ควรอย่างยิ่งที่จะต้องเปิดยุทธการไล่ล่าให้สมกับความ “แสบ” และแสดงให้เห็นว่า
คนเสื้อแดงปากมอมรายนี้จะมีใครหนุนหลัง จะมีใครให้ท้าย จะมีใครชุบเลี้ยงไว้ก็ตาม แต่ความผิดที่ก่อไว้ใหญ่หลวงนัก และต้องลากคอมาลงโทษให้ได้
การเร่งรัดติดตามตัวผู้ต้องหาความผิดตามมาตรา 112 ที่หนีออกนอกประเทศนั้น ไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมคนทั้งประเทศจึงสนับสนุน เพราะไม่มีใครต้องการปล่อยให้คนปาก “พล่อย” ลอยนวล
แต่ก็ยังมีคนติดใจอยู่ ทำไมรัฐบาลจึงต้องตีเส้นการไล่ล่าคนหนีคดีอยู่นอกประเทศเฉพาะความผิดตามมาตรา 112 เท่านั้น
เหตุใดจึงไม่ขยายผลไปถึงนักโทษในคดีอื่นทั้งหมด ไม่เว้นคดีความผิดในการทุจริต หรือความผิดทางการเมือง
นายวัฒนา อัศวเหม ซึ่งถูกตัดสินความผิดการทุจริตโครงการบำบัดน้ำเสียคลองด่าน นายประชา มาลีนนท์ ซึ่งถูกตัดสินความผิดทุจริตจัดซื้อเรือและรถดับเพลิง รวมทั้งแม้แต่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คดีความผิดทุจริตประมูลซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก รัฐบาลจะปล่อยนักการเมืองทั้ง 3 รายลอยนวลหรือ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่คิดจะสั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบไล่ล่าอดีตนักการเมืองที่สร้างความเสียหายให้ประเทศบ้างหรือ
มีอะไรที่คนอย่างพล.อ.ประยุทธ์ต้องเกรงใจนักการเมืองเลวๆ ไม่มีเหตุอันควรใดที่ต้องละเว้นพ.ต.ท.ทักษิณ
และตั้งแต่หนีความผิดออกนอกประเทศ พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่เคยหยุดความเคลื่อนไหวทางการเมือง ไม่เคยอยู่สงบ โดยอยู่เบื้องหลังบงการก่อความวุ่นวายทางการเมืองในหลายกรณี แต่ไม่เคยมีใครกล้าประกาศไล่ล่าพ.ต.ท.ทักษิณ แม้จะโผล่หัวอยู่ประเทศเพื่อนบ้านบ่อยครั้งก็ตาม
ถ้าจะประกาศไล่ล่าพ.ต.ท.ทักษิณย่างจริงจัง อาจจะได้ตัวกลับมาเข้าคุกโดยไม่ยาก หรืออย่างน้อยก็ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ไม่เป็นสุข เพราะต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ
จะเที่ยวเดินทางโชว์ตัวอย่างเปิดเผยตามประเทศเพื่อนบ้านเหมือนปัจจุบันไม่ ได้ เพราะจะถูกกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไล่ประชิด หรือถูกประเทศที่หนีไปซุกหัวอยู่ไล่ตะเพิดก็ได้ เพื่อรักษาความสัมพันธ์กับประเทศไทย
การประกาศยุทธการไล่ล่า จะทำให้พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ไม่ป็นสุข จะทำเป็น “ซ่า”เที่ยวบงการพรรคเพื่อไทย เที่ยวบงการรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์เหมือนที่ผ่านมาไม่ได้แล้ว ต้องพยายามซุกหัวหมกตัวอยู่เงียบๆ เพียงประการเดียว
พ.ต.ท.ทักษิณที่บงการรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ได้อย่างย่ามใจ เพราะไม่ต้องกลัวว่า หน่วยงานไหนจะไล่ล่า ในเมื่อคุมอำนาจไว้หมด ข้าราชการแต่ละหน่วยงานแทบอยู่ภายใต้ฝ่าเท้า
