xs
xsm
sm
md
lg

จุ้มจิ้ม-วรนันท์ จันทรัศมี ทายาทรุ่น 2 ''พิธานพาณิชย์''

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จิ้มจุ้ม-วรนันท์ จันทรัศมี
คอละครอาจจะคุ้นหน้า จุ้มจิ้ม- วรนันท์ จันทรัศมี ในบทบาทของ "มะปราง" นางรองในละครหลังช่อง 3 เรื่อง “ต้มยำรำซิ่ง” แต่บทบาทในชีวิตจริงนั้นเธอคือทายาท "พิธานพาณิชย์" อาณาจักรธุรกิจ สองหมื่นล้านบาท แห่งภาคใต้ตอนล่างครอบคลุมทั้ง รถยนต์ ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ น้ำมัน รังนก ธุรกิจสวนยางพารา แปรรูปสัตว์น้ำเพื่อส่งออก ฯลฯ ที่กำลังจะเข้ามาสานต่ออาณาจักร "พิธานพาณิชย์"

 
จุ้มจิ้ม- วรนันท์ จันทรัศมี เป็นลูกสาวคนโตของ เนตร จันทรัศมี เจ้าของ "ไดอาน่า" ห้างใหญ่แห่งแรกของภาคใต้ ที่อยู่มานานถึง 28 ปี ทั้งยังเป็นหลานทวดหลวงพิธานอำนวยกิจ หรือ จันฮกซุ่น ผู้วางรากฐานให้พิธานพาณิชย์ เติบใหญ่ในภาคใต้ตอนล่างมานับศตวรรษ นับเป็นทายาทรุ่น 2 ของ ''พิธานพาณิชย์''ที่ดูแลห้างไดอาน่า

สาวน้อยร่างบางในท่วงท่าสบายๆ เริ่มต้นพูดถึงการเข้ามาสานต่อธุรกิจครอบครัวว่า แม้พ่อและแม่ของเธอจะไม่เคยบังคับให้มารับช่วงสืบทอดงานของตระกูล แต่พ่อปลูกฝังให้ลูกได้สัมผัสการทำงานมาตั้งแต่เด็ก โดยทุกวันหลังเลิกเรียน จุ้มจิ้มจะตามพ่อไปนั่งที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ห้างไดอาน่าเป็นประจำ ช่วยหยิบของใส่ถุงบ้าง ช่วยรับเงิน ทอนเงินบ้าง ทำให้ซึมซับและชอบค้าขายโดยปริยาย

“อารมณ์ตอนนั้นอยากเป็นแคชเชียร์นะ เพราะเวลากดเครื่องคิดเลขลิ้นชักที่ใส่เงินด้านล่างก็เด้งออกมาเอง สนุกมากค่ะ(หัวเราะ) พอโตพ่อให้มาเรียนที่กรุงเทพฯ ได้เจอสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ความคิดก็เปลี่ยนไป แต่ทุกครั้งที่กลับใต้ก็จะช่วยงานที่ไดอาน่าตลอด พ่อไม่เคยพูดว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ให้ลองผิด-ถูกเอง ตอนเรียนอยู่ปี 2 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ่อก็ยกพื้นที่ที่ไดอาน่าให้ 50 ตารางเมตร บอกแค่ว่า “ทำอย่างไรก็ได้ ให้พื้นที่ตรงนี้ทำเงินขึ้นมาได้” จิ้มก็เลยจัดพื้นที่เป็นห้องของเจ้าหญิง ขายเสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋า รองเท้าสำหรับผู้หญิงสไตล์เกาหลี ก็ปรากฏว่าขายดีค่ะ”

จากพื้นที่เล็กๆ ตรงนั้น ทำให้จุ้มจิ้มเรียนรู้ว่า เธอต้องตกแต่งพื้นที่และใช้ไฟอย่างไร จึงจะสร้างความสนใจให้ลูกค้าได้ และจะบริหารการขายหน้าร้านอย่างไร ให้คุ้มกับรายรับรายจ่าย บทเรียนครั้งนั้นทำให้รักและหวงแหนอาชีพการค้ามาก

