เอเอฟพี - หีบศพบรรจุร่างไร้วิญญาณของเหยื่อเที่ยวบินมรณะ QZ8501 ของสายการบินแอร์เอเชีย 2 ศพแรกจากจำนวน 7 ศพที่เพิ่งเก็บกู้ขึ้นมาได้ ถูกลำเลียงมาถึงท่าอากาศยานสุราบายาแล้วในวันพุธ(31ธ.ค.) ขณะที่ญาติๆผู้โศกเศร้าได้มอบดีเอ็นเอแก่เจ้าหน้าที่เพื่อระบุตัวบุคคลอันเป็นที่รัก
ศพทั้งสองถูกลำเลียงลงจากเครื่องบินของกองทัพอากาศสู่รถฉุกเฉินของทหาร เพื่อนำส่งยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่งสำหรับชันสูตรและพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล แต่เหล่าญาติอีกจำนวนมากที่อยู่ในอาการเหนื่อยล้าเต็มทน ยังคงต้องรอฟังข่าวคราวความคืบหน้าต่อไป เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้ายเป็นอุปสรรคต่อปฏิบัติการค้นหา
เจ้าหน้าที่หวังว่าจะสามารถกู้ศพได้เกือบทั้งหมด แต่สภาพอากาศที่เลวร้ายก่อความยากลำบากแก่ฝูงเฮลิคอปเตอร์ที่ออกบินไปยังพื้นที่ดังกล่าวในทะเลชวา จุดที่ศพและซากหักพังของเครื่องบนแอร์บัสเอ320-200 ถูกพบหนึ่งวันก่อนหน้านี้
ที่สุราบายา เมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของอินโดนีเซีย ท่าอากาศยานต้นทางของเที่ยวบินมรณะที่ออกบินเพื่อมุ่งหน้าสู่สิงคโปร์ในตอนเช้าวันอาทิตย์(28ธ.ค.) เหล่าญาติๆของผู้โดยสารและลูกเรือ 162 คนบนเครื่องที่อยู่ในอารมณ์โศกเศร้าและเหนื่อยล้า มารวมตัวกันที่ศูนย์ฉุกเฉินเพื่อส่งมอบเอกสารและประวัติด้านการแพทย์
ตำรวจในสุราบายาบอกว่าพวกเขาก็บตัวอย่างดีเอ็นเอแล้ว 30 ตัวอย่างจากสมาชิกครอบครัวของเหยื่อ เพื่อระบุเอกลักษณ์บุคคลของศพ ณ โรงพยาบาลท้องถิ่นแห่งหนึ่ง โดยจนถึงตอนนี้เจ้าหน้าที่สามารถกู้ศพขึ้นมาได้ 7 ศพและทั้งหมดมีกำหนดถูกส่งมาถึงสุราบายาในค่ำคืนวันพุธ(31ธ.ค.)
พายุที่โหมกระหน่ำส่งผลให้การเริ่มต้นปฏิบัติการค้นหาของวันพุธ(31ธ.ค.) ต้องล่าช้า และต่อมาเฮลิคอปเตอร์ก็จำเป็นต้องบินกลับฐาน ในเมืองปังกาลัน บัน ที่มีฐานทัพอากาศอยู่ใกล้จุดตกมากที่สุด "เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย เราต้องเลี้ยวกลับ" นักบินคนหนึ่งบอกกับเอเอฟพี "นอกเหนือจากอพยพศพแล้ว เรายังมีแผนค้นหาชิ้นส่วนทใหญ่ของเครื่องบินด้วย"
ทีมค้นหาทางเรือยกเลิกการค้นหาศพหลังพระอาทิตย์ตกดิน อย่างไรก็ตามบรรดาเรือที่มีอุปกรณ์โซนาร์ก็ยังเดินหน้าค้นหาต่อไป อย่างไรก็ตามอีกด้านหนึ่งนายโทนี เฟอร์นานเดซ บอสของแอร์เอเชีย ปฏิเสธรายงานข่าวที่ระบุว่าจากภาพถ่ายโซนาร์พบว่าเครื่องบินจมอยู่ก้นทะเล "มีการระบุพบเห็นทางสายตา แต่ไม่มีอะไรยืนยันได้"
เศษซากจากเครื่องบินที่พบ ซึ่งดิ่งลงสู่ทะเลชวา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะบอร์เนียวท่ามกลางพายุ ในนั้นรวมถึงประตูทางออกและกระเป๋าสัมภาระหลายใบ ขณะที่ทีมค้นหาบอกกับเอเอฟพีว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่พบว่ามีเหยื่อคนไหนที่สวมเสื้อชูชีพ อย่างไรก็ตามเป้าหมายสำคัญของการค้นหาตอนนี้คือกล่องดำของเครื่องบิน ซึ่งจะเป็นกุญแจไขข้อสงสัยเกี่ยวกับสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ และ ณ เวลานี้ก็ยังหาไม่พบ
ก่อนออกเดินทาง นักบินของเที่ยวบิน QZ8501 ขออนุญาตบินในระดับที่สูงกว่าเดิมเพื่อหลีกเลี่ยงพายุ แค่คำขอของเขาไม่ได้รับอนมัติ เนื่องจากมีเครื่องบินลำอื่นบินอยู่เหนือเครื่องบินของพวกเขา ในการสื่อสารครั้งสุดท้าย นักบินบอกว่าต้องการเปลี่ยนเส้นทางเพื่อหลบหลีกพายุ แต่จากนั้นทุกช่องทางการติดต่อก็ขาดหายไป ซึ่งตอนนั้นก็เป็นเวลาราว 40 นาทีหลังจากเทคออฟ
เครื่องบินลำนี้ปฏิบัติการโดยแอร์เอเชีย อินโดนีเซีย กิจการในเครือของ “แอร์เอเชีย” ซึ่งมีที่ตั้งสำนักงานใหญ่ในมาเลเซีย โดยในจำนวนผู้โดยสารและลูกเรือ 162 คนบนเที่ยวบิน QZ8501 มีชาวอินโดนีเซียอยู่ถึง 155 คน
ประธานาธิบดีโจโค วิโดโดแห่งอินโดนีเซีย ได้พบปะกับครอบครัวเหยื่อที่สุราบายาเมื่อวันอังคาร(30ธ.ค.) และสัญญาจะพยายามค้นหาครั้งใหญ่ โดยเป้าหมายที่ให้ความสำคัญที่สุดคือการเก็บกู้ร่างไร้วิญญาณของผู้โดยสารและลูกเรือ ท่ามกลางการยื่นมือเข้าช่วยเหลือของนานาชาติไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ ออสเตรเลีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้และมาเลเซีย
