เอเจนซีส์ - สมาชิกในครอบครัวของผู้ที่อยู่บนเครื่องบินโดยสารของแอร์เอเชีย เที่ยวบิน QZ8501 พากันคร่ำครวญโหยไห้ด้วยความโศกเศร้าอาลัยในวันอังคาร (30ธ.ค.) ขณะที่ภาพของเศษชิ้นส่วนจากเครื่องบินและศพที่สภาพขึ้นอืด ปรากฏให้เห็นบนจอโทรทัศน์ของอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ยืนยันว่าเครื่องบินลำดังกล่าวที่สูญหายไปตั้งแต่เมื่อ 2 วันก่อนและนานาชาติออกค้นหากันจ้าละหวั่น ได้ตกลงไปในทะเลชวาพร้อมกับผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 162 ชีวิต
เครื่องบินโดยสารแอร์บัส เอ320-200 ของสายการบินโลว์คอสต์ชื่อดังลำนี้สูญหายไปตั้งแต่ตอนเช้าวันอาทิตย์ (28) ภายหลังเผชิญกับกลุ่มเมฆหนาทึบของพายุฝนฟ้าคะนอง ขณะบินมาได้ประมาณครึ่งทางของเที่ยวบินระยะเวลา 2 ชั่วโมงระหว่างสุราบายา เมืองใหญ่อันดับ 2 ของอินโดนีเซีย กับ สิงคโปร์ หลังจากนั้นนานาชาติจึงช่วยกันออกค้นหา โดยใช้ทั้งเครื่องบิน, เฮลิคอปเตอร์, และเรือ รวมหลายสิบลำ
ในวันอังคารซึ่งเป็นวันที่ 3 ของการค้นหา จึงได้พบร่องรอยแรกๆ ของแอร์บัสลำนี้ อันได้แก่ เสื้อชูชีพ 1 ตัว และบานประตูทางออกฉุกเฉิน ในบริเวณทะเลน้ำตื้นห่างเพียงประมาณ 16 กิโลเมตรจากจุดพิกัดที่ได้รับสัญญาณเรดาร์สุดท้ายของเครื่องบินก่อนสูญหายไป ข้าวของอีกอย่างหนึ่งที่พบได้แก่กระเป๋าเดินทางพลาสติกสีฟ้าสดใสใบหนึ่งซึ่งไม่มีร่องรอยขีดข่วนใดๆ เลย ในเวลาต่อมาได้มีการนำชิ้นส่วนภายในเครื่องบินโดยสารลำนี้หลายๆ ชิ้นซึ่งค้นพบ เป็นต้นว่า ถังออกซิเจน, บานประตูทางออกฉุกเฉิน ลำเลียงไปยังเมืองปังคาลันบุน ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ใกล้ที่สุด เพื่อจัดส่งไปตรวจพิสูจน์ต่อไป
ทีมกู้ภัยยังได้พบศพจำนวนหนึ่งด้วย โดยที่เอพีรายงานว่า พลเรือจัตวา ซิกิต เซเตียยันตา ผู้บัญชาการศูนย์การบินนาวี ของฐานทัพอากาศสุราบายา แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่าได้พบศพรวม 6 ศพ ขณะที่เอเอฟพีรายงานว่าในตอนแรก มานาฮัน ซิโมรังกีร์ โฆษกกองทัพเรือบอกว่า วิทยุสื่อสารของทหารเรือระบุว่ามีเรือรบลำหนึ่งสามารถกู้ศพกว่า 40 ศพขึ้นจากทะเล ทว่าต่อมาโฆษกผู้นี้แก้ข่าวว่าข่าวตอนแรกผิดพลาด จริงๆ แล้วกู้ศพขึ้นมาได้เพียง 3 ศพเท่านั้น
จากภาพทางโทรทัศน์ของอินโดนีเซีย แสดงให้เห็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยซึ่งอยู่ในเฮลิคอปเตอร์ที่กำลังบินวนอยู่ข้างบน หย่อนเชือกลงมาเกี่ยวกู้ดึงเอาศพขึ้นไป โดยที่ บัมบัง โซเอลิสต์โย ผู้อำนวยการสำนักงานค้นและและกู้ภัยแห่งชาติ แถลงว่า การกู้ศพต้องเผชิญกับอุปสรรคสำคัญคือคลื่นที่สูงถึง 2-3 เมตรและลมซึ่งพัดแรงมาก