แต่ยุคนี้เป็นยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คุมอำนาจ ไม่มีใครใหญ่กว่า คสช.แล้ว ไม่มีใครกล้าหือกับ คสช. แต่สิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้ประชาชนคือ
พล.อ.ประยุทธ์กลัวอะไรพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ มีลับลมคมในอะไรกับพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ เพราะไม่แตะนักโทษชาย “ทักษิณ” แต่อย่างใด
ยศก็ไม่ยอมถอด ไม่มีการสั่งการใดๆ เพื่อติดตามและติดต่อให้ประเทศต่างๆ ส่งพ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาติดคุกในประเทศไทย
ไหนๆ ก็จะต้องเหนื่อยในการตามกวาดล้างนักโทษที่หนีคดีมาตรา 112 กันแล้ว ขยายผลรวมไปถึงนักโทษในคดีอื่นๆ ไปรวดเดียวกันไม่ดีกว่าหรือ
ลากคอผู้ร้าย อาชญากร และนักการเมืองที่โกงบ้านโกงเมืองมาลงโทษให้สาสมความผิดไม่ดีกว่าหรือ ไม่จำเป็นต้องปรานี
เพราะไม่มีใครทำประโยชน์ให้ประเทศ บางคนยังไม่เลิก ลด ละพฤติกรรมเลวๆ จึงต้องไล่ล่าให้หนีหัวซุกหัวซุน จนไม่มีปัญญาคิดร้ายกับบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง
การไล่ล่าผู้ที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพและหลบหนีไปต่างประเทศนั้น เกิดขึ้นพร้อมกับข่าว นายเอกภพ เหลือรา หรือ “ตั้ง อาชีวะ” เพิ่งโพสต์ภาพอยู่ในประเทศนิวซีแลนด์ อ้างว่า ได้เป็นพลเมืองนิวซีแลนด์แล้ว และมีหนังสือเดินทางของนิวซีแลนด์ ซึ่งจะเดินทางไปไหนได้อย่างอิสระเสรี
“ตั้ง อาชีวะ” ได้เป็นพลเมืองนิวซีแลนด์จริงหรือไม่ ยังไม่เป็นที่ยืนยัน นอกจากราคาคุยโวของ “นายตั้ง” เท่านั้น และแม้จะเป็นพลเมืองนิวซีแลนด์ไปแล้ว แต่ความผิดที่ก่อไว้ยังคงอยู่ และรัฐบาลสามารถยื่นข้อเรียกร้องไปยังนิวซีแลนด์ ขอให้ส่งตัวกลับมาดำเนินคดีได้
“ตั้ง อาชีวะ” ชอบส่งข้อความมาเยาะเย้ย ส่งภาพมาถากถางความรู้สึกของคนไทย โดยไม่สำนึกความผิดตัวเอง ควรอย่างยิ่งที่จะต้องเปิดยุทธการไล่ล่าให้สมกับความ “แสบ” และแสดงให้เห็นว่า
คนเสื้อแดงปากมอมรายนี้จะมีใครหนุนหลัง จะมีใครให้ท้าย จะมีใครชุบเลี้ยงไว้ก็ตาม แต่ความผิดที่ก่อไว้ใหญ่หลวงนัก และต้องลากคอมาลงโทษให้ได้
การเร่งรัดติดตามตัวผู้ต้องหาความผิดตามมาตรา 112 ที่หนีออกนอกประเทศนั้น ไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมคนทั้งประเทศจึงสนับสนุน เพราะไม่มีใครต้องการปล่อยให้คนปาก “พล่อย” ลอยนวล
แต่ก็ยังมีคนติดใจอยู่ ทำไมรัฐบาลจึงต้องตีเส้นการไล่ล่าคนหนีคดีอยู่นอกประเทศเฉพาะความผิดตามมาตรา 112 เท่านั้น
เหตุใดจึงไม่ขยายผลไปถึงนักโทษในคดีอื่นทั้งหมด ไม่เว้นคดีความผิดในการทุจริต หรือความผิดทางการเมือง
นายวัฒนา อัศวเหม ซึ่งถูกตัดสินความผิดการทุจริตโครงการบำบัดน้ำเสียคลองด่าน นายประชา มาลีนนท์ ซึ่งถูกตัดสินความผิดทุจริตจัดซื้อเรือและรถดับเพลิง รวมทั้งแม้แต่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คดีความผิดทุจริตประมูลซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก รัฐบาลจะปล่อยนักการเมืองทั้ง 3 รายลอยนวลหรือ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่คิดจะสั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบไล่ล่าอดีตนักการเมืองที่สร้างความเสียหายให้ประเทศบ้างหรือ
