xs
xsm
sm
md
lg

ปปช.เดินหน้ารุกคลังทวงค่าเสียหาย โกงจำนำข้าว6แสนล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อวานนี้ (29 พ.ย.) ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้า การประชุมคณะทำงานร่วมระหว่าง ป.ป.ช.กับอัยการสูงสุด เพื่อหาข้อไม่สมบูรณ์ในคดีรับจำนำข้าว ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า กรณีที่ระบุว่า อัยการสูงสุดขอให้ ป.ป.ช. สอบพยานเพิ่มเติม 2 ปากนั้น ขอชี้แจงว่าความจริงแล้ว อัยการสูงสุดขอให้ป.ป.ช.สอบพยานเพิ่มเติมเพียง 1 ปาก คือ นายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการ ทีดีอาร์ไอ ล่าสุด (29 ธ.ค.) นายนิพนธ์ ได้มาให้การต่อป.ป.ช. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตนจะนำข้อมูลที่ได้รับจากนายนิพนธ์ ไปใช้เป็นข้อมูลแถลงเปิดคดีถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในโครงการรับจำนำข้าว ต่อที่ประชุมสนช.ในวันที่ 9 ม.ค. 58 ด้วย
ทั้งนี้หลังจากที่ ป.ป.ช.ได้สอบปากคำนายนิพนธ์แล้ว เชื่อว่าอัยการสูงสุด ไม่ควรมีปัญหาเรื่องการส่งฟ้องคดีดังกล่าว
ส่วนความคืบหน้าการไต่สวนการทุจริตระบายข้าวแบบจีทูจี ของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ และพวกนั้น คณะอนุกรรมการไต่สวน ที่มีตนเป็นพยาน ได้สอบข้อเท็จจริงครบถ้วนหมดแล้ว จะส่งเรื่องให้ที่ประชุม ป.ป.ช. ลงมติได้ในช่วงต้นปีหน้า แม้ขณะนี้มีข้อมูลประเด็นต่างๆ เพิ่มเข้ามาเรื่อย ๆ แต่อย่างน้อย ป.ป.ช. จะเร่งชี้มูลความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ 6 คน และเอกชน 15 คน ให้ได้ก่อน ทั้งนี้ จากการไต่สวนพบว่า นอกจากบริษัทเอกชนของจีน 2 แห่งคือ บริษัท ไห่หนาน และบริษัท กวางตุ้ง ที่ไม่ใช่ตัวแทนของรัฐบาลจีนในการทำจีทูจีแล้ว ยังพบว่า มีบริษัทเอกชนของจีน อีก 4 แห่ง ที่มีการส่งออกข้าวโดยไม่เป็นจีทูจี มีมูลค่าการส่งออกข้าว รวม 14 ล้านตัน ซึ่งพบว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐ และเอกชนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
นายวิชา กล่าวอีกว่านอกจากนี้ที่ประชุมป.ป.ช. ยังมีความเห็นให้ทำหนังสือถึงกระทรวงการคลัง ให้เรียกค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว จำนวน 5-6 แสนล้านบาท กับผู้เกี่ยวข้อง ที่ทำให้โครงการดังกล่าวเสียหาย โดยให้กระทรวงการคลังรอดูผลสอบในสำนวนโครงการจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ คดีการทุจริตซื้อขายข้าวจีทูจี ของนายบุญทรง ที่ ป.ป.ช. จะส่งสำนวนคดีไปให้กระทรวงการคลัง เพื่อประกอบการพิจารณาว่า จะเรียกค่าเสียหายในโครงการ
จากใครบ้าง

** อสส.ส่งฟ้องคดีไร่ส้มต้นปีหน้า

วานนี้ ( 29 ธ.ค.) ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการอำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) นัดแรก เพื่อกำหนดนโยบายการป้องกันแก้ไขปัญหาทุจริต และติดตามคดีสำคัญที่ประชาชนให้ความสนใจ จำนวน 15 คดี อาทิ คดีจำนำข้าวของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คดีทุจริตในโครงการไทยเข้มแข็ง และคดีทุจริตก่อสร้างโรงพักทดแทน
ส่วนคดีทุจริตค่าโฆษณาระหว่างบริษัทไร่ส้มกับ บมจ.อสมท. นั้น ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด ชี้แจงว่า จะมีการยื่นฟ้องคดีภายในเดือน ม.ค.-ก.พ. 58 นอกจากนี้ พล.อ.ไพบูลย์ ยังสั่งการให้ ศอตช. เผยแพร่ข้อมูลความคืบหน้าคดีสำคัญๆ ผ่านเว็บไซต์ เพื่อให้ประชาชนเห็นความคืบหน้าในการปราบปรามการทุจริต
ด้านนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการ ปปท. กล่าวว่า ในส่วนคดีสนามฟุตซอลที่เหลืออีก 17 จังหวัด 373 โรงเรียน เกี่ยวข้องกับครู 3,721 คน ซึ่งปปท. จะส่งสำนวนให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภายในสัปดาห์หน้า และจะเสนอให้ครม. พิจารณาแก้ไขข้อบกพร่อง เพื่อปิดช่องไม่ให้นักการเมืองใช้การขอแปรญัตติงบประมาณหรือการขอใช้งบเร่งด่วน รวมถึงจะขอให้ผู้แปรญัติ มีส่วนรับผิดชอบกรณีมีการนำงบไปใช้ไม่ถูกต้อง ส่วนกรณีการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ควรทำฐานข้อมูลเกษตรกรให้ถูกต้อง
เลขาธิการ ปปท. กล่าวด้วยว่า ปปท.ยังได้ตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายและนันทนาการของกรมพละศึกษา พบการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายแพงกว่าความเป็นจริง และจัดซื้อซ้ำซ้อน จากการสุ่มตรวจในพื้นที่ จ.นครปฐม อุบลราชธานี และนนทบุรี เบื้องต้นพบการจัดซื้อเครื่องเล่นเด็ก ชุดป้อมปืนใหญ่ สไลด์เดอร์ ราคาตามสัญญาชุดละ 980,000 บาท ติดตั้งอยู่ที่โรงเรียนบางเลน แต่เมื่อตรวจสอบเปรียบเทียบกับโรงเรียนวัดบึงลาดสวาย และโรงเรียน
บ้านไผ่คอกวัวใน อ.บางเลน จ.นครปฐม จัดซื้อมาเพียงราคาชุดละ 85,000 บาท นอกจากนี้ ยังพบการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายราคาแพงกว่าท้องตลาด ซึ่งจะเร่งขยายผลการตรวจสอบให้ครอบคลุม และนำข้อเท็จจริงมารายงานต่อที่ประชุม ศอตช. ในเดือนม.ค. 58
กำลังโหลดความคิดเห็น