โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์
อะฮ้า! โดนเข้าแล้วมั้ยละ อภิมหาเนติบริกรของไทยโดนไอ้กันเหน็บแบบเจ็บว่า “ไม่ฉลาด” และ “ไร้เหตุผล” เพียงแค่บอกว่าการเลือกตั้งของไทยครั้งต่อไปน่าจะอยู่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 โน่น หรือถ้ามีประชามติ ก็อาจยื้อไปอีกอย่างน้อย 3 เดือน
“ไอ้กัน” คนนั้นใช้คำว่า “unwise” และ “unjustified” ซึ่งคำแรกไม่ได้หมายความชัดว่าโง่งม หรือ “stupid” เป็นเพียงแค่ “foolish” หรือ “silly” แค่นั้น แต่ก็เหน็บเจ็บแสบ เป็นการพูดในฐานะตัวแทนของรัฐบาลไอ้กัน แสดงว่าผู้ใหญ่ต้องเห็นดีเห็นงามด้วยแน่
น่าเสียดาย สำนักข่าวรอยเตอร์ไม่ได้ระบุว่า “โฆษก” คนหนึ่งของกระทรวงต่างประเทศไอ้กันคนนั้นชื่ออะไร ทำให้เราทึกทักได้ว่า “โฆษก” คนที่ว่านั้นอาจมีตัวตนจริงหรือถูกอุปโลกยกเมฆเอาก็ได้ แต่อ้างว่าเป็นผู้ไม่ประสงค์แสดงตัว หรือออกนาม
บางครั้งสื่อรายงานโดยอ้าง “แหล่งข่าว” ทั้งระดับสูงและทั่วไปเพื่อให้ผู้บริโภคเชื่อมั่น แต่ในความเป็นจริงสื่ออาจยกเมฆโดยไม่มี “แหล่งข่าว” ที่น่าเชื่อถือ เขียนเองว่ามี “แหล่งข่าว” แต่ไม่มีใครพิสูจน์ หรือยืนยันได้ว่ามีแหล่งข่าวตามที่อ้าง สื่อก็ไม่เปิดเผย
การที่คนระดับรองนายกฯ ของประเทศไทยถูก “โฆษก” กระทรวงต่างประเทศหมิ่นแคลนว่า “ไม่ฉลาด” และ “ไร้เหตุผล” นั้น น่ามองได้หลายกรณี... ว่าง่ายๆ ก็คือ ไอ้กันคนที่ว่านั้นใช้สิทธิอะไรมายุ่ง หรือ “เสือก” ในกิจการภายในของประเทศไทย
เป็นการไร้มารยาทอย่างร้ายแรง ประเทศไทยไม่ใช่เมืองขึ้นหรือลูกไล่ของไอ้กันนะโว้ย...มันเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า หรือว่ามีคนไทยไปยกให้มันเป็นเจ้านายประเทศไทย ทำให้มันกล้าดูหมิ่นด่าว่าประเทศไทยอย่างไรก็ได้ และรองนายกฯ ของเราก็เงียบ
ที่เงียบเป็นเพราะไม่อยากเถียง ไม่กล้าเถียง หรือเห็นด้วยกับคำว่า “ไม่ฉลาด” และ “ไร้เหตุผล” หรือต้องรอให้กระทรวงต่างประเทศไทยตอบโต้อย่างเป็นทางการ แน่นอน! ระดับอภิมหาเนติบริกรถึงขั้นรองนายกฯ ของไทยไม่โง่แน่นอน พิสูจน์ได้
ก็ท่านจบปริญญาเอก ได้ดอกเตอร์จากมหาวิทยาลัยคาลิฟอร์เนีย เบิรก์เลย์ที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของไอ้กันนั่น เมื่ออายุเพียง 26 ปีเท่านั้น! ไอ้กันปากเสียคงไม่เรียนเก่งขนาดนั้นแน่ แม้การเรียนเก่งในตำราไม่ได้หมายความว่าต้องฉลาด มีเหตุผลทุกคน
เรามีตัวอย่างอยู่แล้วว่าดอกเตอร์บ้านเรามีทั้งจอมโกงทั้งโคตร จอมกะล่อน มะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก อภิมหาชั่วร้ายทำบ้านเมืองล่มจมก็เยอะ มีนักกฎหมายเป็นดอกเตอร์จากต่างประเทศ มีบทบาททำให้การเมืองไทยจมปลักอยู่ในบ่อน้ำเน่า
ไอ้กันน่าจะรู้ว่าการเป็นเนติบริกรนั้นไม่มีสิทธิคิดเอง ต้องรับใช้ตามคำสั่ง การพูดจาเรื่องอะไรถ้าผู้ใหญ่หรือเจ้านายไม่ได้สั่งให้พูด ย่อมต้องระวังฟังหูไว้หูไว้ก่อน โดยเฉพาะในประเด็นละเอียดอ่อน อาจสร้างความเข้าใจผิดหรือก่อปัญหากับผู้อื่น
