xs
xsm
sm
md
lg

ผ่าเกมทีวีดิจิตอล6 เดือนพ่ายดาวเทียม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – ผ่าเกมทีวีดิจิตอล 6 เดือนแรก เข็นไม่ขึ้น รวมใช้งบสร้างการรับรู้เพียง 100 ล้านบาทเท่านั้น ยกแรกพบทีวีดิจิตอล 3อันดับแรกเป็นช่องทีวีดาวเทียมมาก่อน ส่วนน้องใหม่จริงๆรั้งท้าย ขณะที่ช่อง3 HD เจ้าปัญหา กลับรั้งอันดับ6 ส่งไม้ต่อสู่ยก2 ส่อแววแข่งดุ ชี้ ‘คอนเท้นท์ อีส คิง’ จับผู้ชมให้อยู่หมัด กีฬามาแรงโกยเรตติ้งมากสุด จับตาช่องPPTVและอมรินทร์ทีวี เตรียมเทมากกว่า 1,000 ล้านบาท หวังรั้ง 5อันดับแรกให้ได้ หลังช่อง3 ก้าวสู่ ช่อง3HD แบบท็อปฟอร์ม
อุตสาหกรรมทีวีดิจิตอล เริ่มถูกจับตามองตั้งแต่การประมูลช่องเมื่อปลายปีก่อน และเริ่มร้อนแรงมากยิ่งขึ้นในช่วงออกอากาศอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปลายเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยหลายๆช่องมีการทุ่มงบประมาณเปิดตัวช่องอย่างเป็นทางการให้ผู้ชมได้รับทราบมาอย่างต่อเนื่อง เช่น ช่องไทยทีวี, ช่องPPTV HD, ช่องสปริงนิวส์ และช่องONE HD เป็นต้น
แต่สุดท้ายแล้วการลงทุนในเบื้องต้นนี้ กลับทำให้ช่องทีวีดิจิตอลต้องชะลอแผน และมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ด้วยปัญหาความไม่ชัดเจนทั้งจากนโยบายของ กสทช. และปัญหาด้านโครงข่าย รวมถึงการเข้าถึงผู้ชมที่ยังไม่ครอบคลุม
ส่งผลให้การแข่งขันที่ควรจะรุนแรงกลับตกสะเก็ด และทำให้ 5เดือนแรก (เม.ย-ส.ค.)พบว่า ช่องทีวีดิจิตอลที่มีผู้ชมมากสุด 3อันดับแรก กลับเป็นช่องที่เคยเป็นช่องในแพลทฟอร์มทีวีดามเทียมมาก่อน คือ ช่องเวิร์คพ้อยท์ทีวี ช่อง8 และช่องโมโน29 เนื่องจากผู้ชมส่วนใหญ่สามารถรับชมจากช่องทางเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมได้อยู่แล้ว ซึ่งฐานของผู้ชมในกลุ่มนี้ครอบคลุมกว่า 15-16ล้านครัวเรือน หรือกว่า 50 ล้านคน จากจำนวนประชากรทั่วประเทศกว่า 22 ล้านครัวเรือน
***ทีวีดิจิตอลใช้งบโปรโมทเพียง 100 ล.ใน5เดือน
อย่างไรก็ตาม จากตัวเลขของทางนีลสัน คอมปะนี พบว่า ทีวีดิจิตอลทั้ง22ช่อง เริ่มใช้งบโฆษณาทำการตลาด ในช่วง5เดือนแรก (เม.ย-ส.ค.) คิดเป็นมูลค่ารวมที่ 101.2 ล้านบาท โดย ในเดือนแรก คือ เดือนเม.ย. ช่องเวิร์คพ้อยท์ทีวี ใช้งบมากสุด 4.7 ล้านบาท แต่ช่องนิวทีวีเข้าถึงผู้ชมมากสุด คิดเป็นสัดส่วน 25.9%
2.เดือนพ.ค. ช่องสปริงนิวส์ ทีวี ใช้งบมากสุด 4.5 ล้านบาท และเข้าถึงผู้ชมมากสุด คิดเป็นสัดส่วน 28% 3.เดือนมิ.ย. ช่องโมโน 29 ใช้งบสูงสุด 6 ล้านบาท และเข้าถึงผู้ชมมากสุด 28% เช่นเดียวกัน 4.เดือนก.ค. ช่องสปริงนิวส์ใช้งบมากสุด 5.6ล้านบาท และเข้าถึงผู้ชมมากสุด คิดเป็น 24% และ5.เดือนส.ค. ช่องไทยรัฐ ทีวี ใช้งบมากสุด 6.6 ล้านบาท และเข้าถึงผู้ชมมากสุดที่สัดส่วน 27.4%
โดยยังพบอีกว่าช่วง 6 เดือนแรกของการออกอากาศ(เม.ย-ก.ย.)ส่วนแบ่งผู้ชมสูงสุด 5 อันดับแรก คือ 1.ช่องเวิร์คพ้อยท์ทีวี 2.ช่อง8 3.ช่องโมโน29 4.ช่อง TRUE4U และ5.ช่องไทยรัฐทีวี ตามลำดับ
