xs
xsm
sm
md
lg

ทีวีดิจิตอลขึ้นค่าโฆษณา300%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - เจาะลึกทีวีดิจิตอลปี58 คาดโฆษณาโต 100% แตะ 20,000 ล้านบาท เหตุราคาโฆษณาขยับ 100-300% ฟันธงช่อง7อยู่ตัว ส่วนช่อง3เหนื่อยสุดเชื่อมีการปรับใหญ่ ต้องเข็น 3 ช่องทีวีดิจิตอลให้อยู่รอด ฟากเอเจนซี่พุ่งเป้าลงโฆษณาในทีวีดิจิตอลแค่ 3กลุ่ม มั่นใจการแข่งขันเดือด ตามทิศทางตลาดโฆษณารวมโต4-7% ดีกว่าปีนี้ นักการตลาดต้องทันพฤติกรรมผู้บริโภคที่เข้าถึงยุคมัลติสกรีน

นางสาวพเยาว์ ธรรมธีรสุนทร หัวหน้าฝ่ายวางแผนกลยุทธ์สื่อทีวี บริษัท มายด์แชร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางทีวีดิจิตอลในปีหน้า เชื่อว่าจะมีเม็ดเงินโฆษณาเติบโตขึ้นเท่าตัว หรือคิดเป็น 20% หรือประมาณ 20,000 ล้านบาทจากเม็ดเงินโฆษณารวมมูลค่า 100,000 กว่าล้านบาท โดยอาจจะเติบโตได้มากกว่านั้น หากมองในภาพใหญ่ ใน 3 เรื่องหลัก ดังนี้ คือ

1.ปี2558 จะมีการวัดผลการใช้งบโฆษณาในสื่อทีวีดิจิตอลตลอดปีเต็ม ขณะที่ปีนี้มีการวัดเม็ดเงินโฆษณาในสื่อทีวีดิจิตอลในช่วง6เดือนหลังเท่านั้น 2.ทีวีดิจิตอลที่เกิดขึ้นใหม่ ที่เริ่มมีเรตติ้งที่ดี จะมีการปรับราคาโฆษณาขึ้นอีก 100-300% จากการที่ต้องผลิตและพัฒนาคอนเท้นท์ใหม่ๆเพื่อดึงคนดูให้มารับชมมากขึ้น ซึ่งเป็นกลไกที่ต้องเดินไปพร้อมๆกัน และ3.หลายๆช่องในทีวีดิจิตอลจะมีการลงทุนและพัฒนาคอนเท้นท์ เพื่องช่วงชิงฐานผู้ชมให้ได้ เนื่องจากการเข้าถึงทีวีดิจิตอลจะเพิ่มเป็น 50% ของจำนวนประชากร หากไม่ทำอาจจะอยู่ไม่ได้และอาจจะมีบางช่องหายไปในปี2558นี้

“แต่ละช่องของทีวีดิจิตอลจะมีการขยับตัวอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น แกรมมี่ ที่มี 2 ช่อง คือ ช่องONE และ GMM Channel อาจจะได้เห็นการนำเสนอคอนเท้นท์อย่างเต็มรูปแบบ หรืออย่างช่องไทยรัฐทีวี มีการพัฒนาคอนเท้นท์อย่างเต็มที่ รวมถึงช่องโมโน 29 ที่มีการพัฒนาเรตติ้งมากขึ้นจากคอนเท้นท์ที่มีอยู่ ขณะฟรีทีวีหลัก 2 ช่องค่อนข้างนิ่ง แต่ละมีการสร้างการรับรู้มากขึ้น ส่วนช่อง5 มีการปรับสู่การเป็นช่องทีวีสาธารณะเพื่อความมั่นคง และช่อง9 ยังมีปัญหาภายในเกี่ยวกับผู้บริหาร ผู้จัดคอนเท้นท์เริ่มหาทางออกไปอยู่ช่องอื่นๆ”

อย่างไรก็ตาม มองว่าปีหน้าเรตติ้งในทีวีดิจิตอลจะกระจายมากขึ้น ดังนั้นเอเจนซี่และเจ้าของสินค้าจะโฟกัสทีวีดิจิตอลใน 3 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มที่มั่นใจว่ามีคนดู คือ ช่อง3 และ ช่อง7 2.กลุ่มที่มีความโอกาสและความเป็นไปได้ว่าจะมีคนดู และ3.กลุ่ มที่เจาะลึกคนดูและการใช้งบโฆษณา เชื่อว่าภายในไตรมาสสองจะเห็นความชัดเจน รวมถึงรูปแบบการโฆษณาของทีวีดิจิตอลจะมีการเปลี่ยนแปลง

