รอยเตอร์/เอพี/เอเอฟพี/เอเจนซีส์-ระดมค้นหาซากเครื่องบินและร่างผู้เสียชีวิตสายการบินแอร์เอเชียเที่ยวบิน QZ8501 ตกต่อเป็นวันที่ 4 เจออุปสรรคจากสภาพอากาศเลวร้าย ทั้งลมแรง คลื่นสูง แต่ยังพบศพเพิ่ม อินโดนีเซียเริ่มกระบวนการไต่สวน พบเครื่องบินดิ่งหลังขอไต่ระดับ แต่ยังไม่ฟันธง รอตรวจกล่องดำก่อน
วานนี้ (31 ธ.ค.) ปฏิบัติการค้นหาเครื่องบินแอร์เอเชีย และกู้ศพผู้โดยสารและลูกเรือ รวม 162 คน ของสายการบินแอร์เอเชียเที่ยวบินที่ QZ8501 ที่สูญหายไปตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.2557 ระหว่างการเดินทางจากเมืองสุราบายาของอินโดนีเซีย มุ่งหน้าไปยังสิงคโปร์ ได้เริ่มขึ้นอีกครั้งเป็นวันที่ 4 หลังจากเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการพบศพแล้วหลายศพ และยังพบชิ้นส่วนขนาดใหญ่ของเครื่องบิน ที่มีลักษณะคล้ายประตูเครื่องบิน สไลเดอร์ฉุกเฉิน กระเป๋าเดินทาง เสื้อชูชีพ ลอยอยู่บริเวณนอกฝั่งเกาะกาลิมันตัน
นายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย แถลงที่เมืองสุราบายา ขอบคุณประเทศต่างๆ ที่ให้ความช่วยเหลืออินโดนีเซีย ด้วยการส่งเรือ เครื่องบิน และเฮลิคอปเตอร์ เข้าร่วมปฏิบัติการค้นหาเครื่องบินของสายการบินแอร์เอเชีย ที่หายสาบสูญไปตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีได้ให้คำมั่นกับครอบครัวของผู้โดยสารว่า รัฐบาลอินโดนีเซีย และสำนักงานค้นหาและกู้ภัยของอินโดนีเซียจะมุ่งหน้าค้นหาเครื่องบินต่อไปอย่างสุดความสามารถ
***อากาศเลวร้ายเป็นอุปสรรคทีมค้นหา
รายงานข่าวระบุว่า สภาพอากาศที่แปรปรวนและเลวร้าย ทั้งกระแสลมที่พัดแรง รวมทั้งคลื่นในทะเลที่มีความสูง 2-3 เมตรกลายเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับทีมค้นหาในการเข้าถึงจุดที่เที่ยวบิน QZ8501 ของแอร์เอเชียตกสู่ทะเล
โดยล่าสุดทีมค้นหา สามารถพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 3 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีร่างไร้วิญญาณของแอร์โฮสเตสสาวรายหนึ่งของแอร์เอเชียรวมอยู่ด้วย โดยทีมค้นหาพบร่างของเธอ ซึ่งยังคงอยู่ในชุดยูนิฟอร์มของสายการบินลอยอยู่บนผิวน้ำไม่ไกลจากจุดที่เครื่องบินตก
อย่างไรก็ดี สภาพอากาศที่เลวร้ายส่งผลให้ภารกิจของทีมค้นหาดำเนินไปได้อย่างล่าช้า และส่งผลให้เพิ่งมีการพบร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดประมาณ 6 ศพเท่านั้น จากการเปิดเผยของฟรานซิสกุส บัมบัง โซลิสตีโย หัวหน้าหน่วยงานค้นหาและกู้ภัยภารกิจครั้งนี้
***คาดเครื่องบินแตกหลังกระแทกน้ำ
นีล แฮนส์ฟอร์ด อดีตนักบินมากประสบการณ์และประธานของบริษัทที่ปรึกษาด้านการบิน Strategic Aviation Solutions ซึ่งมีฐานอยู่ในเขตปกครองพิเศษฮ่องกงออกมาให้ความเห็นว่า ข้อมูลจากสภาพของเศษซากเครื่องบินที่พบ บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่ว่า เครื่องบินแอร์บัส เอ320-200 ของสายการบินแอร์เอเชียเที่ยวบินดังกล่าว น่าจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ หลังจากที่เครื่องตกกระแทกผิวน้ำด้วยความเร็วสูง มากกว่าที่จะระเบิดกลางอากาศ
