เอเจนซีส์ - อินโดนีเซียเตรียมขยายพื้นที่ค้นหาเครื่องบินแอร์เอเชียที่สูญหายไปพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 162 คน คาดว่าจะประสบอุบัติเหตุตกลงทะเล ขณะที่สหรัฐฯ ส่งเรือพิฆาตยูเอสเอส แซมป์สัน ช่วยค้นหาด้วยอีกแรงหลังได้รับคำร้องขออย่างเป็นทางการจากรัฐบาลอิเหนา
โซลิสตโย หัวหน้าสำนักงานค้นหาและช่วยชีวิตแห่งอินโดนีเซีย ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นว่า ภารกิจค้นหาเที่ยวบิน QZ8501 ระหว่างหมู่เกาะสุมาตราและเกาะบอร์เนียวจะขยายวงกว้างออกไป และจะมีการตรวจสอบคราบน้ำมันที่พบเมื่อวานนี้ (29 ธ.ค.)
เจ้าหน้าที่จะดำเนินการค้นหาตามหมู่เกาะต่างๆ รวมถึงบนแผ่นดินของเกาะบอร์เนียวในฝั่งอินโดนีเซีย ซึ่งขณะนี้พื้นที่ค้นหายังคงอยู่บริเวณทะเลชวาเท่านั้น
เครื่องบินแอร์บัส A320-200 ของ แอร์เอเชีย อินโดนีเซีย หายไปจากจอเรดาร์ท่ามกลางสภาพอากาศที่เลวร้ายเมื่อเช้าวันอาทิตย์ (28) ขณะออกเดินทางจากเมืองสุราบายาไปยังสิงคโปร์ ซึ่ง โซลิสตโย ระบุว่า เวลานี้เครื่องบินอาจจมอยู่ก้นทะเลแล้ว
หลายฝ่ายยังคงกังขาว่าเกิดอะไรขึ้นกับเที่ยวบิน QZ8501 หลังจากที่นักบินได้แจ้งขออนุญาตบินในระดับที่สูงขึ้นไปเพื่อหลีกเลี่ยงกลุ่มเมฆหนาทึบ
บรรดานักบินซึ่งถกเถียงกันในโลกออนไลน์ต่างพุ่งประเด็นไปที่ข้อมูลเรดาร์ทุติยภูมิในมาเลเซีย ซึ่งระบุว่า เครื่องบินลำที่หายไปพยายามไต่ระดับความสูงด้วยความเร็ว 353 น็อต ซึ่งช้ากว่าที่ควรจะเป็นถึง 100 น็อตในสภาพอากาศเลวร้าย
เรือ 30 ลำ และเครื่องบิน 21 ลำ จากอินโดนีเซีย, ออสเตรเลีย, มาเลเซีย, สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ จะทำการค้นหาร่องรอยของเครื่องบินในพื้นที่ 10,000 ตารางไมล์ทะเล ขณะที่เจ้าหน้าที่อิเหนาชี้ว่า ท้องทะเลบริเวณนี้มีความลึกเพียง 50-100 เมตร ซึ่งน่าจะช่วยให้การค้นหาซากเครื่องบินที่มีผู้โดยสารชาวอินโดนีเซียเป็นส่วนใหญ่ทำได้ไม่ยากนัก
ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ก็เตรียมส่งเรือพิฆาต ยูเอสเอส แซมป์สัน เดินทางเข้าสู่ทะเลชวาเพื่อช่วยค้นหาเที่ยวบิน QZ8501 ในวันนี้(30)
“กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ประสานงานกับรัฐบาลอินโดนีเซียอย่างใกล้ชิด เพื่อกำหนดเทคโนโลยีทั้งบนผิวน้ำและทางอากาศที่จะช่วยเหลือในปฏิบัติการค้นหาครั้งนี้ได้มากที่สุด” ถ้อยแถลงจากกองเรือที่ 7 ของสหรัฐฯ ระบุ
ก่อนหน้านี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า อินโดนีเซียได้ร้องขอความช่วยเหลือจากวอชิงตันอย่างเป็นทางการ และยืนยันว่าไม่มีชาวอเมริกันอยู่บนเที่ยวบินที่สูญหาย
“สถานทูตของเราในกรุงจาการ์ตาได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่อินโดนีเซียอย่างใกล้ชิด และวันนี้เราได้รับการร้องขออย่างเป็นทางการให้ช่วยติดตามหาเครื่องบิน” เจฟฟรีย์ ราธเก โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว
ทั้งนี้ ราธเก ชี้ว่าสหรัฐฯต้องใช้ “เวลาสักเล็กน้อย” เพื่อประเมินคำขอ และไม่ได้ระบุว่าจะส่งความช่วยเหลือในรูปแบบใด ขณะที่ พล.ร.ต.จอห์น เคอร์บีย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า วอชิงตันอาจส่ง “อุปกรณ์ตรวจจับวัตถุทางอากาศ ผิวน้ำ และใต้น้ำ” ไปช่วยอินโดนีเซีย
“เราพร้อมที่จะช่วยเหลือในทุกๆ ทางที่เป็นไปได้” เคอร์บีย์กล่าว