มีอะไรที่คนอย่างพล.อ.ประยุทธ์ต้องเกรงใจนักการเมืองเลวๆ ไม่มีเหตุอันควรใดที่ต้องละเว้นพ.ต.ท.ทักษิณ
และตั้งแต่หนีความผิดออกนอกประเทศ พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่เคยหยุดความเคลื่อนไหวทางการเมือง ไม่เคยอยู่สงบ โดยอยู่เบื้องหลังบงการก่อความวุ่นวายทางการเมืองในหลายกรณี แต่ไม่เคยมีใครกล้าประกาศไล่ล่าพ.ต.ท.ทักษิณ แม้จะโผล่หัวอยู่ประเทศเพื่อนบ้านบ่อยครั้งก็ตาม
ถ้าจะประกาศไล่ล่าพ.ต.ท.ทักษิณย่างจริงจัง อาจจะได้ตัวกลับมาเข้าคุกโดยไม่ยาก หรืออย่างน้อยก็ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ไม่เป็นสุข เพราะต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ
จะเที่ยวเดินทางโชว์ตัวอย่างเปิดเผยตามประเทศเพื่อนบ้านเหมือนปัจจุบันไม่ ได้ เพราะจะถูกกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไล่ประชิด หรือถูกประเทศที่หนีไปซุกหัวอยู่ไล่ตะเพิดก็ได้ เพื่อรักษาความสัมพันธ์กับประเทศไทย
การประกาศยุทธการไล่ล่า จะทำให้พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ไม่ป็นสุข จะทำเป็น “ซ่า”เที่ยวบงการพรรคเพื่อไทย เที่ยวบงการรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์เหมือนที่ผ่านมาไม่ได้แล้ว ต้องพยายามซุกหัวหมกตัวอยู่เงียบๆ เพียงประการเดียว
พ.ต.ท.ทักษิณที่บงการรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ได้อย่างย่ามใจ เพราะไม่ต้องกลัวว่า หน่วยงานไหนจะไล่ล่า ในเมื่อคุมอำนาจไว้หมด ข้าราชการแต่ละหน่วยงานแทบอยู่ภายใต้ฝ่าเท้า
แต่ยุคนี้เป็นยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คุมอำนาจ ไม่มีใครใหญ่กว่า คสช.แล้ว ไม่มีใครกล้าหือกับ คสช. แต่สิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้ประชาชนคือ
พล.อ.ประยุทธ์กลัวอะไรพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ มีลับลมคมในอะไรกับพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ เพราะไม่แตะนักโทษชาย “ทักษิณ” แต่อย่างใด
ยศก็ไม่ยอมถอด ไม่มีการสั่งการใดๆ เพื่อติดตามและติดต่อให้ประเทศต่างๆ ส่งพ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาติดคุกในประเทศไทย
ไหนๆ ก็จะต้องเหนื่อยในการตามกวาดล้างนักโทษที่หนีคดีมาตรา 112 กันแล้ว ขยายผลรวมไปถึงนักโทษในคดีอื่นๆ ไปรวดเดียวกันไม่ดีกว่าหรือ
ลากคอผู้ร้าย อาชญากร และนักการเมืองที่โกงบ้านโกงเมืองมาลงโทษให้สาสมความผิดไม่ดีกว่าหรือ ไม่จำเป็นต้องปรานี
เพราะไม่มีใครทำประโยชน์ให้ประเทศ บางคนยังไม่เลิก ลด ละพฤติกรรมเลวๆ จึงต้องไล่ล่าให้หนีหัวซุกหัวซุน จนไม่มีปัญญาคิดร้ายกับบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง