เอเอฟพี – หุ้นบริษัท แอร์เอเชีย (AirAsia) สายการบินต้นทุนต่ำที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ร่วงลงเกือบ 8% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นกัวลาลัมเปอร์วันนี้ (29) หลังจากหนึ่งในเครื่องบินของบริษัทนี้สูญหายไปพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 162 คน
หุ้นของบริษัทนี้ ซึ่งตกฮวบถึง 12% มาเหลืออยู่ที่ 2.60 ริงกิตในช่วงเปิดตลาด แต่กระเตื้องขึ้นมาที่ 2.71 ริงกิต ยังคงตกลงอยู่ที่ 7.82% ณ เวลา 13.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
เครื่องบินแอร์บัสลำดังกล่าวได้หายไปในเส้นทางจากเมืองสุรายาในเกาะชวาของอินโดนีเซียไปยังสิงคโปร์ หลังจากลูกเรือได้ร้องขอเปลี่ยนแผนการบินเพราะสภาพอากาศอันเลวร้าย หน่วยงานค้นหาและกู้ภัยแห่งชาติของอินโดนีเซีย ระบุว่า อากาศยานลำดังกล่าวมีแนวโน้มจะจมอยู่ใต้ท้องทะแลแล้ว
โบรกเกอร์ท้องถิ่นรายหนึ่ง บอกกับเอเอฟพีว่า บรรดานักลงทุนยังคงเดินหน้าขายหุ้นแอร์เอเชียอยู่จนถึงตอนนี้ แต่แรงกระตุ้นการขายดูเหมือนว่ากำลังลดน้อยลงแล้ว เพราะพวกเขาได้เข้าใจถึงความจริงที่ว่า เครื่องบินลำที่หายไปเป็นของหน่วยธุรกิจในอินโดนีเซียของบริษัทมาเลเซีย
ชูคอร์ ยูซอฟ ผู้ก่อตั้งบริษัทวิจัยการบิน Endau Analytics กล่าวว่า บรรดานักลงทุนและผู้ถือหุ้นจะยังคงให้การสนับสนุนอย่างเหนียวแน่นต่อแอร์เอเชียและ โทนี เฟอร์นันเดส ประธานบริหารของบริษัทนี้ ซึ่งเป็นผู้แปลี่ยนโฉมสายการบินที่กำลังทรุดโทรมหนักให้มาเป็นสายการบินต้นทุนต่ำที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในเอเชีย
อินโดนีเซียได้เริ่มต้นปฏิบัติการค้นทางเครื่องบินแอร์บัส A320-200 ทั้งทางทะเลและอากาศใหม่อีกครั้งในวันนี้ (29) หลังจากมันสูญหายไปกลางทะเลชวาเมื่อเช้าวานนี้ (28)
หเย คิม เล้ง นักเศรษฐศาสตร์ และคณบดีมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาเลเซีย ระบุว่า ผลกระทบใดๆต่อราคาหุ้นของบริษัทนี้จะมีอยู่เพียงแค่ระยะสั้นๆเท่านั้น
“เหตุการณ์นี้จะไม่ทำให้การเดินทางทางอากาศบนเครื่องของแอร์เอเชียลดน้อยลง เพราะบริษัทแห่งนี้เป็นสายการบินต้นทุนต่ำที่กำลังดึงดูดความสนใจของตลาดมหาชนนี้ท่ามกลางความมั่งคั่งที่กำลังขยายตัวในภูมิภาคนี้
แอร์เอเชีย ซึ่งไม่เคยประสบกับเหตุการณ์ร้ายแรงใดๆ เลย ระบุว่า เครื่องบินลำดังกล่าวที่หายไปรับการซ่อมบำรุงครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน โดยการสูญหายของเครื่องบินลำนี้เกิดขึ้นในช่วงสิ้นปีแห่งความย่อยยับสำหรับการบินแดนเสือเหลือง
เที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์หายไปในเส้นทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์สู่กรุงปักกิ่งเมื่อเดือนมีนาคมพร้อมกับผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คน และต่อมาในเดือนกรกฎาคมเที่ยวบิน MH17 ก็ถูกยิงตกบริเวณพื้นที่ไม่สงบของยูเครนพร้อม 298 ชีวิตบนเครื่อง
อัลลิแอนส์ดีบีเอส ลดเกรดหุ้นของแอร์เอเชียจากซื้อมาเป็นถือครอง ด้วยเหตุผลที่ไม่ได้เกี่ยวโยงกับการสูญหายครั้งนี้ โดยระบุว่า ภาระหนี้ของบริษัทนี้จะหนักขึ้นในปีหน้าเนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯกำลังแข็งค่า
ถัน คี ฮุง นักวิเคราะห์ กล่าวว่า ด้วยการที่เงินกู้ยืมของแอร์เอเชียส่วนใหญ่อยู่ในรูปเงินดอลลาร์ เงินริงกิตที่อ่อนค่าลงจะทำให้การชำระหนี้แพงกว่าเดิม
นอกจากนั้นแล้ว สายการบินนี้อาจไม่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ต่ำลงอย่างเต็มที่ เพราะฝ่ายบริหารได้ระบุไว้ว่า การประหยัดต้นทุนเชื้อเพลิงบางส่วนจะถูกส่งกลับคืนแก่ลูกค้าในรูปค่าใช้จ่ายพิเศษด้านเชื้อเพลิงที่ลดลง