xs
xsm
sm
md
lg

"สรยุทธ-ไร่ส้ม"โกง สั่งฟ้องเบี้ยวโฆษณาอสมท "จุฑามาศ"ไม่รอดคดีตบทรัพย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTV ผู้จัดการรายวัน-"อัยการสูงสุด" สั่งเชือด “สรยุทธ-ไร่ส้ม" เบี้ยวจ่ายค่าโฆษณา 138 ล้านให้ อสมท รอแจ้งคณะทำงานร่วม ป.ป.ช. เชื่อไม่เห็นต่าง พร้อมฟ้องโดยเร็ว ชี้ระวางโทษจำคุก 5-20 ปี หรือตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต ส่วนนักเล่าข่าว แม้ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ หากพบว่ากระทำผิดจริง ต้องรับโทษ 2 ใน 3 ส่วนคดี "จุฑามาศ"เรียกเงินจัดเทศกาลภาพยนตร์ ป.ป.ช. ส่งให้อัยการสูงสุดสั่งฟ้องแล้ว

วานนี้ (12 พ.ย.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ นายวันชัย รุจนวงศ์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และนางสันทนี ดิษยบุตร รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกันแถลงถึงความคืบหน้าการพิจารณาพยานหลักฐานของคณะทำงานร่วมระหว่างสำนักงานอัยการสูงสุดกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คดีที่นางพิชชาภา หรือชนาภา เอี่ยมสะอาด หรือบุญโต , นายสรยุทธ สุทัศน์จินดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไร่ส้ม จำกัด , บริษัท ไร่ส้ม จำกัด และ น.ส.มณฑา ธีระเดช เจ้าหน้าที่บริษัทไร่ส้ม ผู้ถูกกล่าวหา ตามความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดพนักงานในองค์การ หรือหน่วยงานรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 6 , 8 , 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และ 91 กรณีนายสรยุทธ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไร่ส้ม กระทำการโฆษณาเกินเวลา ขณะจัดทำรายการ "คุยคุ้ยข่าว" ออกอากาศสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท ระหว่างปี 2548-2549 โดยไม่ชำระค่าโฆษณาเกินเวลาให้กับ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) รวมยอด 138,790,000 บาท

นายวันชัย รุจนวงศ์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า หลังจาก อัยการสูงสุด ได้รับสำนวน ป.ป.ช. ที่ชี้มูลความผิดแล้ว ต่อมาวันที่ 5 ก.ย.2556 อัยการสูงสุด ได้แจ้งข้อหาไม่สมบูรณ์ เพื่อให้คณะทำงานอัยการ และ ป.ป.ช. ร่วมกันรวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์และได้ข้อยุตินั้น ขณะนี้คณะทำงานผู้แทนทั้งฝ่ายอัยการ และ ป.ป.ช. รวบรวมพยานหลักฐานครบถ้วนแล้ว ซึ่งเสนออัยการสูงสุดแล้วเห็นว่าคดีมีพยานหลักฐานฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 ราย ได้กระทำผิดตามข้อกล่าวหา จึงจะมอบให้คณะทำงานผู้แทนของอัยการสูงสุด นำความเห็นไปประชุมร่วมกับคณะทำงาน ป.ป.ช. อีกครั้งก่อน เพื่อให้ได้ข้อยุติในการดำเนินการฟ้องคดีต่อไปโดยเร็ว

"เชื่อว่าคณะทำงาน ป.ป.ช. จะไม่มีความเห็นต่างจากนี้ เนื่องจากในการชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช. ก็สรุปความผิดผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 รายตามที่กล่าวมา หากที่ประชุมได้ข้อยุติเรียบร้อยแล้ว เมื่อจะมีการฟ้องคดีสำนักงานอัยการสูงสุด ก็จะมอบให้อัยการสำนักงานคดีพิเศษ 2 รับผิดชอบต่อไป"

สำหรับอัตราโทษความผิดดังกล่าว นางสันทนี ดิษยบุตร รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดพนักงานในองค์การฯ มาตรา 6 ฐานพนักงานเรียกรับสินบน ระวางโทษจำคุก 5-20 ปี หรือตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต และปรับตั้งแต่ 2,000-40,000 บาท, มาตรา 8 ฐาน เป็นพนักงานใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต โทษจำคุก 5-20 ปี หรือตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 2,000-40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 11 ฐานพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จำคุก 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท ส่วนนายสรยุทธ เมื่อไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ หากพบว่ากระทำผิดจริง ก็ต้องรับโทษ 2 ใน 3

วันเดียวกันนี้ ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานร่วม ฝ่าย ป.ป.ช. ในคดีทุจริตอดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กรณีนางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการ ททท. รับเงินตอบแทนสองสามีภรรยาชาวสหรัฐฯ เพื่อให้ได้สิทธิในการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท ได้แถลงถึงความคืบหน้าของคดีว่า คณะทำงานร่วมได้พิจารณาเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกว่า 2,000 แผ่น และเป็นเอกสารภาษาอังกฤษ ที่ได้รับจากกระทรวงยุติธรรมและสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ครบถ้วนแล้ว โดยใช้เวลา 2 ปี 11 เดือน 20 วัน ซึ่งพบเส้นทางการเงินที่นางจุฑามาศไปฝากในต่างประเทศรวม 4 ประเทศ และถือว่าได้แก้ไขข้อกล่าวหาที่ไม่สมบูรณ์ที่อัยการสูงสุดแจ้งมาได้ครบถ้วนแล้ว ซึ่งจะเสนอให้อัยการสูงสุดส่งฟ้องต่อไป

สำหรับทรัพย์สินที่ใช้ในกระทำผิดอยู่ที่สหรัฐฯ มูลค่า 1.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นเงินไทยประมาณ 60 ล้านบาทนั้น กำลังดำเนินการเพื่อกลับคืนสู่ประเทศไทย และป.ป.ช. ยังได้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีนางจุฑามาศ ร่ำรวยผิดปกติ เพื่อร้องขอให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน
กำลังโหลดความคิดเห็น