หลังจบปริญญาตรี จุ้มจิ้มจึงเลือกลงเรียนบริหารธุรกิจคอร์สสั้นๆ เพื่อเติมความรู้ทางธุรกิจที่จำเป็น ก่อนจะเข้ามาบริหารไดอาน่าเต็มตัวเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยเริ่มจากเป็นผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด และขึ้นมาเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทศูนย์การค้าไดอาน่าคอมเพล็กซ์

สำหรับห้างไดอาน่าในเวลานี้ แม้จะเป็นห้างโลคัลเล็ก ๆ แต่ก็มีบริการครบครันเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของคนภาคใต้ ทั้งในฐานะลูกค้าและนายจ้าง ดังนั้น เมื่อเศรษฐกิจขยายตัวมากขึ้น ห้างเล็ก ๆ ที่เคยเป็นเจ้าถิ่นอย่างไดอาน่าก็เริ่มจะถูกท้าทายด้วยห้างสรรพสินค้าชื่อดังจากกรุงเทพฯ จึงเป็นหน้าที่ของผู้บริหารหน้าใหม่ที่ชื่อ “จุ้มจิ้ม” ว่าจะหาทางรับมือกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างไร

“คุณพ่อสอนเสมอว่า เราไม่ได้ใหญ่ที่สุด แต่ขอแค่เราเป็นห้างที่มีกำไรพอเลี้ยงพนักงาน คืนกำไรให้ลูกค้า มีส่วนแบ่งไปทำอะไรเพื่อสังคมบ้างพอแล้ว เราเป็นห้างเล็กที่ไม่คิดจะชนกับใคร อาจเจ็บบ้าง แต่เรารักษาได้ จุดแข็งของห้างไดอาน่า คืออบอุ่น เป็นกันเอง เหมือนบ้าน ไม่เน้นความหรูหรา พนักงานเป็นกันเอง กับลูกค้า นอกจากนี้เรายังขายถูก ยังมีความเป็นท้องถิ่น มีความผูกพันของฐานลูกค้าที่เหนียวแน่นอีกมาก ความต่างตรงนี้จิ้มมั่นใจว่าเราอยู่ได้”

ปัจจุบันไดอาน่ามีรูปแบบทั้งที่เป็นศูนย์การค้าใหญ่ มินิมาร์ท และห้างขนาดเล็ก รวมทั้งหมด 5 สาขาในหาดใหญ่ และชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยจุ้มจิ้ม วางแผนในอนาคตจะพยายามทำให้ไดอาน่าเป็น landmark ของภาคใต้ตอนล่าง ที่ใครมาก็ต้องแวะ

"ก่อนหน้านี้ไดอาน่ามีทั้งหมด 7 สาขา รวมที่ปัตตานีและยะลาด้วย แต่เพราะปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีระเบิด มีความไม่ปลอดภัยทั้งกับพนักงานและลูกค้าที่เราไม่สามารถควบคุมได้ ครอบครัวก็เลยตัดสินใจให้ปิด 2 สาขาที่มีปัญหาไป หากมีโอกาสก็คงจะได้เปิดให้บริการอีก”

นอกเหนือจากบทบาทการเป็นนักธุรกิจสาวแล้ว ทุกวันนี้จุ้มจิ้มก็ยังมีความสุขกับงานในวงการบันเทิงอยู่อีกด้วย โดยล่าสุดเธอมาเป็นพิธีกรรายการเกี่ยวกับเทคโนโลยีให้ช่องนิวทีวีของเดลินิวส์

“ตรงนี้เท่ากับได้ฝึกสมองตัวเองด้วยค่ะ จิ้มต้องทำการบ้านอัพเดทเทคโนโลยีใหม่ๆของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เหนื่อยนิดนึงแต่สนุกนะคะ ต้องบินไป-มาระหว่างกรุงเทพฯ-หาดใหญ่ คือ จันทร์ถึงพุธ จะให้เป็นเวลาของงานในวงการบันเทิง ส่วนพฤหัสถึงอาทิตย์จะบินกลับไปดูงานที่หาดใหญ่”

สาวน้อย “จิ้มจุ้ม” ยังพูดถึงเป้าหมายในอนาคตของเธอว่า ก็คงทำงานควบคู่กันไป ในเรื่องของธุรกิจอยากพัฒนาห้างไดอาน่าให้อยู่คู่กับคนใต้ตราบนานเท่านาน
กำลังโหลดความคิดเห็น