***สหรัฐฯส่งเรือพิฆาตเข้าร่วมภารกิจ
อีกด้านหนึ่งมีรายงานว่ากองทัพสหรัฐฯ เตรียมส่งเรือพิฆาตยูเอสเอส แซมป์สัน และเรือประจัญบานยูเอสเอสฟอร์ทเวิร์ธเข้าร่วมภารกิจค้นหาและกู้ภัยซึ่งขึ้นตรงต่อศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในอินโดนีเซีย ส่งผลให้ในขณะนี้ มีเรือจำนวนประมาณ 30 ลำ และเครื่องบินแบบต่างๆ 21 ลำทั้งจากอินโดนีเซีย ออสเตรเลีย มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้และสหรัฐฯ เข้าร่วมในภารกิจค้นหาเศษซากของเที่ยวบิน QZ8501 รวมถึงร่างผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้
***เผยเหตุเครื่องบินดิ่งหลังไต่ระดับ
มีรายงานซึ่งอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดที่เปิดเผยต่อทีมสืบสวนเหตุเครื่องบินสายการบินแอร์เอเชียดิ่งลงสู่ทะเลนอกชายฝั่งอินโดนีเซีย โดยระบุหนึ่งในกรอบการสืบสวนขั้นต้น ก็คือ การหาความชัดเจนว่านักบินได้ร้องขอไต่ระดับเพดานบินขึ้นไป หรือเริ่มไต่ระดับความสูงขึ้นไปเองในกรณีที่เจอเหตุฉุกเฉิน และการหาข้อสรุปว่าพายุที่ก่อตัวอยู่ในพื้นที่ในวันเกิดเหตุมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรหรือไม่ในโศกนาฏกรรมครั้งนี้
"ขณะนี้เรารู้เพียงว่าในพื้นที่เกิดเหตุมีสภาพอากาศเลวร้าย และมีพายุ แต่เราไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดนักบิน ถึงร้องขอไต่ระดับเพดานบินในจังหวะเวลาเช่นนั้น เรายังคงมีข้อสงสัยว่าเขาควรไต่ระดับขึ้นก่อนหน้านั้นหรือไม่ และมีเครื่องบินลำอื่นบินอยู่ในระดับที่สูงกว่าในพื้นที่ดังกล่าวหรือเปล่า นอกจากนั้น นักบินทั้งสองมีปฏิกิริยาอย่างไรกับสภาพอากาศ ซึ่งประเด็นทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่เรากำลังตั้งคำถามและพยายามหาคำตอบให้ได้โดยเร็ว" แหล่งข่าวเผย
ทั้งนี้ ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่อินโดนีเซีย ระบุว่า ณ เวลา 06.12 น.ของวันอาทิตย์ที่ 28ธ.ค. หรือ 36 นาทีหลังขึ้นบินจากท่าอากาศยานเมืองสุราบายา นักบินของเที่ยวบิน QZ8501 ที่มุ่งหน้าสู่สิงคโปร์ ได้ร้องขออนุญาตจากหอบังคับการบินที่กรุงจาการ์ตา ไต่ระดับขึ้นไปอีก 6,000 ฟุตสู่ความสูงที่ระดับ 38,000 ฟุต และเบี่ยงออกซ้ายเพื่อหลีกเลี่ยงสภาพอากาศอันเลวร้าย โดยในอีก 2 นาทีต่อมา ทางจาการ์ตาได้ตอบสนองต่อคำขอของเที่ยวบิน QZ8501 ด้วยการบอกให้เครื่องบินลำนี้ไปทางซ้าย ราว 11 กิโลเมตร และไต่ระดับสูงความสูง 34,000 ฟุต แต่ไม่มีเสียงขานรับใดๆ จากนักบิน ขณะที่เรดาร์ของหอบังคับการบินสามารถจับความเคลื่อนไหวของเครื่องบินได้ อีกราวๆ 3 นาทีหลังจากนั้น ก่อนที่มันจะสูญหายไปตอนเวลา 06.18 น.