นางสาวพเยาว์ กล่าวต่อว่า ทีวีดิจิตอล 2 ช่องหลัก อย่างช่อง3 และช่อง7 เชื่อว่าในปีหน้าจะยังไม่กล้าที่จะปรับราคาโฆษณาขึ้นไปอีก และเมื่อเทียบการแข่งขันของตลาดแล้ว ช่อง7 อาจจะไม่เหนื่อยเท่าช่อง3 เพราะมีเพียงช่องเดียว แม้จะออกอากาศใน2ช่องทาง แต่สำหรับช่อง3 แล้ว มีทีวีดิจิตอลถึง 3 ช่อง รวมถึงช่อง3SD อีก1 ช่อง จึงมั่นใจว่าปีหน้าช่อง3 จะมีการปรับใหญ่มากกว่าช่องอื่นๆ ทั้งในเรื่องของคอนเท้นท์ ที่จะต้องมีการจัดสรรกระจายไปยังช่องอื่นด้วย มีการโปรโมทช่องมากขึ้น จัดกิจกรรมเพื่อสร้างกระแสให้กับช่อง เช่น จัดกิจกรรมในช่วงละครหลังข่าว หรือ รายการข่าวสัญจรนอกพื้นที่ เป็นต้น

ล่าสุดตัวเลขโฆษณาจากเน็ลสัน ในช่วง ม.ค. -พ.ย. ที่ผ่านมา พบว่าอุตสาหกรรมโฆษณาอยู่ที่ 109,191.5 ล้านบาท โตขึ้น 5.4% เทื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน โดยในกลุ่มสื่อทีวีรวมนั้น มีมูลค่า 74,377.2 ล้านบาท โตขึ้น 16.7% ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 1.อะนาล็อกทีวี 58,755.2 ล้านบาท ติดลบ 7.8% 2.ดิจิตอลทีวี 10,078.4 ล้านบาท และ3.เคเบิล/ทีวีดาวเทียม 5,543.7 ล้านบาท

***นักการตลาดต้องทันเกมส์ผู้บริโภค***
ด้านนางสาวปัทมวรรณ สถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท มายด์แชร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับทิศทางการสื่อสารการตลาดของแบรนด์ในปี2558นี้ จะต้องสามารถปรับให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคเข้าสู่ยุคมัลติสกรีนอย่างชัดเจน แบรนด์ต้องพัฒนาแคมเปญผ่านทุกช่องทาง ไม่ยึดติดเฉพาะสื่อโทรทัศน์เท่านั้น พร้อมวิเคราห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์

โดยในส่วนของพฤติกรรมของผู้บริโภคในปี2558นี้ ได้แก่ 1. ที่นี่และเดี๋ยวนี้ จากการที่ใช้ชีวิตอยู่กับเทคโนโลยี มือมือช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์มากขึ้น 2.มีตัวเลือกและเลือก เช่น ทีวีดิจิตอลจะมีถึง 24 ช่อง ผู้บริโภคมีสิทธิ์ที่จะเลือกรับชมได้มากกว่าเดิม 3.ความจริงและความรู้สึก ในการตัดสินใจหลายๆเรื่องบางครั้งทั้ง2อย่างแยกจากกันไม่ออก 4.ไม่พลาดการอัพเดท และไม่อยากอัพเดท และ5.ฉันและพวกเขาผู้บริโภคจะกลายมาเป็นสื่อเองมากขึ้น

ทั้งนี้ในแง่ของเจ้าของสินค้าและการลงโฆษณา ปีหน้ายังคงมั่นใจในการใช้เงินมากกว่าปีนี้ หรือในภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาคาดว่าจะโตได้อีก 4-7% แต่จะมีการปรับงบและวิธีการใช้เงินลงโฆษณามากขึ้น เช่น ทีวีดิจิตอลจะใช้อย่างไร เปิดเออีซัจะทำอย่างไร และสื่อดิจิตอลจะบริหารอย่างไร โดยกลุ่มสินค้าประเภท FMCG ยังเป็นกลุ่มที่พร้อมใช้งบโฆษณอย่างต่อเนื่อง แต่ในกลุ่มรถยนต์จะชะลอตัวลง
กำลังโหลดความคิดเห็น