เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ข้อมูลล่าสุดชี้ การค้นหากล่องดำของเครื่องบินโดยสารสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน “QZ8501” ที่ประสบอุบัติเหตุตกในทะเลชวา นอกชายฝั่งเกาะบอร์เนียว อาจต้องใช้เวลานานนับสัปดาห์ ขณะที่ทีมค้นหาและกู้ภัยยังคงไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มกำลังจากผลพวงของสภาพอากาศที่เลวร้ายและคลื่นลมกำลังแรง
แม้จะมีรายงานการตรวจโดยระบบโซนาร์พบเศษชิ้นส่วนขนาดใหญ่ที่บริเวณก้นทะเล ที่คาดว่าจะเป็นของเครื่องบินลำดังกล่าวของแอร์เอเชีย แต่ทีมนักประดาน้ำยังคงทำได้เพียงการรอประจำการอยู่ที่ฐานในอินโดนีเซีย เนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้ายที่ส่งผลให้ยังไม่สามารถเริ่มภารกิจดำดิ่งลงไปสำรวจชิ้นส่วนปริศนาดังกล่าว ที่อยู่ลึกลงไปในทะเลชวาราว 30-50 เมตร
นอกเหนือจากการค้นหาเศษชิ้นส่วนของเที่ยวบิน QZ8501 แล้ว รายงานข่าวล่าสุดยืนยันว่า การค้นหาร่างของผู้โดยสารและลูกเรือ 162 ชีวิตที่เป็นผู้เคราะห์ร้ายในโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ก็ยังไม่มีความคืบหน้ามากนักในวันพฤหัสบดี (1 ม.ค.) โดยทีมค้นหาเพิ่งพบร่างผู้เสียชีวิตเพียง 7 ราย ท่ามกลางความกังวลของบรรดาญาติมิตรและสมาชิกในครอบครัวของผู้เสียชีวิตที่เกรงว่า ศพของบุคคลอันเป็นที่รักของพวกเขาอาจลอยไกลออกไปจากจุดที่เครื่องตกจนอาจหาไม่พบ หรืออาจตกเป็นอาหารของ “ปลาใหญ่”
ด้านโทนี เฟร์นันเดส ซีอีโอชาวมาเลเซียเชื้อสายอินเดียวัย 50 ปีของแอร์เอเชียและประธานสโมสรฟุตบอล ควีนส์พาร์ค เรนเจอร์สในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ที่ก่อนหน้านี้ออกมาระบุว่า โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับเที่ยวบิน QZ8501 ถือเป็นฝันร้ายที่เลวร้ายย่ำแย่ที่สุด ได้ออกมาเปิดเผยผ่าน “ทวิตเตอร์” แสดงความคาดหวังว่าจะมีการค้นพบกล่องดำและชิ้นส่วนสำคัญๆของเครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุโดยเร็ว
อย่างไรก็ดี ทุส ซานิติโยโซ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางอากาศซึ่งทำงานร่วมกับคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติอินโดนีเซีย(เอ็นทีเอสซี) ออกมาให้ความเห็นว่า อาจต้องรอนานกว่า 1 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย กว่าที่ทีมค้นหาจะพบกล่องดำและอุปกรณ์บันทึกเสียงของนักบิน เนื่องจากจนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดเกี่ยวกับพิกัดที่เครื่องตกสู่ทะเลชวา อีกทั้งยังคงไม่พบสัญญาณใดๆที่อาจถูกส่งออกมาจากกล่องดำด้วยเช่นกัน