***ช่อง3HD เจ้าปัญหารั้งอันดับ6
นอกจากนี้ยังพบด้วยว่า ช่อง3HD กลับอยู่ในอันดับ6 ของกลุ่มทีวีดิจิตอลที่มีผู้ชมมากสุด ทั้งๆที่ช่อง3HD เพิ่งสรุปหาข้อยุติในการนำคอนเท้นท์ช่อง3อะนาล็อกมาออกคู่ขนานได้ในช่อง3HD เมื่อต้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา แล้วทำไมจึงสามารถอยู่ในอันดับที่6ได้ นั่นเพราะเดิมผู้ชมสามารถรับชมช่อง3HD จากทางเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมได้อยู่แล้ว
ส่วนคอนเท้นท์ที่รับชมจนทำให้อยู่ในอันดับที่6 คือ ซีรีส์หนังจีน ที่นำมารีรัน จากที่เคยออกอากาศทางช่อง3อะนาล็อกมาก่อนหน้า ซึ่งมีฐานผู้ชมค่อนข้างเหนียวแน่น และหลังจากสามารถนำคอนเท้นท์ช่อง3อะนาล็อกมาออกคู่ขนานได้แล้วนั้น เชื่อได้ว่าช่อง3HD จะก้าวสู่ท็อป3ได้อย่างไม่ต้องลงแรงมากนัก แต่ช่องใหม่ๆจะต้องทำงานหนักมากขึ้นแทน
***ทีวีดิจิตอลชิงฐานผู้ชมได้ 13.3%ใน7เดือน
อย่างไรก็ตาม การที่ทีวีดิจิตอลพร้อมออกอากาศอย่างสมบูรณ์ครบทั้ง 22ช่อง หลังจบปัญหาช่อง3แล้ว เชื่อได้ว่าแพลทฟอร์มทีวีดิจิตอลจะสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ชมได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มช่องประเภทHD ที่มีเลขช่องตั้งแต่ 30 ขึ้นไป //
จากเดิมในช่วง7 เดือนที่ผ่านมา(มี.ค-ก.ย.) พบว่า การเติบโตของกลุ่มผู้ชมทีวีใน 3 แพลทฟอร์มเปลี่ยนแปลงไป คือ เดือนมี.ค อันดับ1 คือ ฟรีทีวี (6ช่อง) มีส่วนแบ่งผู้ชม 79.3% อันดับ2.เคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม (คิดจาก 70สถานี) มีส่วนแบ่งผู้ชม 17.3% และอันดับ3.ทีวีดิจิตอล (22ช่อง) มีส่วนแบ่งผู้ชมเพียง 3.4% แต่พอมาถึงเดือนก.ย. พบว่าทีวีดิจิตอล มีส่วนแบ่งผู้ชมเพิ่มขึ้นเป็น 13.3%ส่วนเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม มีส่วนแบ่งผู้ชมลดลงเหลือ 14.2% และฟรีทีวี มีส่วนแบ่งผู้ชมเหลือเพียง 72.5%
ขณะที่ช่องทีวีดิจิตอลประเภทHD ปัจจุบันพบว่า 5 ช่องแรกที่มีจำนวนนาทีที่ชมเฉลี่ยต่อวันสูงสุดคือ 1.ช่อง3HD (33) 37นาที 2.ไทยรัฐ ทีวี 20นาที 3.ช่องPPTV HD 19 นาที 4.ช่องONE HD 15นาที และ5.อมรินทร์ทีวี HD 14นาที ตามลำดับ
***คอนเท้นท์ อีส คิง
แม้ว่าช่อง3HD ยังไม่ออกอากาศเต็มรูปแบบ แต่กลับสามารถยึดครองจำนวนนาทีของผู้ชมมากสุดในกลุ่มช่องทีวีดิจิตอลประเภทHD ดังนั้นการที่จะดึงคอนเท้นท์จากช่อง3อะนาล็อกมาออกคู่ขนาน ถือเป็นเกมส์สุดหินที่ผู้เล่นในช่องอื่นๆ จะต้องทำงานงานมากยิ่งขึ้น ซึ่งในขณะนี้เริ่มเห็นความเคลื่อนไหวบ้างแล้ว เช่น ช่องPPTV HD กับการปรับผังรายการเฟส3 และมุ่งเพิ่มฐานผู้ชม รวมถึงช่องอมรินทร์ทีวีที่พร้อมปรับผังไตรมาสสี่ และใช้งบอีก 1,000 ล้านบาทในปี2558
นายเขททัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด (BMB) ผู้ประกอบการสถานีโทรทัศน์ดิจิตอล ช่อง PPTV HD กล่าวว่า จะมีการปรับผังเฟส3 ช่องPPTV HDช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.นี้ ด้วยคอนเท้นท์รายการที่มีคุณภาพเพื่อช่วยขยายฐานผู้ชมและสร้างความนิยมให้กับช่องPPTV HD ให้มากขึ้น กับการเสริมความแข็งแกร่งด้วยซีรีส์เกาหลี เช่น รักรีเทิร์น (Can We Fall in Love Again?), 14 วัน สวรรค์ กำหนด (GOD’s Gift 14 days) และ ลิขิตรัก เจ้าหญิง มูยอง (The Blade and Petal) เป็นต้น รวมถึงคอนเท้นท์กีฬา อย่าง การถ่ายทอดสดฟุตบอลบุนเดสลีกาลีก จำนวน 34แมชต์ ทุกวันเสาร์ และการถ่ายทอดสดการแข่งขันชกมวยศึกราชดำเนิน Super Fight ทุกวันอาทิตย์ เป็นต้น
หลังจากที่พบว่าประเภทรายการที่ผู้ชมสนใจในทีวีดิจิตอล ได้แก่ 1. Sport 53% 2. Light Ent 16% 3. News 9% 4. Feature Film 6% 5. Drama Thai 4% 6. Drama Asian 3% 7. Documentary 3% 8. Drama Western 2% 9. Children 2% 10. Music 1% และ11. Religion 1%
“ช่องPPTV HD ถือเป็นน้องใหม่สำหรับวงการสื่อ ที่เข้ามาในอุตสาหกรรมทีวีดิจิตอล ซึ่งจะเห็นได้ว่า 5อันดับแรกของทีวีดิจิตอลจะเป็นช่องที่มีสื่ออยู่ในมือ หรืออยู่ในวงการนี้มาก่อนแล้ว มีความชัดเจนในตัวช่อง มีคอนเท้นท์ที่มีฐานผู้ชมอยู่แล้ว เช่น ละคร ของทางช่อง3 เป็นต้น การที่PPTV จะแข่งขันได้จะต้องหาคอนเท้นท์ที่ดีมาสู้
ดังนั้นจึงเลือกใช้ซีรีส์เกาหลีเป็นตัวนำใน3ปีแรกนี้ โดยหวังว่าการปรับผังใหม่นี้จะช่วยให้ช่องPPTV HD ขึ้นมาเป็นท็อป5 ในกลุ่มทีวีดิจิตอลได้ จากปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 10” นายเขมทัตต์ กล่าว
นอกจากนี้ในปีหน้าบริษัทพร้อมลงทุนอีกหลายร้อยล้านบาท ทั้งจากงบเดิม 1,000 ล้านบาท ในส่วนของคอนเท้นท์ที่ใช้ไม่หมดของปีนี้ไปจนถึงปีหน้า รวมถึงงบโปรโมชั่นอีก 100 ล้านบาทที่ยังเหลือ เพื่อขยายฐานผู้ชม ด้วยการเพิ่มจอทีวีในกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ และPG Lounge ของสายการบินบางกอกแอร์ไลน์ ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือ และงบใหม่อีก 200-300 ล้านบาท สำหรับสร้างสตูดิโอเพิ่มเติม
และออฟฟิศใหม่
ด้านนายโชคชัย ปัญจรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อมรินทร์ เทเลวิชั่น จำกัด ผู้บริหารช่องอมรินทร์ทีวี กล่าวต่อว่า ในปี2558 บริษัทพร้อมลงทุนอีกกว่า 1,000 ล้านบาท สำหรับช่องอมรินทร์ทีวี แต่ทั้งนี้ต้องขอรอดูสถานการณ์การแข่งขัน และความชัดเจนของกติกาต่างๆ ที่ทางกสท.จะนำมาใช้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ 1.คูปองแลกกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล 2.การเรียงเบอร์ช่อง และ3.แผนการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับทีวีดิจิตอล
โดยในไตรมาสสี่นี้ ทางช่องยังจะมีการปรับผังรายการใหม่อีกครั้ง และจะมีการปรับผังครั้งใหญ่ในปีหน้าอีกด้วย โดยเชื่อว่าการลงทุนในอมรินทร์ทีวี จะยังคุ้มทุนได้ใน 7 ปีตามแผนเดิมที่วางไว้ แม้ว่าในปีนี้รายได้จะต่ำกว่าเป้าอย่างมาก ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลทีวีส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบทั้งหมด
กำลังโหลดความคิดเห็น