ด้านคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติอินโดนีเซีย (เอ็นทีเอสซี) ถูกวางให้เป็นผู้นำการสืบสวนหาต้นตอของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินของแอร์เอเชียลำนี้ โดยมีจะมีตัวแทนจากสหรัฐฯ ฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักรเข้าร่วมด้วย
อย่างไรก็ตาม ด้วยที่ยังหากล่องบันทึกการบินกล่องดำไม่พบ จึงเร็วเกินไปที่จะสรุปถึงต้นตอของโศกนาฏกรรม
***เพื่อนบ้าน-เพื่อนร่วมงานยันกัปตันฝีมือดี
สื่อในอินโดนีเซียนำเสนอรายงานว่า บรรดาเพื่อนบ้านและเพื่อนร่วมงาน ต่างยืนยันว่า กัปตันอิริยันโต วัย 53 ปี ที่เป็นผู้ควบคุมเครื่องบินแอร์เอเชียลำดังกล่าว ถือเป็นหนึ่งในนักบินเครื่องบินรบฝีมือดีที่สุดคนหนึ่งของประเทศ ก่อนที่จะลาออกจากกองทัพเพื่อมาเป็นนักบินสายการบินพาณิชย์ในปี 2551 ก่อนจะมาร่วมงานกับแอร์เอเชีย เมื่อราว 3 ปีก่อน
ทั้งนี้ อิริยันโต เริ่มต้นอาชีพนักบิน ด้วยการบินเครื่องบินขับไล่แบบ F-5 และ F-16 หลังจบการศึกษาจากโรงเรียนนักบินกองทัพอากาศ Adi Sucipto ซึ่งเป็นสถาบันที่ผลิตนักบินชั้นดีให้กับกองทัพเมื่อ 21 ปีก่อน ซึ่งอดีตครูฝึกของเขาบอกว่าอิริยันโต เป็นหนึ่งในนักเรียนที่เก่งที่สุด
***โซนาร์จับพิกัดQZ8501 ได้แล้ว
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า เครื่องโซนาร์ของทีมกู้ภัยอินโดนีเซีย สามารถจับพิกัดของซากเครื่องบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน QZ8501 ที่จมลงใต้ทะเลชวาได้แล้ว แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า เครื่องบินลำดังกล่าวอยู่ในสภาพแตกหัก หรือยังคงสภาพเป็นชิ้นเดียวกันอยู่ ภายหลังจากมีการพบเศษชิ้นส่วนของเครื่องบิน รวมทั้งผู้เสียชีวิตบางส่วน เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังมีการเรียกระดมเจ้าหน้าที่ไปที่สนามบินสุบารายา เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการให้บรรดาญาติผู้สูญเสีย ตรวจ DNA สำหรับนำไปใช้ในการตรวจเอกลักษณ์บุคคลแล้ว
วานนี้ (31 ธ.ค.) ปฏิบัติการค้นหาเครื่องบินแอร์เอเชีย และกู้ศพผู้โดยสารและลูกเรือ รวม 162 คน ของสายการบินแอร์เอเชียเที่ยวบินที่ QZ8501 ที่สูญหายไปตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.2557 ระหว่างการเดินทางจากเมืองสุราบายาของอินโดนีเซีย มุ่งหน้าไปยังสิงคโปร์ ได้เริ่มขึ้นอีกครั้งเป็นวันที่ 4 หลังจากเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการพบศพแล้วหลายศพ และยังพบชิ้นส่วนขนาดใหญ่ของเครื่องบิน ที่มีลักษณะคล้ายประตูเครื่องบิน สไลเดอร์ฉุกเฉิน กระเป๋าเดินทาง เสื้อชูชีพ ลอยอยู่บริเวณนอกฝั่งเกาะกาลิมันตัน
นายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย แถลงที่เมืองสุราบายา ขอบคุณประเทศต่างๆ ที่ให้ความช่วยเหลืออินโดนีเซีย ด้วยการส่งเรือ เครื่องบิน และเฮลิคอปเตอร์ เข้าร่วมปฏิบัติการค้นหาเครื่องบินของสายการบินแอร์เอเชีย ที่หายสาบสูญไปตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีได้ให้คำมั่นกับครอบครัวของผู้โดยสารว่า รัฐบาลอินโดนีเซีย และสำนักงานค้นหาและกู้ภัยของอินโดนีเซียจะมุ่งหน้าค้นหาเครื่องบินต่อไปอย่างสุดความสามารถ