โซเอลิสต์โย ซึ่งอยู่บนเครื่องบินค้นหาลำหนึ่ง ระบุว่ามองห็นสิ่งที่ดูเหมือนกับซากสิ่งของขนาดใหญ่อยู่ใต้น้ำ โดยที่บริเวณนั้นน้ำใสและค่อนข้างตื้น นั่นคือ ลึกประมาณ 20-30 เมตรเท่านั้น ทั้งนี้บริเวณดังกล่าวอยู่ห่างประมาณ 160 กิโลเมตรทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองปังคาลันบุน ซึ่งอยู่ในจังหวัดเซนทรัลกาลิมันตัน บนเกาะบอร์เนียว
ภาพทางโทรทัศน์ที่แสดงให้เห็นการค้นพบเหล่านี้ สร้างความเจ็บปวดรวดร้าวอย่างรวดเร็วไปทั่วทั้งห้องในสนามบินสุราบายา ซึ่งบรรดาญาติๆ กำลังเฝ้ารอข่าวกันอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อภาพแสดงให้เห็นชายที่เหลือเพียงชุดชั้นในผู้หนึ่งลอยผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ในน้ำ โดยที่มีเสื้อปิดคลุมศีรษะของเขาเอาไว้บางส่วน
หลายคนพากันกรีดร้องและร้องไห้คร่ำครวญอย่างควบคุมไม่อยู่ ขณะที่พวกเขาบีบแขนโอบกอดกันและกัน มีชายวัยกลางคนผู้หนึ่งเป็นลมล้มพับไป และถูกเจ้าหน้าที่นำขึ้นเปลหามพาออกไปจากห้อง
ทางด้าน โทนี เฟอร์นันเดซ ซีอีโอของแอร์เอเชีย ได้ทวิตเป็นข้อความว่า “หัวใจของผมเต็มล้นไปด้วยความโศกเศร้าไปกับทุกๆ ครอบครัวซึ่งเกี่ยวข้องอยู่ในเที่ยวบิน QZ8501 ในนามของแอร์เอเชีย ผมของแสดงความเสียใจไว้อาลัยต่อทุกๆ คน คำพูดใดๆ ก็ไม่สามารถแสดงให้เห็นได้ว่าผมนั้นเสียใจขนาดไหน”
สายการบินแอร์เอเชียยังออกคำแถลงฉบับหนึ่ง ขอเชิญสมาชิกในครอบครัวของผู้สูญเสียเดินทางไปยังสุราบายา “ที่ซึ่งทีมงานที่มุ่งอุทิศตนให้การดูแล จะได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบแต่ละครอบครัว เพื่อให้มั่นใจได้ว่าพวกเขาจะได้รับทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการ”
ขณะที่ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ของอินโดนีเซีย แถลงยกย่องทีมค้นหา และบอกว่าเรือรบ 3 ลำกำลังมุ่งหน้าไปยังจุดที่ค้นพบซากสิ่งของจากเครื่องบิน
“พรุ่งนี้จะมีการค้นหาอย่างขนานใหญ่โดยเรือและเฮลิคอปเตอร์หลายๆ ลำ” เขาแถลงข่าวภายหลังขึ้นเครื่องบินดูบริเวณรอบๆ และหยุดแวะที่เมืองปังคาลันบุน
“ผมขอขอบคุณเพื่อนมิตรผู้ใกล้ชิดของเรา ประเทศต่างๆ ที่ได้ช่วยเหลือการค้นหาคราวนี้ ทั้งจากสิงคโปร์, มาเลเซีย, และออสเตรเลีย”
“สำหรับครอบครัวของผู้โดยสารและลูกเรือ ผมก็ขอร่วมรู้สึกถึงความสูญเสียจากโศกนาฏกรรมคราวนี้ และพวกเราทั้งหมดต่างขอสวดอ้อนวอนให้แก่ครอบครัวเหล่านี้ เพื่อให้มีความทรหดและความเข้มแข็งในการเผชิญกับโศกนาฏกรรมคราวนี้” เขากล่าวขณะปรากฏตัวสั้นๆ ในเมืองสุราบายา ระหว่างเยี่ยมเยียนญาติๆ ของผู้โดยสารและลูกเรือ