เพียงแค่ข้ามวัน ท่านนายกฯ ก็ส่งเสียงเจื้อยแจ้วว่าไม่มีใครรับประกันว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ทุกอย่างต้องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ขณะนั้น การไม่ยอมผูกมัดเรื่องวันเลือกตั้งถือว่าเป็นความฉลาดกว่าการคาดเดา ประเมินเอาเอง
เอาเหอะ! ไอ้กันไม่มีสิทธิมาแสดงความเห็นเรื่องนี้ เป็นการเสือกสะเออะไม่เข้าเรื่อง สมควรที่กระทรวงการต่างประเทศต้องประท้วงแบบเบาๆ ด้วยวิธี demarche หรือ diplomatic representation ถ้าเคืองจัดก็ออกแถลงการณ์ตอบโต้เป็นทางการก็ย่อมได้
นิสัยไอ้กันมักตบหัวและลูบหลังเสมอ ครั้งนี้ทำหนักข้อเกินไป อาศัยว่ารัฐบาลปัจจุบันเป็นคณะรัฐประหาร ไม่เป็นประชาธิปไตยตามแบบที่ไอ้กันชอบ ก็เลยหงุดหงิดเมื่อรัฐบาลไทยไม่ยอมเป็น “เด็กดี” แถมยังอี๋อ๋อกับจีนจนออกนอกหน้า ไม่เห็นหัวไอ้กัน
ไอ้กันไม่ชอบการเมืองแบบไทย แต่ชอบใช้แผ่นดินไทยแสวงหาประโยชน์กอบโกยทรัพยากร ดังเช่นบริษัทเชฟรอนได้ขุดเอาน้ำมันและก๊าซอ่าวไทยสร้างความมั่ง คั่ง นานหลายสิบปี ช่วงนี้ยังให้เรือพิฆาตมาจอดที่แหลมฉบังโดยอ้างความสัมพันธ์ยาวนาน
การเสือกครั้งนี้ ถ้ารัฐบาลไทย หรืออภิมหาเนติบริกรทำเฉย ไอ้กันจะได้ใจ!
เรื่องเดียวกันนี้ผู้น้อยเห็นว่าถ้ามีประเด็น “ไม่ฉลาด” หรือ “ไร้เหตุผล” ก็คือ ทำไมประเทศไทยต้องเร่งมีเลือกตั้งทั้งๆ ที่ไม่มีสัญญานอะไรส่อแววว่าการเมืองจะดีขึ้น โดยเฉพาะความพยายามปฏิรูปภาคต่างๆ หลังการรัฐประหารยังไม่คืบหน้าไปไหน
ทำรัฐประหารทั้งที เสี่ยงต่อการเป็นกบฎ สังคมตะวันตกประนาม ไหนๆ ก็ไหนๆ เมืองไทยน่าจะเว้นวรรคการเมืองเลือกตั้งสักระยะหนึ่ง จนกว่าการปฏิรูปเกิดขึ้นอย่างจริงจัง ประชาชนได้รับการปลูกฝังทัศนะคติใหม่ว่าการซื้อสิทธิขายเสียงเป็นความเลว
ไม่มีความรีบร้อนที่จะต้องเลือกตั้งให้พวกนักลงทุนการเมืองซื้อเสียงเข้ามากุมอำนาจรัฐ จากนั้นก็เร่งถอนทุนด้วยการงาบคำโต 40-50 เปอร์เซ็นต์ทำเอาบ้านเมืองแทบล่มจมในยุครัฐบาลแม่นางปูโพรกทำให้โครงการรับจำนำข้าวเจ๊งกว่า 7 แสนล้านบาท
เพียงคำพูด “ไม่ฉลาด” ไม่กี่ประโยค เท่ากับเป็นการส่งสัญญานให้ข้าราชการเข้าเกียร์ว่างรอคอยให้นายเก่าและพวกซื้อเสียง ใช้อิทธิพลต่างๆ ชนะการเลือกตั้งและเข้ามากุมอำนาจรัฐ บ้านเมืองย้อนกลับสู่รอยเก่า ชาวบ้านจะชุมนุมขับไล่นักการเมืองชั่วอีก
มีรัฐบาลพร้อมอำนาจเหลือคณาจากกฎอัยการศึก ผลงานยังไม่คุ้มค่ากับการรัฐประหาร ยังไม่มีนักการเมืองชั่วร้ายติดคุกเพราะการทุจริต ทั้งยังมีพวก “แกล้งตาย” ซุ่มกบดานรอวันฟื้นฟูอำนาจอีกรอบ ถ้าเลือกตั้งทำให้กลุ่มเก่าชนะ กลุ่มแพ้เน่าแน่นอน
ดังนั้น การที่ไอ้กันออกปากด่าถือได้ว่าเป็นพฤติกรรม “ฉลาด” “มีเหตุผล” ในมิติหนึ่ง ทำให้คนไทยซึ่งเบื่อหน่ายการเมืองได้ฉุกคิดว่าทำไมต้องเสี่ยงกับการ “เสียของ” ภายไต้บรรยากาศของการอ้างว่าต้องปรองดอง ทั้งๆ ที่คนดีคนชั่วต้องแยกกันอยู่
อยากรู้เหมือนกันว่าระดับรองนายกฯ โดนด่าแบบนี้มีใคร “ฉลาด” และ “มีเหตุผล” หรือยัง ชาวบ้านสุดเบื่อหน่ายกับพวกแกล้งฉลาดเต็มกลืนแล้วเหมือนกัน