***อากาศเลวร้ายเป็นอุปสรรคทีมค้นหา
รายงานข่าวระบุว่า สภาพอากาศที่แปรปรวนและเลวร้าย ทั้งกระแสลมที่พัดแรง รวมทั้งคลื่นในทะเลที่มีความสูง 2-3 เมตรกลายเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับทีมค้นหาในการเข้าถึงจุดที่เที่ยวบิน QZ8501 ของแอร์เอเชียตกสู่ทะเล
โดยล่าสุดทีมค้นหา สามารถพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 3 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีร่างไร้วิญญาณของแอร์โฮสเตสสาวรายหนึ่งของแอร์เอเชียรวมอยู่ด้วย โดยทีมค้นหาพบร่างของเธอ ซึ่งยังคงอยู่ในชุดยูนิฟอร์มของสายการบินลอยอยู่บนผิวน้ำไม่ไกลจากจุดที่เครื่องบินตก
อย่างไรก็ดี สภาพอากาศที่เลวร้ายส่งผลให้ภารกิจของทีมค้นหาดำเนินไปได้อย่างล่าช้า และส่งผลให้เพิ่งมีการพบร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดประมาณ 6 ศพเท่านั้น จากการเปิดเผยของฟรานซิสกุส บัมบัง โซลิสตีโย หัวหน้าหน่วยงานค้นหาและกู้ภัยภารกิจครั้งนี้
***คาดเครื่องบินแตกหลังกระแทกน้ำ
นีล แฮนส์ฟอร์ด อดีตนักบินมากประสบการณ์และประธานของบริษัทที่ปรึกษาด้านการบิน Strategic Aviation Solutions ซึ่งมีฐานอยู่ในเขตปกครองพิเศษฮ่องกงออกมาให้ความเห็นว่า ข้อมูลจากสภาพของเศษซากเครื่องบินที่พบ บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่ว่า เครื่องบินแอร์บัส เอ320-200 ของสายการบินแอร์เอเชียเที่ยวบินดังกล่าว น่าจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ หลังจากที่เครื่องตกกระแทกผิวน้ำด้วยความเร็วสูง มากกว่าที่จะระเบิดกลางอากาศ
***สหรัฐฯส่งเรือพิฆาตเข้าร่วมภารกิจ
อีกด้านหนึ่งมีรายงานว่ากองทัพสหรัฐฯ เตรียมส่งเรือพิฆาตยูเอสเอส แซมป์สัน และเรือประจัญบานยูเอสเอสฟอร์ทเวิร์ธเข้าร่วมภารกิจค้นหาและกู้ภัยซึ่งขึ้นตรงต่อศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในอินโดนีเซีย ส่งผลให้ในขณะนี้ มีเรือจำนวนประมาณ 30 ลำ และเครื่องบินแบบต่างๆ 21 ลำทั้งจากอินโดนีเซีย ออสเตรเลีย มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้และสหรัฐฯ เข้าร่วมในภารกิจค้นหาเศษซากของเที่ยวบิน QZ8501 รวมถึงร่างผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้
***เผยเหตุเครื่องบินดิ่งหลังไต่ระดับ
มีรายงานซึ่งอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดที่เปิดเผยต่อทีมสืบสวนเหตุเครื่องบินสายการบินแอร์เอเชียดิ่งลงสู่ทะเลนอกชายฝั่งอินโดนีเซีย โดยระบุหนึ่งในกรอบการสืบสวนขั้นต้น ก็คือ การหาความชัดเจนว่านักบินได้ร้องขอไต่ระดับเพดานบินขึ้นไป หรือเริ่มไต่ระดับความสูงขึ้นไปเองในกรณีที่เจอเหตุฉุกเฉิน และการหาข้อสรุปว่าพายุที่ก่อตัวอยู่ในพื้นที่ในวันเกิดเหตุมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรหรือไม่ในโศกนาฏกรรมครั้งนี้
"ขณะนี้เรารู้เพียงว่าในพื้นที่เกิดเหตุมีสภาพอากาศเลวร้าย และมีพายุ แต่เราไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดนักบิน ถึงร้องขอไต่ระดับเพดานบินในจังหวะเวลาเช่นนั้น เรายังคงมีข้อสงสัยว่าเขาควรไต่ระดับขึ้นก่อนหน้านั้นหรือไม่ และมีเครื่องบินลำอื่นบินอยู่ในระดับที่สูงกว่าในพื้นที่ดังกล่าวหรือเปล่า นอกจากนั้น นักบินทั้งสองมีปฏิกิริยาอย่างไรกับสภาพอากาศ ซึ่งประเด็นทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่เรากำลังตั้งคำถามและพยายามหาคำตอบให้ได้โดยเร็ว" แหล่งข่าวเผย
ทั้งนี้ ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่อินโดนีเซีย ระบุว่า ณ เวลา 06.12 น.ของวันอาทิตย์ที่ 28ธ.ค. หรือ 36 นาทีหลังขึ้นบินจากท่าอากาศยานเมืองสุราบายา นักบินของเที่ยวบิน QZ8501 ที่มุ่งหน้าสู่สิงคโปร์ ได้ร้องขออนุญาตจากหอบังคับการบินที่กรุงจาการ์ตา ไต่ระดับขึ้นไปอีก 6,000 ฟุตสู่ความสูงที่ระดับ 38,000 ฟุต และเบี่ยงออกซ้ายเพื่อหลีกเลี่ยงสภาพอากาศอันเลวร้าย โดยในอีก 2 นาทีต่อมา ทางจาการ์ตาได้ตอบสนองต่อคำขอของเที่ยวบิน QZ8501 ด้วยการบอกให้เครื่องบินลำนี้ไปทางซ้าย ราว 11 กิโลเมตร และไต่ระดับสูงความสูง 34,000 ฟุต แต่ไม่มีเสียงขานรับใดๆ จากนักบิน ขณะที่เรดาร์ของหอบังคับการบินสามารถจับความเคลื่อนไหวของเครื่องบินได้ อีกราวๆ 3 นาทีหลังจากนั้น ก่อนที่มันจะสูญหายไปตอนเวลา 06.18 น.
ด้านคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติอินโดนีเซีย (เอ็นทีเอสซี) ถูกวางให้เป็นผู้นำการสืบสวนหาต้นตอของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินของแอร์เอเชียลำนี้ โดยมีจะมีตัวแทนจากสหรัฐฯ ฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักรเข้าร่วมด้วย
อย่างไรก็ตาม ด้วยที่ยังหากล่องบันทึกการบินกล่องดำไม่พบ จึงเร็วเกินไปที่จะสรุปถึงต้นตอของโศกนาฏกรรม
***เพื่อนบ้าน-เพื่อนร่วมงานยันกัปตันฝีมือดี
สื่อในอินโดนีเซียนำเสนอรายงานว่า บรรดาเพื่อนบ้านและเพื่อนร่วมงาน ต่างยืนยันว่า กัปตันอิริยันโต วัย 53 ปี ที่เป็นผู้ควบคุมเครื่องบินแอร์เอเชียลำดังกล่าว ถือเป็นหนึ่งในนักบินเครื่องบินรบฝีมือดีที่สุดคนหนึ่งของประเทศ ก่อนที่จะลาออกจากกองทัพเพื่อมาเป็นนักบินสายการบินพาณิชย์ในปี 2551 ก่อนจะมาร่วมงานกับแอร์เอเชีย เมื่อราว 3 ปีก่อน
ทั้งนี้ อิริยันโต เริ่มต้นอาชีพนักบิน ด้วยการบินเครื่องบินขับไล่แบบ F-5 และ F-16 หลังจบการศึกษาจากโรงเรียนนักบินกองทัพอากาศ Adi Sucipto ซึ่งเป็นสถาบันที่ผลิตนักบินชั้นดีให้กับกองทัพเมื่อ 21 ปีก่อน ซึ่งอดีตครูฝึกของเขาบอกว่าอิริยันโต เป็นหนึ่งในนักเรียนที่เก่งที่สุด
***โซนาร์จับพิกัดQZ8501 ได้แล้ว
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า เครื่องโซนาร์ของทีมกู้ภัยอินโดนีเซีย สามารถจับพิกัดของซากเครื่องบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน QZ8501 ที่จมลงใต้ทะเลชวาได้แล้ว แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า เครื่องบินลำดังกล่าวอยู่ในสภาพแตกหัก หรือยังคงสภาพเป็นชิ้นเดียวกันอยู่ ภายหลังจากมีการพบเศษชิ้นส่วนของเครื่องบิน รวมทั้งผู้เสียชีวิตบางส่วน เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังมีการเรียกระดมเจ้าหน้าที่ไปที่สนามบินสุบารายา เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการให้บรรดาญาติผู้สูญเสีย ตรวจ DNA สำหรับนำไปใช้ในการตรวจเอกลักษณ์บุคคลแล้ว